อควาเรียมหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันไซคงจะหนีไม่พ้นไคยูคัง แต่ใครจะรู้ว่าเมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้จะมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร สามารถมาเที่ยวได้ทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็น ๆ

กระเบื้องตกแต่งกำแพงของอควาเรียม
ถ้าใครพาเด็ก ๆ มาเที่ยวแนะนำให้มาในช่วงกลางวันค่ะ แต่ถ้าใครเป็นสายชอบบรรยากาศเงียบ ๆ คนน้อย ก็อาจจะเลือกมาช่วงเย็นได้ค่ะ ถ้าหากว่าช่วงพระอาทิตย์ตกอาจจะมีข้อเสียคืออาจจะมองไม่เห็นสัตว์น้ำบางประเภท เช่น แมวน้ำ สิงโตทะเล หรือนกเพนกวินว่ายน้ำ รวมถึงโชว์ปลาโลมาค่ะ แต่ข้อดีจะเหมาะกับคนที่อยากมาถ่ายรูปสวย ๆ เพราะคนจะน้อยค่ะ
เดินทางสู่อควาเรียมแห่งเมืองเกียวโต
อควาเรียมแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเกียวโตสายเจอาร์ สามารถเดินมาได้ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

เมื่อเราเข้าไปข้างในอควาเรียมแห่งแรก สิ่งแรกที่เราจะเจอนั่นก็คือ โอซังโชอุโอ หรือซาลาแมนเดอร์น้ำขนาดยักษ์ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่เป็นตัวแทนของอควาเรียมเมืองเกียวโตเลยก็ว่าได้ค่ะ ถ้าให้เทียบว่าไคยูคังมีปลาฉลามวาฬเป็นตัวชูโรง ที่อควาเรียมแห่งนี้ ตัวชูโรงก็คือโอซังโชอุโอค่ะ ซึ่งโอซังโชอุโอเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่พบได้ในแม่น้ำของประเทศญี่ปุ่นค่ะ ปัจจุบันโอซังโชอุโอที่เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นได้รับการคุ้มครอง ห้ามล่า และถ้าพบเห็นต้องแจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในปัจจุบันโอซังโชอุโอ สายพันธุ์ดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นลดน้อยลงเป็นจำนวนมาก แต่กลับพบสายพันธุ์ต่างประเทศที่มาจากประเทศจีนมากขึ้น สาเหตุเป็นเพราะได้มีการนำเข้าโอซังโชอุโอสายพันธุ์ประเทศจีนเข้ามาตั้งแต่สมัยเอโดะเพื่อบริโภคเนื้อ และเมื่อโอซังอุโอสายพันธุ์ต่างประเทศหลุดไปในแหล่งน้ำธรรมชาติ ก็มีการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว ด้วยความที่มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าสายพันธุ์ของประเทศประเทศญี่ปุ่น ทำให้ปัจจุบันสายพันธุ์ต่างประเทศมีมากกว่าและทำให้สายพันธุ์ญี่ปุ่นลดลง ถ้าหากใครพบต้องแจ้งอควาเรียมทราบ เพื่อจะย้ายมาเก็บรักษาไว้ที่นี่ไม่ให้มีการแพร่พันธุ์ ดังนั้นอควาเรียมของเมืองเกียวโตจึงจัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับโอซังโชอุโอ และช่วงนี้มีการจัดแสดงมุมให้ความรู้พิเศษเกี่ยวกับโอซังโชอุโอ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองสัมผัสทั้ง 5 เกี่ยวกับโอซังโชอุโอไม่ว่าจะเป็นการสัมผัม ดมกลิ่ม ดูฟันจากซากกระดูก ฟังเสียง เป็นต้น

จำลองผิวสัมผัสที่มือของโอซังโชอุโอค่ะ

อันนี้ให้ลองดมกลิ่นค่ะ คือเหม็นมาก คนญี่ปุ่นบอกว่ามันเหมือนกลิ่นเครื่องเทศที่ชื่อว่า ซังโชค่ะ

นี่คือสายพันธุ์ของประเทศญี่ปุ่นที่แยกอยู่ในแท็งค์เดี่ยวค่ะ มีลวดลายและขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ของประเทศจีนที่อยู่แท็งค์ข้าง ๆ

ในแท็งค์ใหญ่จะมีโอซังโชอุโอสายพันธุ์ประเทศจีนอยู่เป็นจำนวนมาก มีขนาดตัวที่ใหญ่มากและมีแรงกัดที่รุนแรงดังนั้นห้ามยื่นมือลงไปในแท็งค์นะคะ

มีให้ลองเทียบขนาดตัวกับโอซังโชอุโอตัวเต็มวัยค่ะ ตัวใหญ่ประมาณเด็กประถมเลยทีเดียวค่ะ

ต่อมาเป็นส่วนของแมวน้ำและสิงโตทะเล เราสามารถมองเห็นสิงโตทะเลและแมวน้ำได้แบบใกล้ ๆ เลยค่ะ แมวน้ำที่กำลังหลับในแท็งค์น้ำแบบสบายใจก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ

