ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะเป็นประเทศท่องเที่ยวยอดนิยม สำหรับการช็อปปิ้งและการกินแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งประเทศในทวีปเอเชียที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากเช่นกัน
โดยเฉพาะทัศนียภาพทางหุบเขา ประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภูเขาที่สวยงามหลายแห่ง ตั้งแต่เหนือจดใต้ เหมาะแก่การปีนเขา การเล่นสกีในฤดูหนาว รวมถึงการชมความสวยงามของภูเขาและธรรมชาติในพื้นที่นั้นอีกด้วย ภูเขาไฟฟูจิที่โด่งดังก็ได้เป็นหนึ่งในรายชื่อสถานที่มรดกโลกทางวัฒนธรรมไปแล้ว
นอกเหนือจากนี้ ยังมีภูเขาชื่อดังหลายแห่งที่นักท่องเที่ยวทางธรรมชาติห้ามพลาดไปเยี่ยมชมความสวยงาม ทั้งภาพ Panorama ของภูเขาทั้งลูก รวมไปถึงการได้ขึ้นไปบนยอดภูเขาเพื่อชมความสวยงามของทั้งเมืองด้วย
Mt. Takao, Tokyo
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Takao-san_Top.JPG
หนึ่งในภูเขาที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดของคนญี่ปุ่น Mt. Takao ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของโตเกียวออกไปนอกเมือง ห่างจากจุดศูนย์กลางประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดฮิตของคนเมือง มีความสูงประมาณ 599 เมตร เหมาะสมสำหรับผู้ที่อยากลองปีนเขาครั้งแรก ใช้เวลาการเดินจากจุดเริ่มต้นถึงยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีเคเบิลคาร์ให้บริการถึงจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวทั้วไปที่อยากมาชมบรรยากาศทางธรรมชาติ และในวันที่อากาศดีจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากไกลๆเลย ระหว่างทางยังมีวัดโบราณชื่อดัง Yakuoin อายุมากกว่า 1,200 ปี หนึ่งในวัดที่คนญี่ปุ่นจำนวนมากมารับพลักบวกและนมัสการขอพรให้สมหวังในเรื่องต่างๆ
Mt. Takao จะได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ล่วง ต้นไม้บนภูเขาจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดงทั้งภูเขา ให้บรรยากาศที่สัมผัสไม่ได้ในประเทศไทย อากาศก็ไม่ร้อน วิวก็สวยมาก ช่วงนี้จึงเป็น High season ของการเดิน Mt. Takao
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.keio.co.jp/english/sightseeing/takao.html
Mt. Nokogiri, Chiba
Photo from https://en.japantravel.com/places/chiba/mount-nokogiri/409
ภูเขาชื่อดังในจังหวัด Chiba มีความสูง 329 เมตร Mt. Nokogiri มีจุดเด่นที่จุดชมวิวบนยอดเขาซึ่งเป็นหน้าผาเหมือนรูปเคี้ยวฟันยื่นออกมาจากตัวภูเขา เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติตั้งแต่สมัยโบราณ เราสามารถเห็นวิวพื้นสีเขียวของเทือกเขาบริเวณนี้ รวมถึงอ่าวโตเกียวอย่างสวยงาม ถ้าวันไหนอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งก็จะเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย ใครที่ไม่อยากเดินก็มี Ropeway คอยให้บริการขึ้นไปถึงยอดชมวิว
การเดินปีนเขา Mt. Nokogiri ค่อนข้างง่าย เส้นทางไม่ชันเหมือนการเดินเล่นทั่วไป ทำให้เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่นหลายคนที่ชอบธรรมชาติ ที่ตีนเขาทางด้านทิศใต้ระหว่างทางลงจากยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัด Nihonji temple และบริเวณไม่ห่างจากวัดมีรูปปั้นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูงกว่า 31 เมตร จัดเป็นหนึ่งในรูปปั้นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีรูปปั้นพระพุทธรูปเล็กๆมากกว่า 500 รูป เรียงรายอยู่ตามพื้นที่ของวัด ซึ่งเขาว่ากันว่าเมื่อก่อนมีมากกว่า 1,500 รูปเลยทีเดียว
ใช้เวลาเดินทางจากใจกลางเมืองโตเกียวไม่ถึง 2 ชั่วโมงโดยรถไฟสาย JR ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีรถไฟขบวนด่วนพิเศษออกจากสถานีชินจูกุ ถึงสถานี Hamakana-ya สถานีที่ใกล้ที่สุดของจุดเริ่มต้นการท่องเที่ยวที่ Mt. Nokogiri
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.mt-nokogiri.co.jp/pc/pdf/19brochure_us.pdf
Mt. Hakodate, Hokkaido
