3 คืนสุดประหยัดที่อุเอโนะ โรงแรม Hiromas Hostel in Ueno

สวัสดีครับ

ต่อเนื่องจากโพสต์ก่อนของผมนะครับ  "ทริป ３คืน５วัน ทำธุระคุ้มในเวลาจำกัด"

ทริป 3คืน 5วัน ทำธุระคุ้มในวันหยุดพักผ่อนใน ชินจูกุ ชิบูย่า ฯลฯสวัสดีครับวันนี้จะมาขอแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับทริปโตเกียวที่เพิ่งจบไปห...

ทริปสุดคุ้มเวลาและประหยัดกระเป๋าของผม ผมค้างเรื่องรีวิวโรงแรมไว้ ก็เลยจะขอแยกมารีวิวโรงแรมในโพสต์นี้นะครับ

เอาจริงๆตอนแรกเนี่ย ผมกะว่าจะไม่หาที่พักด้วยซ้ำสำหรับทริปนี้ หะๆ กะว่าทำธุระเสร็จที่ไหน ก็จะหาร้านอ่านหนังสือการ์ตูน ที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า มังงะคิตสะ แปละเป็นภาษาอังกฤษก็ Manga Café? ไม่แน่ใจ ฮ่าๆ ซึ่งร้านแบบนี้เค้าเปิดกัน 24 ช.ม.เลย มี Drink Bar มี Internet มี Shower room บริการอยู่ในนั้นพร้อม เอาให้แบบคนไปขลุกไปอ่านหนังสือกันอยู่ในนั้นยาวๆได้เลย มีแพ็กเกจราคากลางวัน แพ็กเกจกลางคืน อะไรแบบนี้ บางคนก็ใช้ร้านแบบนี้นี่แหละมาเป็นที่พักแทนโรงแรม

แต่คุณแฟนผมเตือนว่าข้าวของมีค่าจะทำยังไง ถือติดกับตัวตลอดเวลาไม่ลำบากเหรอ หาที่พักเป็นหลักเป็นแหล่ง ให้เก็บของมีค่าไว้ได้จะดีกว่าน่า ธุระก็เยอะ จะได้ไม่ต้องถือไว้กับตัวตลอด ไปนั่นนี่ได้สบายๆ
/ ก็จริงของคุณแฟน แหะๆ ก็เริ่มภารกิจหาที่พักเลยครับ

ตอนหาที่พักผมตั้งเป้าว่า
・นอน 3คืน ต้องไม่เกิน ¥10,000
・ถ้าเป็นแคปซูลหรือDomitory ต้องมี Locker เก็บกระเป๋าเก็บของมีค่าได้
・ต้องอยู่ใกล้แถบชินจูกุ ชิบูย่า (โซนที่มีคอนเสิร์ตและใกล้เพื่อนๆ)

ตั้งเป้าง่ายๆแค่นี้แหละ แต่ข้อแรกนี่สำคัญมาก คือต้องไม่เกิน¥10,000 ฮ่าๆๆ ก็ไม่ได้ไปเที่ยวหอบของพะรุงพะรังนี่นา อันนี้ไปทำธุระเป็นหลัก เราไปตัวคนเดียว จะพักที่ที่มีเตียงดีๆ มีเซอร์วิสบริการดีๆ มันก็น่าเสียดาย

