สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เราก็หาเรื่องเล่าการไปเที่ยวของเราที่จะมาแนะนำให้ทุกคนตกหลุมรักญี่ปุ่นให้มากขึ้นกว่าเดิมเราก็คิดอยู่นานเหมือนกันค่ะว่าจะเล่าอะไรดีนน้า ยิ่งช่วงนี้ติดโควิดไม่ค่อยได้ไปไหนเลยค่ะ แล้วก่อนหน้านี้พอดีว่าต้องไปทำงานที่โอกินาวาก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเคยมาเยี่ยมเยือนดินแดนสีน้ำเงินหาดทรายสีขาวใต้สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้เมื่อนานมาแล้ว ด้วยความที่เวลาผ่านมาค่อนข้างนานอาจจะเล่ารายละเอียดได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่. คราวนี้ก็จะขอเป็นแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอกินาวาเป็นข้อๆแทนแล้วกันนะคะ
ก่อนอื่นเรามารู้จักประวัติของโอกินาวาโดยคร่าวๆกันก่อนดีกว่า โอกินาวาเป็นเกาะใต้สุดของญี่ปุ่นแต่เดิมเป็นประเทศเอกราชที่มีกษัตริย์เป็นของตนเองชื่อประเทศริวกิว ก่อนที่จะถูกควบรวมกับญี่ปุ่นหลังจบสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา. ประเทศริวกิว มีภาษาและวัฒนธรรมของตัวเองที่ค่อนข้างชัดเจน และมีบุคลิกที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ซึ่งแตกต่างกับชาวญี่ปุ่นเป็นเกาะใหญ่ อย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือค่อนข้างจะเป็นคนสบายสบายและจริงใจ ชาวริวกิว จะเรียกว่าตัวเองเป็นพี่น้องกับไต้หวันเพราะอยู่ใกล้กันมากๆและมีการค้าต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ วัฒนธรรมของชาวริวกิวได้รับอิทธิพลจากทั้งจีนไต้หวันและเอเชียตะวันออกเชียงใต้มีการค้าขายกับไทยด้วยนะคะ
อันนี้บอกเกร็ดความรู้กันนิดนึงโอกินาวาขึ้นชื่อเรื่องเหล้าขาวที่มีอยู่หลากหลายชนิดโดยวิธีทำเหล้าขาวของชาวโอกินาวาได้ต้นแบบมาจากชาวสยามโดยการใช้ข้าวหอมมะลิจากไทยในการดองเหล้าค่ะ ภายหลังสงครามจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้สั่งห้ามการนำเข้าข้าวสาร แต่ณตอนนั้นมีพี่โอกินาวาที่เดียวที่สามารถดำเนินการนำเข้าเข้าศาลได้ตามปกติเพราะว่าเค้าจะต้องใช้ข้าวสารไทย ในการดองเหล้านั่นเองค่ะ ซึ่งเหล้าชนิดนี้เรียกว่า ริวกิวอาวะโมรินั่นเองค่ะ
การเดินทางมาโอกินาวาจากเกาะใหญ่ก็มีเพียงแต่ทางเครื่องบินเท่านั้นค่ะโดยสนามบินของที่นี่ชื่อว่าสนามบินนะฮะ ถ้าบินจากโตเกียวมาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งนิดๆ ระยะทางเหมือนให้คิดซะว่าโอกินาวาอยู่ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นประมาณนั้นเลยค่ะ
แน่นอนว่าหน้า ฤดูกาลท่องเที่ยวของโอกินาวาจะเป็นช่วงไหนไม่ได้เลย นอกเสียจากช่วงฤดูร้อน เพราะทะเลที่นี่จะสวยมากๆ แต่ฤดูกาลอื่นก็สามารถท่องเที่ยวได้นะคะ
โอเคหลังจากที่รู้จักโอกินาวากันไปพอสังเขปแล้วเราก็มาแนะนำที่เที่ยวที่น่าสนใจกันซักสองสามที่ดีกว่าตามมาเลยค่ะ

เครื่องบินลงที่โอกินาวาแล้วจ้า

1. Okinawa churaumi aquarium
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ แห่งโอกินาวาโดยคำว่าชูระ เป็นภาษาพื้นเมืองโอกินาวาแปลว่าสวยงาม และคำว่าอุมิเป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าท้องทะเล พูดง่ายง่ายก็คือชื่อของพิพิธภัณฑ์นี้บ่งบอกความเป็นโอกินาวาได้ดีที่สุดซึ่งก็คือทะเลที่สวยงามนั่นเองค่ะ โดยพี่พิทพันธ์ชูราโอมิแห่งนี้เคยเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้าจะถามว่าใหญ่ขนาดไหนก็ยัดน้องฉลามวาฬ หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของโลกให้แหวกว่ายในพิพิธภัณฑ์ได้อย่างสบายสบายนะค่ะ??
สำหรับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีทั้งหมดสี่ชั้นและยังมีการแสดงด้านนอกด้วยนะคะ ส่วนเรื่องราคาค่าบาทก็จะมีทั้งหมดสองเวลาก็คือตั้งแต่เริ่มเปิด ทำการ 8 โมงครึ่งถึง 4 โมงเย็นราคา 1880 เยนและหลัง 4 โมงเย็นเป็นต้นไปในราคา 1310 เยนค่ะ (ในรูปอันนั้นคือก่อนขึ้นภาษีนะคะราคาเลยถูกกว่านิดหน่อย) ที่แห่งนี้นับว่าเป็น แลนด์มาร์คที่สำคัญถ้าไม่มาไม่ถึงโอกินาวานะคะ ?





