ที่พักในญี่ปุ่น

เคล็ดลับ การเลือกโรงแรมในญี่ปุ่น

hotel-753bb635

โรงแรมหรือที่พักเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการท่องเที่ยวทุกแห่ง ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีโรงแรมหลายประเภท ตั้งแต่ระดับ 1 ดาวในราคาที่เบา ไปจนถึงระดับ 5 ดาวในราคาที่พรีเมียม  นอกจากเรื่องราคา นักท่องเที่ยวควรทำความเข้าใจกับประเภทโรงแรมของประเทศญี่ปุ่นด้วย ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นมีโรงแรมแบบนอนคนเดียว โรงแรมสำหรับการมาทำงาน โรงแรมแคปซูล โรงแรมสำหรับพักผ่อนเป็นคู่รัก เป็นครอบครัว โรงแรมเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เป็นต้น เพื่อความสะดวดสะบายในการพักผ่อนระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น วันนี้ผมได้รวบรวมเคล็ดลับการเลือกโรงแรมให้เหมาะสมต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวแต่ละประเภทมาแล้ว

เน้นประหยัดสุดๆ

Photo from https://ja.wikipedia.org/wiki/ユースホステル

มาเริ่มกันที่นักท่องเที่ยวสไตล์สบายกระเป๋ากันก่อน ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าครองชีพสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหาที่พักราคาถูกไม่ได้  โรงแรมประเภทโฮสเทล เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาที่พักราคาประหยัด โฮสเทลที่ญี่ปุ่นมีลักษณะคล้ายกับโฮสเทลทั่วไปในประเทศอื่นๆ ผู้พักส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ สไตล์แบ็คแพ็คเกอร์ จะเป็นห้องรวมและแชร์ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เป็นคนอัธยาศัยดี นอนง่าย เข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่าย ถึงแม้จะเป็นห้องนอนรวม แต่โฮสเทลที่ญี่ปุ่นก็ยังคงความสะอาดเป็นอย่างดี หมดห่วงเรื่องนี้ได้เลย ราคาเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อคืนต่อคน ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับที่พักประเภทอื่นๆ  แคปซูลโฮเทล เป็นอีกหนึ่งที่พักที่อยากจะแนะนำ โรงแรมประเภทนี้เป็นที่พักเอกลักษณ์เด่นของญี่ปุ่น มีลักษณะคล้ายโฮสเทล ที่มีห้องน้ำรวม ห้องนั่งเล่นรวมและราคาประหยัด แต่ผู้เข้าพักจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าการนอนห้องรวมในโฮสเทล แคปซูลโฮเทลมีตั้งแต่แบบพื้นฐาน เรียบๆ มีแค่ห้องนอนเท่านั้น ไปจนถึงแบบ ห้องที่กว้างกว่า มีทีวี มีเก็บของต่างๆ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ตัวใหญ่ เพราะห้องพักเป็นแบบ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่หลัก 1,000 บาทต่อคืนต่อคน ซึ่งแพงกว่าโฮสเทลเล็กน้อย แต่ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า และถูกกว่าโรงแรมทั่วไป    หาที่พักแบบแคปซูลโอเทล คลิกเลย!   https://ohhotrip.com/16498/