ผมหาที่พักจากเวบหาที่พักของญี่ปุ่นเอง ที่คนญี่ปุ่นที่ที่ทำงานเคยแนะนำเมื่อนานมาแล้ว

https://www.jalan.net

↑ ↑ ↑ นี่ครับ เวบนี้เลย ผมว่าสะดวกดี ผมว่ามันลงรายละเอียดได้ลึกดี แต่ละที่พักก็มีแพกเกจการพักรูปแบบต่างๆให้เลือกด้วย แต่เผอิญผมได้ภาษาญี่ปุ่นไง ก็ดูเป็นภาษาญี่ปุ่นตลอด ตอนกำลังเขียนบทความนี้นึกขึ้นได้ว่า เอ๊ะ มันมีภาษาอังกฤษหรือเปล่า ก็เลยลองเข้าไปดูมาอีกรอบ ก็ปรากฎว่ามีภาษาไทยด้วยนะ ว้าว แต่หน้าตาเวบมันดูไม่ละเอียดเท่าดูแบบภาษาญี่ปุ่น (แต่นี่คือผมยังไม่ได้เข้าไปเช็คละเอียดๆนะ) ใครสนใจก็ลองดูนะครับ ผมว่าไม่แพ้พวก Agoda, Booking.com อะไรแบบนี้

แล้วผมก็เจอโรงแรมนึงที่ราคาดีที่สุดในขณะนั้น ซึ่งโรงแรมนั้นก็คือ Hiromas Hostel in Ueno
・3คืน ¥9,600! โอเค ข้อแรกเคลียร์ ผ่าน!
・เค้าบอกว่าเป็นที่พักแบบDomitoryสไตล์โรงแรมแคปซูล มี Locker เก็บกระเป๋าได้ ข้อสอง ผ่าน!
(ตอนตั้งเป้านี่คิดในใจว่า ถ้าเป็นแคปซูลหรือDomitory... นี่ผสมกันมาให้ผมเลย ฮ่าๆ)
・แต่อยู่อูเอโนะ... อืมม ข้อสามขอคิดอีกนิด

ถ้าโรงแรมแถวโซนชินจูกุ หรือชิบูย่า ที่ผมหาผ่านเวบนั้นได้ในขณะนั้น รู้สึกถูกสุดจะอยู่ที่ประมาณ ¥14,000 ครับ แพงกว่าประมาณ ¥4,000 ยอมจ่ายแพงอีกหน่อย แล้วได้อยู่ในโซนที่ผมต้องทำธุระซะเลย ประหยัดค่าเดินทาง ดีมั้ยนะ ก็มาคำนวนว่า จากอูเอโนะ ไปชินจูกุ ไปชิบูย่า ไปกลับ 3 วันจะเท่าไหร่ ก็อยู่ที่ ¥2,000 กว่าๆเอ๊ง อยู่ห่างออกไปหน่อย แต่ได้ประหยัดเพิ่มอีกสัก ¥2,000 ก็ยังดี โอเค ข้อสาม ผ่าน! ฮ่าๆๆ จองเลยครับ

Hiromas Hostel in Ueno

ก็ถึงเวลาที่ผมเดินทางมาถึงญี่ปุ่นนะครับ เนื่องจากผมถึงเช้ามาก ตามที่ผมพูดไว้ในนี้ → "ทริป ３คืน５วัน ทำธุระคุ้มในเวลาจำกัด" แล้วโรงแรมนี้ก็เช็คอินได้ตั้งแต่ 16:00เป็นต้นไป (ทำไมโรงแรมที่ญี่ปุ่นมันเช็คอินได้ช้านักนะ เหอๆ) แต่ผมเดินทางมาถึงแล้วนี่ ก็เลยไปแวะโรงแรมฝากกระเป๋าไว้ก่อนครับ ไปทำธุระก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาเช็คอินอีกทีตอนเย็น

นี่ครับ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟUeno ประมาณ 850m เดินเท้าประมาณ 10 นาที  ก็ไม่ไกลมากนะ สบายๆครับ
เส้นทางตามนี้ครับ → https://maps.app.goo.gl/SFpGN7CniUty8oM1A
ใกล้ๆมีร้านสะดวกซื้อ LAWSON ที่นึง นอกนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้เงียบสงบดีครับ
ต้องเดินไปใกล้ๆแถวสถานีนี่ล่ะ ถึงจะมีนั่นนี่เยอะ ที่พักนี่อยู่คนละฝั่งกับที่ที่คนไทยชอบไปเที่ยวเยอะๆ เช่น ตลาดอาเมะโยโกะ สวนสัตว์อูเอโนะ อะไรแบบนี้