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Evening_view_of_Hakodate_city_from_Mount_Hakodate.jpg
1 ในยอดเขาที่ขึ้นชื่อว่ามีวิวตอนกลางคืนที่สวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของโลก เคียงข้างกับ ฮ่องกงและเมืองนาโปลีในประเทศอิตาลี Mt. Hakodate ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองฮาโกดาเตะบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งมีความสูงกว่า 334 เมตรเหนือน้ำทะเล มี Ropeway คอยให้บริการไปชมวิวบนยอดเขา ซึ่งเราจะได้เห็นภาพพาโนรามาของเมืองฮาโกดาเตะทั้งเมืองที่อยู่เป็นคาบสมุทรบนอ่าวทะเลฮาโกดาเตะอย่างสวยงาม
บนยอดเขานอกจะมีจุดชมวิวแล้ว ยังมีคาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร ให้นักท่องเที่ยวได้ Enjoy อย่างเต็มที่ ในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะขาวปกคลุมทั่วเมือง ก็จะเห็นเมืองในอีกภาพลักษณ์ที่สวยงามเหมือนหมู่บ้านหิมะที่คาบด้วยมหาสมุทรสีครามทั้ง 2 ฝั่ง แต่บนยอดเขาก็จะทั้งหนาวทั้งลม อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์เพิ่มความอบอุ่นก่อนที่จะมาเที่ยวเมืองนี้กันนะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ropeway : https://334.co.jp/en/
Mt. Hotaka-Shinhotaka Ropeway, Gifu
Photo from https://visitgifu.com/see-do/shinhotaka-ropeway/
มาถึงภาคกลางของประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง ถ้าพูดถึงสวิตเซอร์แลนด์ในญี่ปุ่นก็ต้องที่นี่เลย Mt. Hotaka ในเมือง Takayama จังหวัด Gifu จุดเด่นของที่นี่คือการได้ขึ้น Shinhotaka Ropeway ชมทัศนียภาพของเทือกเขาจากบนฟ้า
Ropeway ที่นี่เป็นห้องโดยสารหนึ่งเดียวในประเทศญี่ปุ่นที่มี 2 ชั้น พาคุณสู่โลกเหนือก้อนเมฆ บนความสูงกว่า 2156 เมตรเหนือน้ำทะเล สามารถชมวิวของเทือกเขาเอลฟ์ สวิตเซอร์แลนด์เมืองญี่ปุ่นได้อย่างเต็มที่ 360 องศา โดยที่ทัศนียภาพในแต่ละฤดูก็แตกต่างกันไป จุดเด่นคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่เทือกเขาจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีเหลืองและสีแดงอย่างสวยงาม และฤดูหนาวที่จะขาวโพลนด้วยหิมะปกคลุม เหมือนทัศนียภาพในยุโรป เมื่อถึงบนยอดเขาก็จะอึ้งอลังการกับความสวยงามของเทือกเขาที่นี่ด้วยภาพแบบพาโนรามาอย่างเต็มตา
ใครที่มาเที่ยวเขตภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเมืองนาโกย่าหรือจังหวัดกิฟุกุ ห้ามพลาดต้องหาโอกาสมาขึ้น Shinhotaka Ropeway ที่นี่ให้ได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ropeway : https://shinhotaka-ropeway.jp/en/
Mt. Inasa, Nagasaki
Photo from https://www.flickr.com/photos/dgmckelvey/32435094854
ลงมาทางภาคใต้บนเกาะคิวชูกันบ้าง ที่จังหวัดนางาซากิ เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีเทือกเขาชื่อดังที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาได้ และวิวที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นวิวหลักสิบล้านสวยติดอันดับประเทศ สูสีแข่งแย่งที่ 1 กันกับวิวกลางคืนในจังหวัดฮาโกดาเตะบนเกาะฮอกไกโดที่ได้แนะนำแล้วตอนต้น
Mt. Inasa ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเมืองนางาซากิ มีความสูงประมาณ 333 เมตรเหนือน้ำทะเล เป็นจุดดูวิวตอนกลางคืนยอดนิยม 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ใช้ Ropeway ในการขึ้นไปถึงยอดเขาเช่นกัน บนยอดเขาก็จะมีจุดชมวิวแบบ 360 องศาซึ่งเราจะเห็นวิวทั้งเมืองนางาซากิที่ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาและทะเลซึ่งจัดว่า unique มาก ทำให้เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง นอกจากนี้ก็มีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกที่บริเวณจุดชมวิว
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.discover-nagasaki.com/en/sightseeing/115
Mt. Tate,Toyama
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Mount_Tate_from_Mount_Betsu_1995-08-20.jpg
