ที่พักในญี่ปุ่น

มาลองพักโรงแรมที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นกันเถอะ!!

画像1-23041e57

นครแห่งสีสันยามค่ำคืนราวกับเมืองที่ไม่เคยหลับใหล.. “โยโกฮาม่า” คิดว่าหลายท่านคงรู้จักและคุ้นเคยกับเมืองนี้เป็นอย่างดี ต่อให้ไม่เคยมาเที่ยวที่เมืองนี้แต่ก็ต้องเคยได้ยินชื่อกันบ้างแหละ

ด้วยความที่โยโกฮาม่ามีชื่อเสียงพอสมควรจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวมากมายต่างแวะเวียนมาเยือนและมีบทความรีวิวสถานที่จุดเช็คอินต่างๆในเมืองนี้ค่อนข้างเยอะพอสมควร

ฉะนั้นในบทความนี้เราจะไม่ขอเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวก็แล้วกันนะคะ แต่เราจะพาทุกท่านมาชมห้องพักชั้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นกันค่ะ อาจจะมีหลายท่านที่เคยมาพักแล้วก็ได้…

สัญลักษณ์แห่งโยโกฮาม่า 

“หอคอยโยโกฮาม่าแลนด์มาร์คทาวเวอร์ (Landmark Tower)” เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งโยโกฮาม่า ได้ครองตำแหน่ง “ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น” เป็นเวลาประมาณ 20 ปีนับตั้งแต่เปิดตัวในปี1993 มีความสูงประมาณ 296 เมตร!  ซึ่งในตึกมีห้างสรรพสินค้า มีร้านอาหาร สำนักงานของบริษัทต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมYokohama Royal Park  ครบจบในตึกเดียว 

CR: https://www.abenoharukas-300.jp/en/

แต่เมื่อตึก Abeno Harukas ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมOsaka Marriott Miyako ถูกสร้างขึ้นในปี 2014 ด้วยความสูง300 เมตร จึงทำให้ ตึกแลนด์มาร์คทาวเวอร์แห่งโยโกฮาม่า กลายอันดับสองในทันที

แม้ความสูงของตึกจะแพ้ แต่ว่าโรงแรมที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นโรงแรม Yokohama Royal Park อยู่ดี อิอิ เดี๋ยวจะมาอธิบายให้ฟังค่ะว่าทำไม.. 

โรงแรม Osaka Marriott Miyako มีห้องพักตั้งแต่ชั้น 38 ถึง 55 ซึ่งห้องชั้นบนสุดคืออิมพีเรียลสวีท ชั้น 55 อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 258 เมตร 

ส่วนโรงแรม Yokohama Royal Park มีห้องพักตั้งแต่ชั้น 52 ถึงชั้น 67 ห้องสกายรีสอร์ท “The Top” บนชั้น 67 อยู่สูงพื้นดินประมาณ 263 เมตร! จึงทำให้โรงแรม Yokohama Royal Park เป็นโรงแรมที่ความสูงของห้องสูงที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ 

ไหนๆก็เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว คิดว่าทุกท่านคงเริ่มทราบกันแล้วแหละว่า วันนี้เราจะมาแนะนำห้องพักสกายรีสอร์ทบนชั้น67 ให้ทุกท่านได้รับชมกันว่าลักษณะห้อง และวิวจากห้องพักที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไร

โรงแรมโยโกฮาม่า รอยัล ปาร์ค (Yokohama Royal Park Hotel)

โรงแรมหรูที่อยู่บนยอดตึกแลนด์มาร์คทาวเวอร์(Landmark Tower) ซึ่งถือกำเนิดขึ้นราวกับเป็นสัญลักษณ์ของYokohama Minatomirai 21

เดินทางมาเที่ยวเมืองท่าเรือแห่งสีสันอย่างโยโกฮาม่าทีไรก็จะเห็นตึกแลนด์มาร์คทาวเวอร์สูงเด่นเป็นสง่ากลางใจเมือง ถ่ายรูปทีไรก็ต้องติดตึกนี้ทุกครั้งไป

มินาโตะมิไรมีชื่อเสียงเรื่องวิวทัศน์ยามค่ำคืน ที่ใครแวะเวียนมาก็ต่างต้องถ่ายรูปกันแทบจะทุกคน วันนี้อยากจะลองเพลิดเพลินกับการเข้าพักในห้องที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของมินาโตะมิไรดูค่ะ หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด 67เลยค่ะ ลิฟต์ที่นี่ขึ้นเร็วมากจริงๆ ยืนเหม่ออแปปเดียวอยู่ๆก็วาปไปชั้น 67 เลย!