พอเลี้ยวเข้าซอยที่ใกล้จะถึงที่พักนี่ เห็นโตเกียวสกายทรีด้วย สมัยอยู่ญี่ปุ่นนี่ไปมาหลายครั้ง

CR : http://hiromas.net/ueno/en/設備/

ผมย้อนกลับมาถึงประมาณเกือบ 6โมงเย็น ก็เข้าเช็คอินครับ
ค่าพักก็จ่ายเงินสดกันตรงนั้นเลย ณ ตอนเช็คอิน  ก็จ่ายไปครับ ¥9600
เช็คอินเสร็จแล้วเค้าจะให้คู่มือการพักมากให้
ผมได้พักห้อง 306 ล่ะ ก็คืออยู่ชั้น 3 นั่นเอง

ห้องพัก และ Locker เก็บของ

เดินขึ้นมาชั้น 3 ใกล้จะถึงบ้านหลังน้อยสำหรับ 3 คืนของผมแล้ว แท่นแท้นน

ได้ที่นอนหัวมุมพอดีเลยอะ เลยได้พื้นที่เคลียร์ของแบบส่วนตัวนิดๆ แถมอยู่ชั้นล่าง ไม่ต้องปีนขึ้นลงไปมาให้เมื่อย (โชคดี)

ห้องข้างๆก็เป็นประมาณนี้ ก็ดูเป็นสไตล์โรงแรมแคปซูลอย่างที่เค้าบอกจริงๆ

เอ้อ ลืมบอก ที่นี่เค้าไม่มีแบ่งชายหญิงนะ ฟลอร์ที่ผมพักนี่มีทั้งชายทั้งหญิงเลย
โรงแรมมีห้องทั้งหมด 50 ห้อง แต่จะมีแค่ 20 ห้องที่ชั้น2 ที่เค้าทำเป็นโซนเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักผู้หญิงเท่านั้น จะเข้าไปนี่ต้องกดรหัสถึงเข้าได้  สงสัยถ้าผู้หญิงเลือกพักโซนนี้ อาจจะแพงกว่านิดนึงมั้ง ไม่แน่ใจนะครับ หะๆ

ห้องจะเป็นอย่างไร〜

โหว โอ่โถง ค่อนข้างกว้างเลยนะ แล้วก็สูงกว่าที่คิด คือนั่งได้เลยในนั้น แค่เวลานอนนอนกางแขนไม่ได้ แต่ผมก็ไม่ได้กางแขนอยู่แล้วนิเวลานอน หะๆ หัวเตียงมีชั้นวางของเล็กๆพับเก็บได้ มีที่ชาร์จมือถือ สวิตช์ไฟ แล้วก็เหนือหัวมี Locker สำหรับเก็บของมีค่าได้ ใส่ของแล้วก็กดรหัสส่วนตัว ４ เลข เวลาจะเอาของออกก็กดเลขชุดนั้นซ้ำอีกครั้งแค่นั้นเอง

ถัดไปด้านข้างจะมีโซน Locker แบบเก็บกระเป๋าเดินทางได้ อันนี้ก็เช่นเดียวกัน มีระบบล็อคโดยกดรหัสส่วนตัว เวลาจะเอาออกก็กดเลขเดิมซ้ำ

ใหญ่พอที่จะเก็บกระเป๋าเดินทางของผมได้สบายๆเลย แต่ผมว่าถ้าเป็นแบบใหญ่มากๆอาจจะใส่ไม่ได้นะ

Reception / Lobby

โซนรีเซพชั่นหรือล็อบบี้ที่ชั้นหนึ่งนี่ก็โอ่โถง กว้าง มีที่นั่งทำงาน จิบกาแฟไปด้วยเกร๋ๆได้ คล้ายๆอยู่ร้านกาแฟเลยครับ

