blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ค้นพบปราสาทฮิเมจิ หนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น

ภูมิภาค
หัวข้อที่เกี่ยว
ค้นพบปราสาทฮิเมจิ หนึ่งในปราสาทที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น-502c3655

ผู้ร่วมเดินทาง

| เพื่อน |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 35000 - 49999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 6 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • ปราสาทฮิเมจิ

ปราสาทฮิเมจิเป็นหนึ่งในปราสาทที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโกะ ทางตอนตะวันตกของประเทศ เดินทางประมาณ 45 นาที ด้วยรถไฟชิงคันเซ็นจากโอซาก้า 

ปราสาทฮิเมจิถือเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมและมีความงดงามที่น่าทึ่งที่สุด ทั้งภายในและภายนอกปราสาท มีอายุรวมกว่า 700 ปี ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกโดยผู้ปกครองชื่อ Akamatsu Sadanori หลังจากนั้นก็ได้ผ่านสงครามมารวมๆกว่า 200 ปี จนมาถึงยุคสมัยของผู้ปกครองโชกุนที่ชื่อ Toyotomi Hideyoshi ได้สร้างปราสาทขึ้นต่อไปอีก 3 ชั้น และก็ได้ผ่านสงครามมาต่อจนถึงคริสตศักราช 1,601 ที่โชกุนชื่อดัง Tokugawa Ieyatsu ได้มาปกครองปราสาทแห่งนี้ต่อมา ในปี ค.ศ 1993 จึงถูกจัดเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกจนมีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน 

ปราสาทฮิเมจิยังเป็นที่รู้จักกันว่า "ปราสาทนกกระเรียนสีขาว" เป็นผลงานศิลปะสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ยอดเยี่ยมอันหลงตัว โดดเด่นด้วยระบบฉากกั้นเสริมป้องกันที่ซับซ้อน รวมถึงกำแพงป้องกัน ประตูและอาคารที่เชื่อมต่อกัน ปราสาทได้รับการปรับปรุงและเพิ่มเติมหลายศตวรรษที่ผ่านมาเพื่อใช้ในการป้องกันอันเป็นหลักตามโชกุนผู้มีอำนาจในสมัยนั้น ในอดีต ปราสาทนี้เคยถูกโจมตีและทำลายโดยระบบกองทัพของญี่ปุ่น แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ในทุกครั้งที่ถูกทำลายและเสียหาย เจ้าของปราสาทฮิเมจิก็ได้กู้คืนและซ่อมแซมใหม่ทุกครั้ง จึงทำให้ปราสาทฮิเมจิยังคงอยู่อย่างสง่างามและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศญี่ปุ่น

เมื่อมาถึงจุดแรกหลังจากการซื้อตั๋วค่าเข้าทางด้านหน้าแล้ว เราก็จะต้องมีการถอดรองเท้าใส่ถุงพลาสติกที่มีการจัดวางไว้ให้ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในตัวประสาท ซึ่งทางองค์การยูเนสโกก็ได้มีการรักษาและทำนุบำรุงตัวประสาทไว้ให้คงสภาพเดิมได้มากที่สุด พอเราเข้ามาถึงตัวประสาทก็จะเห็นนิทรรศการแสดงถึงโครงสร้างของตัวประสาททั้ง 6 ชั้นและข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของปราสาทฮิเมจินี้ เช่นชุดเกาะทหารและอาวุธเครื่องมือต่างๆที่ใช้ในการปกป้องปราสาทในสมัยนั้น

ขึ้นมาชั้นถัดไปก็จะเห็นที่วางปืนและอาวุธของทหารเรียงรายไปตามกำแพง และที่โดดเด่นคือตรงปากทางขึ้นบันไดจะมีประตูไว้สำหรับปิดกันข้าศึกที่บุกรุกเข้ามาในปราสาทไม่ให้สามารถขึ้นไปจนถึงชั้นถัดๆไปได้ ซึ่งทุกชั้นก็จะมีประตูลักษณะนี้นี้ปิดอยู่ที่ตรงบันไดไว้ป้องกันข้าศึก

เดินขึ้นมาที่ชั้น 3 ก็จะเห็นเป็นห้องโถงกว้างๆดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ชั้นนี้แสดงถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดของการก่อสร้างและสถาปัตยกรรมประสาทฮิเมจินั่นคือ เสาเอกที่ทำจากวัสดุไม้ทั้งแท่นคอยประคองและเป็นจุดศูนย์กลางของตัวปราสาท คงทนแข็งแรงมาจนถึงปัจจุบันซึ่งมีขนาดใหญ่และกว้างมาก 

เดินขึ้นมาอีกที่ชั้น 4 ก็จะเห็นเหมือนเป็นหน้าต่าง ที่สามารถเปิด - ปิดได้ จริงๆแล้วหน้าต่างนี้ไว้สำหรับทหารในวังคอยซ่อนตัวเพื่อจู่โจมศัตรูที่กำลังเข้ามาภายนอกโดยการยิงจากด้านบน 

เดินขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุดชั้นที่ 6 ก็จะเห็นว่ามีศาลเจ้าประทับอยู่เหนือสุดของปราสาท แต่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือวิวทิวทัศน์ที่เราสามารถมองเห็นทั้งตัวเมืองของฮิเมจิได้จากชั้น 6 ยอดประสาทนี้อย่างสวยงามและสุดหูสุดตา 

การเดินขึ้นเดินลงภายในตัวปราสาทนั้นจะเป็นบันไดไม้ ซึ่งบางจุดก็ค่อนข้างชัน อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องเข่าหรือเดินไม่ค่อยคล่อง แต่สำหรับใครที่แข็งแรงก็แนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ลองเข้ามาชมภายในตัวประสาทและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆมากมายตามประวัติศาสตร์ของปราสาทแห่งนี้

เมื่อเดินออกมาจากตัวประสาทก็จะเป็นลานกว้างที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปโดยมี background เป็นปราสาททั้งหลังใหญ่โตมโหฬาร เมื่อเดินออกมาทางทางออกก็จะเห็นประตูที่ 6 ซึ่งจริงๆแล้วประตูนี้เป็นประตูทางเข้าหลักแต่นักท่องเที่ยวจะเดินเข้าอีกประตูนึงซึ่งเป็นด้านข้างของปราสาท ประตูนี้มีเอกลักษณ์ที่พิเศษนั่นคือความหนาของตัวประตูที่ทำด้วยเหล็กชิ้นใหญ่หนา 3 ชั้นไว้ป้องกันข้าศึก ไม่ให้สามารถทำลายประตูเข้ามาภายในบริเวณของประสาทได้ 

เมื่อคุณได้เข้าชมปราสาทฮิเมจิ คุณจะได้พบกับเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น คุณสามารถเดินชมในภายในปราสาทเพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ภายในปราสาทที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในอดีต 

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินเล่นรอบปราสาทฮิเมจิเพื่อเพลิดเพลินกับความงดงามของสวนและสนามหญ้าที่เป็นที่ที่สำหรับชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนในวันที่มีอากาศดี ยังมีลานกว้างหน้าปราสาทไว้สำหรับจัดงานนิทรรศการและประเพณีที่จัดขึ้นในช่วงปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกซากุระกว่า 1000 ต้นในบริเวณรอบๆประสาทแห่งนี้อย่างสวยงาม 

*รูปภาพทั้งหมดถ่ายด้วยนักเขียนเอง 

Watch video in detail

 

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!