เรามัวแต่แวะเที่ยวเล่นข้างนอกและทานข้าวกว่าจะมาเช็คอินก็เย็นแล้วค่ะ มาทันพระอาทิตย์ตกพอดี ว่าแต่ไหนพระอาทิตย์กันละนั่น?? อ่อ สรุปว่ามันดันไม่ตกที่ฝั่งห้องเรา ห้องเราเป็นฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น อดดูเลยค่ะ

ตึกสูงๆทั้งเมืองดูเล็กจิ๋วมากเลยค่ะ เราจองโรงแรมกระทันหันวันเข้าพักเลย จึงไม่มีห้องพักฝั่งที่มองชิงช้าสวรรค์ว่าง ครั้งถัดไปเราเลยได้จองมาพักใหม่ได้ห้องวิวที่ต้องการสมใจเลยค่ะ

ตื่นมาจิบกาแฟยามเช้าค่ะ แน่นอนว่าเราตื่นไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น แต่ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นฟูจิซังโผล่มาทักทายไกลๆนะคะ (อยู่เหนือแก้วกาแฟน่ะค่ะ มองเห็นฟูจิซังมั้ยเอ่ย)

อามูนิตี้อย่างโฟมล้างหน้าครีมอาบน้ำยาสระผมจะจัดเซตแบรนด์ดังอย่างLocitane ไว้ให้ใช้ทั้งหมด4เซ็ตค่ะ (กรณีเข้าพัก2คน) มีการ์ดเขียนว่าสามารถนำกลับบ้านได้ค่ะ

ในห้องมีเครื่องชงกาแฟและก็มีกาแฟให้เลือกดื่มหลายรสชาติเลยค่ะ

มีไวน์แช่ในตู้เย็นด้วยนะคะ เราไม่ชอบดื่มไวน์และก็ไม่ฟรีด้วย ก็เลยไม่ได้ดื่มค่ะ อิอิ  ห้องน้ำก็ใหญ่กว้างขวางดีค่ะคล้ายกับโรงแรมห้าดาวที่ไทย เรารู้สึกว่าห้องพักในโรงแรมของญี่ปุ่นถ่ายรูปออกมามันดูไม่หรูหราให้กรี๊ดอะไรขนาดนั้น แต่ที่รู้สึกได้คือ กลิ่นและบรรยากาศในห้อง กลิ่นผ้าปู ผ้าขนหนูและความนุ่มลื่นของเนื้อผ้า รู้สึกฟินกว่าBusiness Hotel อย่างรู้สึกได้ชัดเลยค่ะ 

ส่วนห้องนี้เป็นห้องชั้น64 นะคะ รอบนี้ตอนจองเรารีเควสห้องวิวฝั่งมินาโตะมิไรไปค่ะ

การ์ดเปิดประตูลายหวานๆน่ารัก

วิวจากหน้าต่างห้องก็จะประมาณนี้ค่ะ ชิงช้าสวรรค์ก็จะเปลี่ยนสลับสี หลังจากที่ชมวิวเมืองอิ่มอกอิ่มใจแล้ว วันต่อมาเราย้ายโรงแรมไปนอนอีกที่ค่ะ ซึ่งที่นั่นก็คือ…

CR: https://www.icyokohama-grand.com

โรงแรมอินเตอร์คอนติเนทัล โยโกฮาม่า แกรนด์ (Yokohama Grand InterContinental Hotel)

โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในมินาโตะมิไร เมืองโยโกฮาม่า ก่อตั้งขึ้นในปี 1991 เป็นโรงแรมแห่งแรกในญี่ปุ่นที่เข้าสู่ IHGHotels & Resortsซึ่งเป็นเครือโรงแรมสัญชาติอังฤกษซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองมาจากMarriott และ Hilton  เมื่อโรงแรมอินเตอร์คอนติเนทัลสร้างเสร็จ ตั้งแต่นั้นมาการปรากฏตัวของโรงแรมที่มีภาพลักษณ์ของเรือยอทช์ใบเรือสีขาวลอยอยู่ในทะเลได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง  เมื่อเข้าพักที่นี่จะรู้สึกเพลิดเพลินกับช่วงเวลาที่ผ่อนคลายในบรรยากาศหรูหราที่ล้อมรอบด้วยทะเลสีฟ้า

CR: https://www.icyokohama-grand.com

ในตอนแรกก่อนที่จะอ่านคอนเซ็ปของโรงแรม เราคิดว่าโรงแรมนี้เหมือนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวมากกว่าจะเป็นใบเรือของยอร์ช อิอิ

บรรยากาศในห้องพักชั้น26 ของเราค่ะ โรงแรมนี้มีทั้งหมด 31ชั้น

มองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเป็นวิวท่าเรือและท้องทะเลกว้างๆ

บรรยากาศตอนเช้าในวันที่เราพัก ท้องฟ้าจะครึ้มและฝนตกปรอยๆให้บรรยากาศอยากจิบกาแฟอุ่นๆ ด้วยความที่โรงแรมนี้เป็นโรงแรมนานาชาติ พนักงานต้อนรับลูกค้าสามารถพูดได้หลายภาษาเลยล่ะค่ะ ทั้งภาษาEnglish, French, Spanish, Italian, Portuguese, Japanese, Chinese, Russian แต่ไม่มีภาษาไทยนะคะ อิอิ

เมื่อเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้ว ก็มาเดินเล่นต่อค่ะ ตั้งแต่ปี 2021 แอร์เคบินเปิดให้บริการแล้วนะคะขึ้นได้จากหน้าสถานีซากุระงิโจ แล้วไปสิ้นสุดที่อาคารสถานีUnga park ที่เชื่อมต่อกับ Yokohama world partners

เราแนะนำให้นั่งตอนกลางคืนค่ะ บรรยากาศจะสวยกว่ากลางวันมากเลย ค่าโดยสารคนละ 1,000เยนค่ะ ในวันหยุดผู้คนจากในโตเกียวก็มาเที่ยวและเดทที่เมืองโยโกฮาม่าค่อนข้างเยอะ เพราะจากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟต่อเดียวมาถึงภายในครึ่งชั่วโมงเองค่ะ 

ด้วยความที่เมืองนี้รับอิทธิพลจากต่างชาติจึงทำให้บรรยากาศในเมืองโยโกฮาม่ามีเสน่ห์ให้กลิ่นอายที่ไม่เหมือนอยู่ญี่ปุ่นเท่าไรนัก เพราะผสมผสานวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและต่างชาติเอาไว้ด้วยกัน

สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนี้จึงมีหลากหลายไลฟ์สไตล์ให้เราได้เที่ยวชม ใครที่สนใจเมืองนี้อยากให้ลองวางแพลนไปเที่ยวดูสักครั้งค่ะ รับรองได้เลยว่าจะเป็นอีกหนึ่งทริปที่คุณต้องประทับใจอย่างแน่นอน

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Mintiney
ใครๆก็บอกว่าญี่ปุ่นเหมาะสำหรับการมาเที่ยวมากกว่าที่จะมาอยู่อาศัย แต่สำหรับเราแล้ว..ญี่ปุ่นคือประเทศที่เรารู้สึกมีความสุขที่ได้ท่องเที่ยวและมาใช้ชีวิตอยู่ จึงอยากอยากบอกเล่าความงดงามของญี่ปุ่นผ่านมุมมองของตัวเองที่หลงรักประเทศนี้จนต้องมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่เลยทีเดียว หวังว่าเรื่องเล่าของเราจะทำให้คุณหลงรักญี่ปุ่นมากขึ้นนะคะ
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!