กว้างเนอะ ที่เห็นเหมือนป้ายขาวๆข้างในสุดนั้นเป็นโต๊ะรีเซพชั่นครับ ซิมเปิ้ลดีเนอะ เรียบง่าย ลองขยายรูปดูเอาเองนะครับ หะๆ

มีไมโครเวฟ กาน้ำร้อน เตาอบ จานชาม แก้ว อ่างล้างจาน บริการด้วย แล้วก็หนังสือไกด์โตเกียวให้ยืม มีเล่มที่เป็นภาษาไทยด้วยนา สงสัยจะมีคนไทยมาพักเยอะด้วยมั้ง

มองจากอีกมุมครับ ด้านซ้ายนั่นเป็นประตูทางเข้า ซึ่งประตูปิด 5ทุ่มครับ ถ้าเกินกว่านั้น ต้องเข้าทางด้านหลังครับ ต้องกดรหัสเข้า ซึ่งเค้าเขียนไว้อยู่ในคู่มือที่ให้ตอนเช็คอิน

มีตู้เย็นบริการด้วย ใครอยากแช่อะไร ก็ใช้ปากกาที่เค้าเตรียมไว้ให้เขียนชื่อตัวเองบ่งบอกความเป็นเจ้าของซะ ส่วนเครื่องข้างบนนั่นก็เป็นเครื่องกดกาแฟร้อน บริการฟรี อาจจะมีแค่ตอนเช้ามั้งไม่แน่ใจ แต่ผมไม่ได้ดื่มแฮะ อยากดื่มกาแฟเย็นมากกว่า เลยซื้อกาแฟกระป๋องกดเอาจากตู้น้ำหยอดเหรียญ ซึ่งอยู่ตรงข้ามตู้เย็นนี่แหละ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา

นี่มาแอบถ่ายรูปตอนกลางคืน กลางวันคนเยอะ เขิน ฮ่าๆ

บริการอื่นๆ

・มี Wifi ฟรี

・มีห้องอาบน้ำบริการฟรี มีสบู่ ยาสระผมพร้อม
ชั้นที่ผมพักนี่ห้องอาบน้ำอยู่หน้าห้องนอนผมพอดีเลยครับ โชคดีอีกแว้ว

・มีผ้าเช็ดตัวฟรี วันละ 1 ผืน ถ้าจะเพิ่มต้องเสียตังค์

・มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญ
เครื่องซักผ้าครั้งละ ¥200 เครื่องอบผ้า3oนาที ¥100 ผมใช้บริการไปหนนึงครับระหว่างพักที่นี่

・Front เปิดตั้งแต่ 8:00〜23:00 สามารถมาซื้ออุปกรณ์ดูแลรักษาความสะอาดส่วนตัวได้ที่นี่

แปรงสีฟัน ¥100
มีดโกนหนวด ¥100
น้ำยาซักผ้า ¥100
ผ้าเช็ดธรรมดา(เพิ่ม) ¥100
ผ้าเช็ดตัว(เพิ่ม) ¥300
ตอนผมซักผ้า มีคนใจดีให้ยืมน้ำยาซักผ้าส่วนตัวของเค้า ก็เลยไม่ต้องเสียตังค์ โชคดีไปอีก

・Bed-Making

สำหรับใครที่เข้าพักระยะยาวเกิน 7 วันขึ้นไป เค้าจะจัดเตียงให้ด้วย 7วัน 1ครั้ง
ถ้าใครไม่ได้พักเกินนี้ เค้าก็แค่มาวางผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ให้เฉยๆครับ อย่างเช่นผม กลับห้องมาก็มีผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ให้ ส่วนสภาพห้องตอนออกเป็นยังไง กลับมาก็เป็นอย่างนั้นครับ หะๆ

