ญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่มหานครโตเกียว ภูมิภาคคันโต ไปจนถึงทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู รวมทั้งฮอกไกโดและเกาะรอบนอก และเนื่องด้วยภูมิประเทศและสภาพอากาศที่มีความหลากหลาย ทำให้ญี่ปุ่นฝั่งตะวันออกเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าหลงใหล ตั้งแต่จุดชมดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ ไปล่องเรือชมดอกไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง หรือเล่นสกีบนลานหิมะขาวโพลนช่วงปลายปี นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่นที่โดดเด่นด้วยวัฒนธรรมโบราณอันน่าทึ่ง ไปจนถึงพื้นที่สำคัญทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอีกมากมาย
การเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นแถบตะวันออก หลักๆ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมใช้บริการรถไฟ JR East ที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ตั้งแต่กรุงโตเกียวไปจนถึงฮอกไกโด โดยจำหน่ายตั๋วแบบเหมาจ่ายที่มาในหลากหลายรูปแบบและราคาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกตั๋วที่เหมาะสมกับโปรแกรมการท่องเที่ยวของตัวเองให้มากที่สุด
- ที่ไหนที่ไม่ควรพลาด!
- 1. มหานครโตเกียว (Tokyo)
- 2. ถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก (The World’s Longest Cherry-Lined Road)
- 3. โยโกฮามะ (Yokohama)
- 4. เทศกาลดอกไม้ไฟเซนไดทานาบาตะ (Sendai Tanabata Fireworks Festival)
- 5. ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
- 6. วัดโคโตคุอิน (Kotoku-in Temple)
- 7. เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps)
- 8. ย่านซามูไรคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District)
- 9. กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen)
- 10. ทะเลสาบทั้งห้าแห่งฟูจิ (Fuji’s Five Lakes)
- 11. สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิหมายเลข 1 (No. 1 Tadami River Bridge)
ที่ไหนที่ไม่ควรพลาด!
1. มหานครโตเกียว (Tokyo)
จบครบในหนึ่งเดียว สำหรับมหานครแห่งแสงสีที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล เมืองแห่งเทคโนโลยีที่ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์อันน่าทึ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีสถานที่ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากยุคโบราณให้ได้แวะเวียนอีกหลายแห่ง หรือหากคุณเบื่อความวุ่นวาย กรุงโตเกียวก็มีสถานที่ให้คุณได้ผ่อนคลายจนแทบลืมไปเลยว่าอยู่ในเมืองหลวง ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่หลายแห่งที่ถูกจัดแต่งตามวิถีแห่งเซน บ่อน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์และงานแสดงศิลปะต่างๆ ที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย หากการท่องเที่ยวครั้งนี้ของคุณยังคงเหมือนไร้จุดหมาย โตเกียวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในวันที่คุณนึกอะไรไม่ออกเลยจริงๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.gotokyo.org/en/index.html
2. ถนนสายซากุระที่ยาวที่สุดในโลก (The World’s Longest Cherry-Lined Road)
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) กับภาพของต้นซากุระกว่า 6,500 ต้น ทิ่ออกดอกสีชมพูอ่อนละเมียดละไมเรียงรายตลอดสองข้างทางของถนน ทอดยาวประมาณ 20 กิโลเมตร โดยมีภูเขาอิวาคิยามะ (Iwakiyama) อันแสนสวยเป็นฉากหลัง นับเป็นทัศนียภาพที่งดงามราวกับภาพวาด เหนือกว่าคำบรรยายใดๆ นอกจากต้องมาให้เห็นด้วยตาตัวเอง โดยในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่ซากุระบานสะพรั่งมากที่สุด
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.jnto.or.th/newsletter/recommended-best-sakura-spots-in-east-japan/
3. โยโกฮามะ (Yokohama)