เที่ยวคนเดียว

Photo from https://travel.rakuten.co.jp/mytrip/ranking/businesshotel-shinjuku

สำหรับนั่งท่องเที่ยวสันโดษ ที่ชอบเดินทางคนเดียว ประเทศญี่ปุ่นยินดีต้องรับคุณเป็นอย่างยิ่ง ด้วยประเภทโรงแรมที่เหมาะสมหลายแบบ ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว solo และต้องการประหยัด แนะนำให้ใช้บริการโรงแรมประเภทโฮสเทลหรือแคปซูลโฮเทลที่ได้แนะนำไว้ข้างต้น แต่ถ้าต้องการห้องที่มีห้องน้ำส่วนตัว มีพื้นที่มากขึ้น ญี่ปุ่นก็มีโรงแรมดีๆให้  โรงแรมธุรกิจหรือ Business hotels คือโรงแรมที่มีห้องพักสำหรับคนเดียว ห้องพักจะเป็นห้องขนาดเล็ก มีห้องน้ำในตัว เตียงเดี่ยว หมอนใบเดียว ทีวีขนาดเล็ก และสิ่งจำเป็นเบื้องต้น จำพวกสบู่ ครีมอาบน้ำ และชุดแปรงฟัน ซึ่งเป็นโรงแรมที่นิยมสำหรับคนทำงานในประเทศญี่ปุ่นที่ต้องออกมาพบลูกค้าต่างจังหวัดและต้องการแค่จะนอนพักก่อนกลับบ้านของตัวเอง บางห้องมีราคาถูกมาก แต่จะไม่มีหน้าต่าง พื้นที่ห้องโดยรวมพอเดินได้ แต่อาจจะไม่ใหญ่พอที่จะกางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้  โรงแรมประเภทนี้ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ และมีทั่วไปในทุกภูมิภาค แบ่งเป็นห้องสูบบุหรี่ได้และห้องที่ห้ามสูบ เนื่องจากเป็นโรงแรมราคาประหยัด สำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการอะไรพิเศษ โรงแรมประเภทนี้จะไม่มีบริการอาหารและเครื่องดืม เราต้องจัดหาเองจากร้านสะดวกซื้อข้างนอก ราคาถูกที่สุดจะอยู่ที่คืนละ 1,000 บาท หรือประมาณ 3,000 เยน เท่านั้น เหมาะเป็นอย่างยิ่ง สำหรับนักท่องเที่ยวคนเดียว ที่ต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่แบบส่วนตัว และอยากจะควบคุมค่าใช้จ่ายไปด้วย อีกหนึ่งปัจจัยที่ Business hotels ให้ได้มากกว่าคือ ความปลอดภัยของสิ่งของ การนอนห้องแบบรวมในโฮสเทลหรือแคปซูลโฮเทล เราจะไม่มีที่เก็บของ ซึ่งเราจะต้องใช้ล็อคเกอร์แทน อาจจะไม่สะดวกถ้าเราจำเป็นต้องเปิดๆปิดๆกระเป๋าอยู่บ่อยๆ 

มากับครอบครัว

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Hotel_Monterey_La_Soeur_Osaka_standard_twin_bedroom_20121102-001.jpg

นักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัว แนะนำให้เลือกโรงแรมระดับ 3-4 ดาวขึ้นไป เนื่องจากที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยมีโรงแรมที่เป็นห้องเชื่อมต่อกันได้หรือ ประเภท Connecting room และไม่ค่อยมีโรงแรมที่จัดเป็นแบบ 3-4 เตียงไว้อยู่แล้ว ฉะนั้นการเลือกโรงแรมในระดับ 3-4 ดาว ขั้นไปจะได้ห้องที่มีพื้นที่มากขึ้น ประมาณ 26 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งเพียงพอที่จะขอเตียงเสริมได้  โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและไม่ห่างจากสถานีรถไฟ ซึ่งจะเป็นโรงแรมที่มีสาขาทั่วประเทศ ทั้งแบรนด์ต่างชาติและของญี่ปุ่นเอง ห้องพักก็จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆคือ ห้อง double และ twin ซึ่งสามารถเพิ่มเตียงเสริมได้ถ้ามีเด็กมาด้วย แต่อาจจะมีค่าบริการเพิ่มเติม แล้วแต่อายุของเด็ก ภายในห้องก็มีอุปกรณ์ครบ ทั้งทีวี กาน้ำร้อน ตู้เซฟ อ่างอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัว และชุดแชมพู ครีมอาบน้ำต่างๆ โรงแรมมีห้องอาหารบริการ ซึ่งผู้พักสามารถเลือกแพ็คเกจรวมอาหารเช้าหรือไม่รวมก็ได้  การคิดราคาของโรงแรมที่ญี่ปุ่นจะไม่คิดเป็นต่อห้อง แต่จะคิดเป็นต่อหัว ซึ่งโรงแรมประเภทนี้ เรทจะอยู่ที่ 1,200 – 2,000 บาท หรือประมาณ 4,000 – 6,000 เยนต่อคน ซึ่งถ้าเข้าพักเป็นผู้ใหญ่ 2 คน ก็เท่ากับห้องละ 4,000 บาท ไม่รวมค่าหัวของเด็ก ซึ่งราคาจะต่างกันแล้วแต่อายุของเด็ก บางโรงแรมก็จะรวมอาหารเช้าให้ด้วย แต่บางโรงแรมก็จะคิดเพิ่มเป็นรายหัวเช่นกัน โรงแรมที่ยิ่งใกล้สถานีหลัก ยิ่งมีราคาที่สูงขึ้น แต่ถ้าห่างออกมาหน่อย โดยใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ก็จะได้เรทที่ถูกลง หรือเลือกโรงแรมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานีถัดไปจากสถานีหลักก็ได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเลือกที่จะพักเขตชิบูย่า แทนที่เลือกโรงแรมที่สามารถเดินจากตัวสถานีชิบูย่าได้เลย ก็เลือกสถานีก่อนหรือหลังสถานีชิบูย่าประมาณ 2-3 สถานี ก็จะได้ราคาที่ดีกว่า  ต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนไปญี่ปุ่น คลิกเลย! https://ohhotrip.com/16203/