หนึ่งในเทือกเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นกว่า 3,000 เมตรเหนือน้ำทะเล Mt. Tate ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่นในจังหวัดโทยาม่า อีกทั้ง ยังเป็นหนึ่งในภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เคียงคู่กับภูเขาไฟฟูจิ
Mt. Tate มีความสวยงามเหมือนเทือกเขาเอลฟ์ตอนเหนือในยุโรป ซึ่งเป็นที่นิยมของนักปีนเขามาชมความสวยงามของเทือกเขากันมากในช่วงฤดูร้อน เพราะเส้นทางการปีนเขาก็ไม่ได้ชันมากและสามารถเดินครบพิชิตยอดเขาได้ภายใน 1 วัน ระหว่างทางนอกจากได้ชมทัศนียภาพบรรยากาศยุโรปในญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีทุ่งดอกไม้ตามทางให้เราได้รู้สึกสดชื่นระหว่างการเดินและกลิ้งไปตามทางภูเขา
สำหรับใครที่จะมาท่องเที่ยวชมความงามของทัศนียภาพ Mt. Tate ก็สามารถท่องเที่ยวได้ตามจุดต่างๆที่ภาคพื้น ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือไปตามทะเลสาบวิวภูเขา หรือไปนอนแช่ออนเซ็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติตามแหล่งต่างๆที่ตีนเขาก็ได้ ยังมี Ropeway พานักท่องเที่ยวขึ้นไปดูความสวยงามบนภูเขาบนระดับความสูงระดับหนึ่งแต่จะไม่ถึงยอดเขา
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:20090503yukinoohtani02.JPG
ช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน เราสามารถไปชมกำแพงหิมะสูงกว่า 20 เมตร เป็นทางรถผ่านยาวด้วยหิมะที่ปกคลุมสูงทั้งสองข้างทาง เหมือนเรากำลังขับผ่านอุโมงค์หิมะเลย อีกหนึ่งบรรยากาศที่หาดูไม่ได้ในโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.japan.travel/en/spot/2188/
Mt.Fuji, Shizuoka
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Numazu_and_Mount_Fuji.jpg
มาถึงภูเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและโด่งดังเป็นที่รู้จักในระดับโลก Mt.Fuji มีความสูงกว่า 3776 เมตรเหนือน้ำทะเลตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ ไม่ไกลจากเมืองหลวงโตเกียว และเป็นภูเขาไฟใหญ่อันดับสองในเขตเอเชียรองจากภูเขาไฟในประเทศอินโดนีเซียบนเกาะสุมาตรา ด้วยความสวยงามและคุณค่าทางวัฒนธรรมของภูเขาไฟฟูจิต่อประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2013 Mt.Fuji ได้ถูกบันทึกเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก
ภูเขาไฟฟูจิจะเปิดให้นัดผจญภัยเดินทางขึ้นมาปีนเขา ชมความสวยงามของภูเขาไฟชื่อดังนี้ในช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งคือระหว่างเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนกันยายน นอกจากนี้บริเวณรอบๆภูเขาเต็มไปด้วยแหล่งออนเซ็นธรรมชาติ น้ำตกที่สวยงามในจังหวัดชิซูโอกะ ทะเลสาบคาวากุจิและสวนสนุก Fuji Q
ถ้ามาประเทศญี่ปุ่นแล้วไม่ได้มาชมความสวยงามของภูเขาไฟฟูจินี้ ถือว่ามาไม่ถึง นักท่องเที่ยวหลายคน รวมถึงชาวไทยเอง ก็จะหาโอกาสไปชมความสวยงามของภูเขาไฟนี้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการไปทัวร์เพื่อชมความธรรมชาติรอบๆภูเขา หรือแม้แต่การไปจองที่พักผ่อนในจังหวัดชิซูโอกะหรือยามานาชิ 1-2 คืน เพื่อได้ตื่นมาเปิดหน้าต่างและเห็นความสวยงามของภูเขาไฟฟูจิ ตระการตาต่อหน้าเราเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://ohhotrip.com/13421/
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ถึงแม้การพัฒนาทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของประเทศนี้ได้ก้าวหน้าไปในระดับโลก สะท้อนให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นมีความใส่ใจในการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ ในเวลาเดียวกันก็พัฒนาประเทศของตนเองไปด้วย
ที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยังมีอีกมากมายและยังมีภูเขา เทือกเขาที่น่าสนใจ สวยงามให้ชมอีกหลายๆที่ แต่วันนี้ผมได้คัดเลือกเทือกเขาที่ชื่อดังจริงๆ และมีคุณค่า คุ้มค่าที่เราควรจะหาโอกาสสักครั้งไปเที่ยวทางธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่นกัน