เมืองหลวงของจังหวัดคานางาวะ เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความบันเทิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ เดิมทีเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง ก่อนที่ในราวๆศตวรรษที่ 18 จะค่อยๆพัฒนาจนกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ และหลังจากที่เปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ โยโกฮามะก็กลายเป็นเมืองใหญ่และเจริญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ในด้านของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ คงหนีไม่พ้นย่านคนจีน (Chinatown) ซึ่งเป็นย่านคนจีนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ภายในประกอบด้วย ร้านอาหารแบบจีนกว่า 200 ร้าน รวมไปถึงร้านค้าและศูนย์บริการต่างๆมากมาย นอกจากไชน่าทาวน์แล้ว โยโกฮามะยังมีสถานที่ตามแบบเมืองเก่าอีกมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑสถาน สวนญี่ปุ่นโบราณ เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.city.yokohama.lg.jp/lang/residents/en/
4. เทศกาลดอกไม้ไฟเซนไดทานาบาตะ (Sendai Tanabata Fireworks Festival)
เป็นงานแสดงดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว จัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคมของทุกปี ภายในงานจะมีการแสดงดอกไม้ไฟประมาณ 16,000 ดอก จุดขึ้นจากริมฝั่งแม่น้ำฮิโรเสะ ซึ่งไหลผ่านตอนกลางของเมืองเซนได ในจังหวัดมิยางิ โดยจุดชมดอกไม้ไฟที่ได้รับความนิยมสูงสุด (และฝูงชนหนาแน่นที่สุด) คือ สวนนิชิโคเอ็น (West Park) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้โดยใช้รถไฟใต้ดินสถานี Hirosedori หรือ Kotodaikoen แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที หรือนั่งรถไฟ JR ไปลงสถานี Sendai แล้วเดินต่อประมาณ 30 นาที พร้อมช้อปปิ้งชิลๆระหว่างทาง
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.sendaitanabata.com/en
5. ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle)
ตั้งอยู่ในเมืองมัตสึโมโตะ จังหวัดนางาโนะ เดิมถูกเรียกว่า ปราสาทฟุคาชิ หรือ ปราสาทอีกา เนื่องจากตัวปราสาทมีสีดำ เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นร่วมกับ ปราสาทฮิเมจิ และ ปราสาทคุมาโมโตะ ถูกสร้างขึ้นในสมัยเซ็งโงคุ (ค.ศ.1573-1590) ให้เป็นปราสาทบนที่ราบอันเป็นจุดชัยภูมิซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ และมีการสร้างป้อมปราการเพิ่มในปลายศตวรรษที่ 16 มีระบบคูคลองและผนังที่ซับซ้อน ปราสาทมัทสึโมโตะจะดูน่าหลงใหลเป็นพิเศษในฤดูหนาว เมื่อปรากฏภาพของปราสาทสีดำตัดกับภูเขาหิมะสีขาวโพลนของเทือกเขาแอลป์ นับเป็นเอกลักษณ์ที่มีความงดงามแปลกตากว่าปราสาทอื่นๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.matsumoto-castle.jp/lang/
6. วัดโคโตคุอิน (Kotoku-in Temple)
ตั้งอยู่ในจังหวัดคานางาวะ เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่แห่งคามาคุระ หรือ Kamakura Daibutsu ที่มีความสูงถึง 11.3 เมตร และมีน้ำหนัก 121 ตัน เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1252 เดิมทีองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ โดยตัวอาคารถูกพังทลายลงหลายครั้ง เนื่องจากพายุ สงคราม และคลื่นยักษ์จากทะเล จนกระทั่งในปีค.ศ.1495 ด้วยแรงจากลมพายุได้พัดให้ตัวอาคารพังราบลงอีกครั้ง แต่องค์พระพุทธรูปกลับไม่ได้รับความเสียหายและยังคงตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้งเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.kotoku-in.jp/en/
7. เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japan Alps)
เป็นเทือกเขาที่ทอดยาวครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด แต่เทือกเขาแอลป์บริเวณจังหวัดนางาโนะ มีทุกสิ่งสำหรับผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยกลางแจ้ง ทั้งพื้นที่สำหรับปีนเขาและเดินป่า อีกทั้งยังกลายร่างเป็นลานสกีระดับโอลิมปิคในฤดูหนาวอีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.alpen-route.com/en/
8. ย่านซามูไรคาคุโนะดาเตะ (Kakunodate Samurai District)