มีผู้ใหญ่มาด้วย

Photo from https://www.m-inn.com/shinkansenguchi/room/

โรงแรมที่เหมาะสมกับผู้ใหญ่ควรจะเลือกโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไปและห่างจากสถานีไม่เกิน 5 นาที แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกโรงแรมที่ใกล้สถานีใหญ่ เพื่อลดการเดินเท้าจากโรงแรมถึงสถานีให้น้อยที่สุด ผู้ใหญ่จะได้ไม่เหนื่อยในการเคลื่อนย้าย อีกประเด็นสำคัญคือ ถ้าเราเลือกโรงแรมที่ใกล้สถานีใหญ่เลย ผู้ใหญ่จะล้ากับการเดินลุยผ่านผู้คนที่ใช้บริการที่สถานี และกว่าจะถึงชานชลา ก็ค่อนข้างไกล การเลือกโรงแรมที่ห่างจากสถานีหลัก ประมาณ 2-3 สถานี จะทำให้สะดวกกับการเดินทางมากขึ้น และไม่วุ่นวายเหมือนสถานีหลัก  โรงแรม 4 ดาว ในประเทศญี่ปุ่นมีการบริการที่ดีมาก เกือบเทียบเท่าโรงแรม 5 ดาวได้เลย เรื่องความสะอาดและความสะดวกสะบาย รับรองในมาตราฐานญี่ปุ่น สิ่งที่อาจจะแตกต่างกันก็คือ ขนาดความกว้างของห้องพักเท่านั้น ซึ่งอาจจะมีตั้งแต่ 20 ตารางเมตรไปจนถึง 30 กว่าในระดับห้องมาตราฐาน มีห้องน้ำในตัว อีกหนึ่งส่วนที่แตกต่างคือ เรื่องเตียง โรงแรมที่ญี่ปุ่นอาจจะไม่ได้ใช้เตียงที่นุ่มมาก และส่วนใหญ่จะเป็นเตียงเตี้ยๆ ซึ่งแตกต่างจากโรงแรมในประเทศไทยที่จะใช้เป็นที่นอนซ้อนกับชั้นสปริงอีกที อาจจะรู้สึกแปลกๆสำหรับใครที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน โดยเฉพาะผู้ใหญ่  เรื่องการใช้รถเข็นไม่ต้องเป็นห่วงเลย โรงแรมระดับนี้ที่ญี่ปุ่น มีการดีไซน์เพื่อความสะดวกสะบายแก่ผู้สูงอายุ ทางเดินจะมีเป็นทางลาดเพื่อให้ง่ายต่อการใช้รถเข็น สถานีรถไฟก็จะมีลิฟท์ขึ้นลงจากทางเข้าสู่ชานชลาอยู่แล้ว เป็น Universal Design ที่ชาวญี่ปุ่นค่อนข้างให้ความสำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ผู้สูงอายุ รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย  เรื่องราคาก็ยังคิดเป็นรายหัว เริ่มต้นที่ประมาณ 1,500 บาท หรือ 5,000 ขึ้นไปต่อคน  

อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น

Photo from https://en.wikipedia.org/wiki/Ryokan_(inn)