ต่อมาเราจะสามารถเห็นเพนกวินว่ายน้ำได้ค่ะ แต่ที่น่าสนใจคือ มีแผนผังความสัมพันธ์ของเพนกวินในอควาเรียมด้วยค่ะ เรียกได้ว่าน่ารักและความสัมพันธ์ซับซ้อนชวนอมยิ้มเลยทีเดียวค่ะ

ภาพตารางความสัมพันธ์ของนกเพนกวิน



พอใกล้ช่วงปิดทำการนกเพนกวินก็เริ่มจะหลับกันแล้วค่ะ
เพนกวินเวลาว่ายน้ำแบบนี้รวดเร็วและเหมือนกับมันกำลังบินเลยค่ะ ซึ่งถ้ามาดึกเพนกวินจะไม่ลงมาว่ายน้ำแล้วค่ะ จะต้องเดินขึ้นไปดูข้างบนแทนค่ะ ซึ่งเพนกวินที่นอนพักอยู่ข้างบนก็น่ารักน่าเอ็นดูค่ะ


ต่อมาเป็นแท็งค์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่าทะเลของเมืองเกียวโต จะมีสัตว์ทะเลที่เราสามารถค้นพบได้ในทะเลของเกียวโต ตรงนี้ถ้ามาดึก ๆ หน่อยเราสามารถนั่งชมจากทางชั้นหนึ่งและชั้นสองได้เพลิน ๆ หรือถ่ายรูปกับแท็งค์ได้สวย ๆ เลยค่ะ
แมงกระพรุนหลากหลายสายพันธุ์


อีกจุดหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของอควาเรียมแห่งนี้คือ แมงกระพรุนหลากหลายสายพันธุ์และโดมแมงกระพรุนค่ะ คือเราสามารถมุดเข้าในแท็งค์น้ำทรงโดม จะเหมือนกับเราได้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งแมงกระพรุน ใครเป็นแฟนคลับของแมงกระพรุน ถ้ามาไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ แถมยังมีโซนให้วิเคราะห์นิสัยเราว่าเราจะเป็นแมงกระพรุนสายพันธุ์อะไรด้วยค่ะ

จุดโชว์ปลาโลมา
ภาพตอนโชว์ปลาโลมา
ถ้าหากมาในช่วงกลางวันก็จะมีโชว์ปลาโลมา แต่ถ้ามาช่วงเย็น ก็จะมีการแสดงม่านน้ำ และทางอควาเรียมจะปล่อยให้ปลาโลมาว่ายน้ำได้อย่างอิสระ ซึ่งปลาโลมาก็ว่ายน้ำกระโดดโชว์ตัวแบบไม่ต้องมีครูฝึกมาออกคำสั่งเลยค่ะ

โชว์ม่านน้ำ ณ จุดโชว์ปลาโลมาค่ะ
บริเวณสุดท้ายก่อนกลับ

กระดิ่งลมแก้วที่เป่าให้เป็นรูปแมงกระพรุนสายพันธ์ุต่าง ๆ ของอควาเรียม ซึ่งจะมีจัดแสดงพิเศษเฉพาะช่วงฤดูร้อนเท่านั้น ถ้าหากมาช่วงเดือนตุลาคมก็จะไม่เจอแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเป็นลิมิตเตทไอเทมสำหรับฤดูร้อนเท่านั้น
ของฝากสุดพิเศษ

ก่อนจะกลับ เราก็ต้องไม่พลาดของฝาก ของฝากที่น่าสนใจคือตุ๊กตาโอซังโชอุโอขนาดต่าง ๆ และยังมีโอซังโชอุโอที่มีไอเท็มประจำฤดูกาลด้วย อย่างเช่นในรูปนี้ตุ๊กตาโอซังโชอุโอจะมีใบเมเปิ้ลสีแดงแปะอยู่เป็นสินค้าเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น ตุ๊กตามีหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดเท่าตัวจริงด้วยค่ะ เด็ก ๆ ญี่ปุ่นหลายคนซื้อกลับไปกันเยอะเลยค่ะ

และถ้าหากใครเป็นสายขนมก็สามารถซื้อของฝากเป็นรูปโอซังโชอุได้ เรียกได้ว่าแปลกไม่เหมือนใครเลยค่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม
Kyoto Aquarium
ที่อยู่
35-1 Kankiji-chou, Shimogyou-ku, Kyoto-shi, Kyoto 600-8835
วิธีเดินทาง
เดินจากสถานีรถไฟเกียวโตสายเจอาร์ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
เวลาทำการ
สามารถเช็คเวลาได้จากตารางเวลาบนเว็บไซต์ค่ะ https://www.kyoto-aquarium.com/img/about/pdf_calender2024.pdf?1725238931
ราคา
ผู้ใหญ่ 2,400เยน นักเรียนระดับมัธยมปลาย 1,800เยน นักเรียนระดับประถมถึงมัธยมต้น 1,200เยน และเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป 800 เยน
โทรศัพท์
+81 75-354-3130