↑ อันนี้เป็นคู่มือเล่มน้อยที่เค้าให้ตอนเช็คอินครับ รายละเอียดที่เขียน ก็มีเรื่องที่ผมบอกไปข้างต้นครับ
เพิ่มเติมนิดหน่อย คือ
・ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่ครับ ใครอยากสูบ หลังโรงแรมเค้ามีพื้นที่จัดไว้ให้ ต้องไปสูบที่นั่นที่เดียว
・Door pin สำหรับเข้าทางประตูหลังครับ เกิน 23:00 โรงแรมจะปิดประตูหน้า
・เช็คเอาท์ 10:00 ไม่ต้องทำเรื่องอะไรให้วุ่นวาย จัดกระเป๋าเสร็จ เดินออกชิวๆได้เลย อย่าลืมของก็พอ หะๆ
(แหม่ แต่โรงแรมญี่ปุ่นนี่เช็คเอาท์เช้าจัง เช็คอินช้า เช็คเอาท์เช้า เห้อ ฮ่าๆ)

นอกจากนี้เค้ามีห้อง Powder room มีที่ล้างหน้า มีกระจก มีเครื่องเป่าผมพร้อม ห้องน้ำพร้อม มีสเปรย์ฉีดผ้าหอมๆ (ซึ่งผมก็เอามาฉีดกางเกงยีนส์ของผมด้วย มีแต่กางเกงยีนส์นี่ล่ะ ที่ใส่ทุกวันแล้วไม่ได้ซักเลย แหะๆ)

ประมาณนี้ครับ โดยรวมนี่โอเคมากเลย 3คืนที่พักที่นี่ พึงพอใจมากครับ ติดนิดนึงตรงที่ ผมเข้าพักคืนแรก แล้วสตาฟวันแรกส่งต่องานกันกับสตาฟวันถัดไปยังไงก็ไม่รู้นะ แต่กลายเป็นว่าเค้าเข้าใจว่าผมยังไม่ได้มาเช็คอินซะงั้น เช้าวันถัดมามีการส่งเมลล์มาแจ้งเตือนงี้ ประมาณว่าถ้าไม่มีการติดต่อมาภายในกี่โมง จะแคนเซิลโดยอัตโนมัติ  อ้าวเฮ้ย ผมเลยส่งเมลล์ตอบกลับไปว่านี่มาเช็คอินแล้วนะ แล้วก็เดินลงไปบอกที่ฟร้อนท์ด้วย เค้าก็ขอโทษขอโพยมา แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ขำๆ คนเราพลาดกันได้น่า 555

ใครสนใจก็ลองไปดูเวบของทางโรงแรมดูนะครับ จริงๆเค้ามีหลายสาขาเลยครับ ไม่ใช่แค่ที่อุเอโนะ ผมว่าเหมาะเหม็งเลยสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว อยากประหยัดงบ มีบริการพื้นฐานพร้อม
http://hiromas.net/ueno/en/

ก็ประมาณนี้ครับ นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมเลยนะเนี่ย ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ
ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าครับ^^

*ไปเช็คมาทีหลังหลังจากกลับมา ก็เข้าเวบของโรงแรมนี้โดยตรง ราคาห้องพักระบุว่าคืนละ ¥3,000 แต่หมายเหตุไว้ว่าราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล แสดงว่าผมพักแพงจากปกติไป ¥600 นะเนี่ย หรือเพราะจองผ่าน Jalan แต่โรงแรมนี้ก็ไม่ได้มีระบบจองของตัวเองนะ หะๆ ช่วงที่ผมไปพักมา คือช่วงเดือนตุลาคมครับ

ABOUT ME

Dorian

ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น เคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่โตเกียว 2ปีครับ เพื่อเรียนดนตรี ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่ชื่นชอบ ปัจจุบันทำงานล่ามภาษาไทย-ญี่ปุ่นครับ

ดูบทความทั้งหมดโดย Dorian