มาญี่ปุ่นทั้งที ก็อยากที่จะนอนโรงแรมแบบญี่ปุ่นกันบ้าง หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “Ryokan” คือที่พักแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในบริเวณเขตประวัติศาสตร์ เช่น เกียวโตและนารา หรือพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใกล้วัดโบราณและศาลเจ้าต่างๆ ทั่วประเทศ อาจจะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีทั้งบ่อน้ำร้อนออนเซนและภัตราคารอยู่ด้วย หรือเป็นเหมือนบ้านโบราณเล็กๆก็ได้  ความแตกต่างของโรงแรมประเภทนี้กับโรงแรมทั้วไปคือ รูปแบบของห้อง Ryokan จะใช้เป็นเสื่อญี่ปุ่นทาทามิ และจะไม่มีเตียงในห้อง พนักงานจะปูผ้านอน หรือที่เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า “ฟูตง” ให้ตอนเย็น ระหว่างวันจะเป็นห้องโล่งๆ และมีโต๊ะอยู่ตรงกลางพร้อมที่รองนั่ง ไว้ให้นั่งทางชาและพักผ่อน Ryokan ส่วนใหญ่จะไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งผู้เข้าพักจะต้องใช้ห้องอาบน้ำรวม แต่ถ้าเป็น Ryokan ระดับ 5 ดาว ก็จะมีบ่อออนเซนส่วนตัวที่ห้องให้เลยก็ได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละที่  Ryokan ส่วนใหญ่จะมีบริการอาหารเช้ารวมมาในแพ็คเกจด้วย แน่นอน จะเป็นอาหารเช้าญี่ปุ่นดั่งเดิม ส่วนมื้ออื่นๆสามารถสั่งได้ตามความต้องการ ซึ่งก็จะเสริฟเป็นอาหารญี่ปุ่นเช่นกัน หลายแห่งมีเป็นคอร์สสำหรับมื้อเย็น ซึ่งผู้เข้าพักจะได้รับประทานวัตถุดิบชั้นดีของอาหารญี่ปุ่นเป็นแนวไคเซกิหรือโอมากาเสะสไตล์ บางแห่งก็จะจัดเป็นชุดเซ็ทมาให้ ร้านอาหารในโรงแรมประเภทนี้ส่วนใหญ่ ก็จะจัดในรูปแบบญี่ปุ่นคือ นั่งบนเสื่อทาทามิ ถ้าเป็น Ryokan ระดับพรีเมี่ยม พนักงานก็จะแต่งชุดกิโมโนเสริฟเลย  อัตราค่าที่พักของ Ryokan มีหลากหลายเรทมากแล้วแต่ระดับของสถานที่ โดยอาจเริ่มต้นอยู่ที่คนละ 10,000 เยนหรือประมาณ 3,000 บาท หรืออาจสูงไปถึงระดับ 50,000 เยน หรือ 15,000 บาท ต่อคน ต่อคืน ก็ได้ถ้าเป็น Ryokan ระดับ 5 ดาว 

อยู่กินสบายสไตล์พรีเมี่ยม

Photo from https://www.okura-nikko.com/japan/tokyo/the-okura-tokyo/rooms-suites/

สำหรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสไตล์พรีเมี่ยม โรงแรมที่ญี่ปุ่นในระดับ 5 ดาวขึ้นไปก็มี Option ให้เลือกหลากหลายมากเหมือนกัน ทั้งสไตล์แบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่ห้องพักจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นประยุกต์ มีบางส่วนเป็นเสื่อทาทามิให้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นในห้องนอน ร่วมกับสไตล์ตะวันตกที่มีที่นอนคุณภาพให้นอนหลับสบาย  หรือถ้าใครชอบโรงแรม 5 ดาว แบรนด์ดังๆนานาชาติ ที่ประเทศญี่ปุ่นมีให้เลือกหลายแบรนด์เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะจำพวกแบรนด์ Marriott, Sheraton และ Hiltons ตามเมืองสำคัญต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็จะมีโรงแรมในเครือของสายการบินชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ทั้งโรงแรมในเครือ Japan Airlines และในเครือ ANA ซึ่งทั้งหมดก็เป็นโรงแรมมาตรฐานพรีเมี่ยมในระดับ 5 ดาวเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีโรงแรมระดับพรีเมี่ยมของญี่ปุ่นเอง ตัวอย่างเช่น โรงแรม Okura ที่มีสาขาในประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในโรงแรม 5 ดาว ที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น  เรื่องการบริการและฟาซิลิตี้ของโรงแรมไม่ต้องพูดถึง ทุกอย่างมี service ให้ครบถ้วน มีภัตตาคารร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมพิเศษ มีสระว่ายน้ำ ยิม สปาและบางที่ก็มีบ่อน้ำแร่ออนเซ็นให้ด้วย แน่นอน ถ้าพักโรงแรมระดับนี้ในตัวเมือง ก็จะได้โลเคชั่นสุดพิเศษ พร้อมกับวิว Panorama ที่สามารถเห็นตัวเมืองได้อย่างสวยงาม แต่ถ้าพักอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวนอกเมืองใหญ่ ก็จะได้วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแต่ละพื้นที่นั้น อาจจะเป็นวิวทะเล หรือเป็นทัศนียภาพภูเขาที่กว้างใหญ่ที่สามารถมองจากระเบียงห้องได้เลย  อัตราค่าห้องต่อคืน เริ่มต้นที่ 25,000 เยน หรือประมาณ 7,000 บาท ต่อ 1 ห้อง 1 คืนสำหรับห้องพักประเภท Standard ที่สามารถพักได้ 2 คน  ต้องทานอะไรในญี่ปุ่น คลิกเลย! https://ohhotrip.com/14794/