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดอาคิตะ เป็นหนึ่งในย่านซามูไรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยบรรยากาศและสถาปัตยกรรมบ้านเรือนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ในอดีตเคยเป็นที่อยู่อาศัยของซามูไรกว่า 80 ตระกูล ทำให้มีบ้านเรือนที่ยังอยู่ในสภาพดีหลายหลัง แต่เปิดให้เข้าชมเพียง 6 หลังเท่านั้น ได้แก่ บ้านอาโอยากิ บ้านอิชิงุโระ บ้านซามูไรโอดาโนะ บ้านซามูไรคาวาราดะ บ้านซามูไรอิวาฮาชิ และบ้านซามูไรมัตสึโมโตะ นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของซามูไรผ่านสิ่งของต่างๆ เช่น เสื้อผ้า ชุดเกราะ และภาพวาด ฯลฯ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังคาคุโนะดาเตะ โดยนั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Kakunodate จากนั้นเดินเท้าต่อประมาณ 15-20 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1203.html
9. กินซังออนเซ็น (Ginzan Onsen)
หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า "Silver Mountain Hot Spring" เนื่องจากพื้นที่เดิมนั้นถูกพัฒนาขึ้นรอบๆ เหมืองเงิน เป็นเมืองน้ำพุร้อนอันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ ปัจจุบันได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จุดเด่นอยู่ที่เรียวกังเก่าแก่หลายต่อหลายหลังตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือน ลักษณะเรียวกังสไตล์ดั้งเดิมของกินซังออนเซ็น จะเป็นอาคารไม้สามถึงสี่ชั้น มีโครงสร้างประกอบด้วยไม้เปลือยและผนังปูนขาวที่ชวนให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อครั้งที่เหล่าซามูไรเคยดำรงซึ่งอิทธิพลในดินแดนญี่ปุ่น
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1265.html
10. ทะเลสาบทั้งห้าแห่งฟูจิ (Fuji’s Five Lakes)
ตั้งอยู่ที่เชิงเขาทางเหนือของภูเขาไฟฟูจิ ประกอบด้วย ทะเลสาบคาวาคูจิโกะ ทะเลสาบไซโกะ ทะเลสาบยามานากาโกะ ทะเลสาบโชจิโกะ และทะเลสาบโมโตสึโกะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมวิวภูเขาไฟฟูจิในระยะใกล้ ซึ่งคาวาคูจิโกะเป็นทะเลสาบที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากเดินทางง่ายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่พักทั้งแบบโรงแรมและเรียวกัง บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ร้านค้าและร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.town.fujikawaguchiko.lg.jp/
11. สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิหมายเลข 1 (No. 1 Tadami River Bridge)
หรือที่รู้จักกันกันในชื่อ “จุดชมวิวสะพานข้ามแม่น้ำไดอิจิทาดามิ” โดยนั่งรถไฟสาย JR Tadami ผ่านเทือกเขาแอลป์ในจังหวัดฟุกุชิมะ โดยสะพานหมายเลข 1จะทอดยาวข้ามแม่น้ำระหว่างสถานี Isu-Nishikata และ Isu-Hinohara นับเป็นจุดชมวิวที่งดงามและมีชื่อเสียงที่สุด โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่ภูเขาและพื้นที่โดยรอบจะปกคลุมด้วยหิมะ น้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำแข็ง บ้านเรือนในท้องถิ่นขาวโพลนไปทั่วพื้นที่ นอกจากนั้น ทางรถไฟข้ามแม่น้ำทาดามิยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่งดงามและโรแมนติกที่สุดในญี่ปุ่น
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.japan.travel/en/sports/snow/snow-travel/tadami-river-bridge/
♦ By Pok Safin ♦
ขอบคุณข้อมูล:
https://www.jnto.or.th/newsletter/recommended-best-sakura-spots-in-east-japan/
https://jw-webmagazine.com/yokohama-best-things-to-do/
https://www.city.yokohama.lg.jp/lang/residents/en/
https://en.japantravel.com/miyagi/sendai-tanabata-festival-fireworks/23844
https://www.sendaitanabata.com/en
https://www.matsumoto-castle.jp/lang/
https://www.alpen-route.com/en/
https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1203.html
https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1265.html
https://www.town.fujikawaguchiko.lg.jp/
https://www.japan.travel/en/sports/snow/snow-travel/tadami-river-bridge/
https://fukushima.travel/blogs/guide-to-visiting-the-famous-tadami-river-bridge-viewpoint/64