เน้นเที่ยวธีมปาร์ค 

Photo from https://www.tokyodisneyresort.jp/en/hotel/dh/disneyland.html

นักท่องเที่ยวหลายคน ไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อการเข้าเล่นในสวนสนุกธีมปาร์คยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Tokyo Disney Resort และ Osaka Universal Studio ทั้งสองสวนสนุกมีอาณาเขตพื้นที่กว้างใหญ่มาก ถ้าจะเล่นให้ครบทุกเครื่องเล่น รับรองว่าวันเดียวก็เล่นไม่หมด ไม่เพียงแต่มีจำนวนเครื่องเล่นให้สนุกกันหลากหลายแบบแล้ว แต่ยังด้วยความหนาแน่นของผู้คนที่เข้ามาในสวนสนุกเหล่านี้กันทุกวันทำให้เราต้องใช้เวลาในการต่อแถวกันนาน นักท่องเที่ยวหลายคนที่อยากจะใช้เวลาให้เต็มที่ในแต่ละทีมปาร์คใหญ่นี้ เลือกที่จะนอนโรงแรมในเครือของสวนสนุก  ถ้าต้องการใช้เวลาเที่ยวในโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ททั้งสองแห่ง คือดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์ซี จำเป็นต้องใช้เวลาเกือบ 3 วันเพื่อที่จะเก็บให้ครบแต้ม ทุกเครื่องเล่นของ 2 ฝั่ง โรงแรม Disney Resort ซึ่งมีการสร้างเป็นดีไซน์เหมือนปราสาทดิสนีย์ และในตัวห้องพักเอง ก็มีเป็นคาแรคเตอร์ตัวละครดิสนีย์น่ารัก พร้อมกับบริการและ service ในสไตล์ของ Disney เลย ไม่เพียงแต่ได้รับความสนุกจากในสวนสนุกแล้ว ยังได้ติดลมต่อตลอด 24 ชั่วโมงที่โรงแรม ถ้าต้องการเก็บความสนุกให้ครบทุกเครื่องเล่น จนถึงพาเหรดแสงสีเสียงตอนกลางคืนที่ Osaka Universal Studio ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน ที่นี่ก็มีโรงแรมที่ดีไซน์เป็นคาแรคเตอร์ของค่าย Universal น่ารักประกอบในห้องพัก พร้อมกับ interior ตกแต่งภายในโรงแรมในแบบสไตล์ทีมปาร์ค ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมงในพื้นที่อาณาจักรแห่งความสนุกของ Osaka Universal Studio ได้เต็มที่  อีกหนึ่งข้อดีของการเลือกนอนโรงแรมในเขตสวนสนุกต่างๆนั่นคือ เราจะได้ไม่ต้องรีบแย่งขึ้นรถไฟและแย่งต่อแถวเวลาเข้าสวนหรือออกจากสวนสนุก เพราะทุกครั้งจะมีคนไม่น้อย แห่กันแย่งขึ้นรถไฟกันอย่างหนาแน่น และการที่เราได้ใช้เวลาสนุกกันทั้งวันแล้ว จะทำให้เราเหนื่อยต่อการเดินทางกลับโรงแรมนอกเขต เราสามารถ Enjoy กับเวลาที่เหลือในการช้อปปิ้ง และรับประทานอาหารดีๆสไตล์ทีมปาร์คในบริเวณได้อย่างสบายใจกว่า เมื่อเลือกที่พักในเครือของสวนสนุก 

 

โรงแรมในประเทศญี่ปุ่นมีหลากหลายสไตล์ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้บริการกัน  รองรับทุกความต้องการ ทุกประเภทของการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางคนเดียว มากับกลุ่มเพื่อน คู่รัก หรือครอบครัว  ประเทศญี่ปุ่นมี offer โรงแรมประเภทต่างๆให้ได้เลือกอยู่เสมอ 

สามารถซื้อตั๋ว/กิจกรรม Osaka ได้ที่ Klook

สามารถซื้อตั๋ว/กิจกรรม Tokyo ได้ที่ Klook

สามารถซื้อตั๋ว/กิจกรรม Kyoto ได้ที่ Klook

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

RELATED POST