สัตว์น้ำที่นี้ตัวใหญ่และแข็งแรงสดใสมากๆค่ะ ว่ายน้ำโชว์ตลอดเลย

2.Ryukyu Mura
ริวกิวมุระ หรือหมู่บ้านริวกิว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ให้เราเหมือนย้อนสมัยไปสัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมแห่งเกาะริวกิวแห่งนี้มีทั้งการสาธิตการทำขนมโบราณของโอกินาวาอย่างซาตาอันดากี(サーターアンダギー) การแต่งตัวเป็นชาวริวกิว เดินเล่นถ่ายรูปสวยสวย หรือhand madeน่ารักๆอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีบริการพาไปดำน้ำน้ำตื้นด้วยนะคะ (รายละเอียดเดี๋ยวให้ตามลิงค์ด้านล่างไปได้เลยนะ) ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบที่นี่มากค่ะมันแตกต่างจากญี่ปุ่นที่เคยรู้จักจริงๆคุณยายและพนักงานที่นี่ทุกคนต่างรักความเป็นริวกิว และพร้อมที่จะถ่ายทอดเอกลักษณ์ของตนให้แก่นักท่องเที่ยว


ริวกิวมุระและชิซ่าเฝ้าประตู

ร้อนแค่ไหนถามได้ดูเลยจ้า 555555


ศิลปะการสร้างบ้านก็จะดูเหมือนชาวจีนมากๆค่ะ

อันนี้คือเครื่องทอผ้านะเค้าก็จะมีคนคอยทอผ้าอยู่ตลอด แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของริวกิวแท้ๆ

วันนี้เรามาลองทำซาตาอันดากีด้วยค่ะ เค้าก็จะสอนวิธีผสมวิธีปั้นให้เรา
แล้วหลังจากนั้นคุณยายเขาก็จะทอดให้ค่ะ เราก็นั่งกินกันร้อนร้อนตรงนั้นเลยหรือว่าจะเอากลับก็ได้

คุณพี่สาวกำลังวาดภาพพื้นเมือง



อันนี้คือจุดที่เราสามารถแปลงโฉมเป็นชาวริวกิว แล้วถ่ายรูปเล่นได้ค่ะ
อันนี้ของผู้เขียนแค่เปลี่ยนเพื่อถ่ายรูปอย่างเดียวแต่เขายังมีให้เช่าเหมาเป็นชั่วโมงเพื่อใส่เดินได้ด้วยนะ

โอกินาวาเป็นแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่เราสามารถเห็นควายได้เอาจริงตอนที่เห็นตอนแรกคือตกใจมากนึกว่ากลับไทย ?

สิงโตเชิดสไตล์โอกินาวา

3.Okinawa fruits land
โอกินาวานับว่าเป็นหมูเกาะในแถบเขตร้อนทำให้มีผลเม้ต่างๆที่แตกต่างจากเกาะหลัก ของญี่ปุ่นดังนั้น fruit land จึงมีความนิยมมาก ผลไม้ หลายอย่างเหมือนที่เราเห็นได้ในเมืองไทยค่ะ แต่นอกจากผลไม้แล้วยังมีโซนให้ชม 1000นกและผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหาร Original สำหรับที่นี่โดยเฉพาะที่หาทานไม่ได้ที่ไหนในโอกินาวาด้วย ที่สำคัญยังมีของฝากพื้นเมืองจากผลไม้ในโอกินาวาให้เลือกซื้อด้วยนะคะ


ตกใจมากที่ได้เจอขนุนและต้นกล้วย ที่จะมีที่แค่ที่นี่เท่านั้นในญี่ปุ่น ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านค่ะ 5555

อันนี้เราไม่รู้น้อนเรียกว่าอะไรแต่ว่าหน้าตาตลกและน่ารักมากๆเลย

เดินมาเหนื่อยแล้วก็ขอพักทานไอศครีม blue seal ที่เป็นแบนไอศครีม
ของโอกินาวาแท้แท้เอาจริงคือมันอร่อยมากอยากให้มีขายทั่วประเทศญี่ปุ่นเลยละ

มองค์บลังมันม่วง กลับมะม่วงสุก
มันม่วงเป็นอีกสินค้าขึ้นชื่อรสชาติดีของโอกินาวาค่ะ
อันนี้เป็นแค่สามสถานที่ที่เรายกขึ้นมาแนะนำให้รู้จักเฉยเฉยนะคะโอกินาวายังมีที่เที่ยวอีกมากโดยเฉพาะสถานที่ดำน้ำที่สวยไม่แพ้ใครในโลกและถนนโคคุไซโดริ ที่เป็นย่านขายของฝากชื่อดังเฮฮาครื้นเครงตลอดทั้งปีให้นักท่องเที่ยวไปแวะชมแวะซื้อกันค่ะ

ข้าวทาโคส และโอกินาวาราเมง อาหารพื้นเมือง

เหล้าขาวอาวะโมริ

ขนมของฝากจากโอกินาวา

ก่อนจะจากกันในวันนี้เราขอนำเสนอภาษาโอกินาวาคำว่าคารี (แหนะ หยุดนะอย่าออกเสียงผิด) แปลว่าอำนวยอวยชัยหรือการเกิดขึ้นของสิ่งดีดีและยังใช้เวลาชนแก้วเหมือนกับคำว่าคัมไป ในภาษาญี่ปุ่น หรือไชโยในภาษาไทยเรานั่นเองค่ะ คนโอกินาวาชอบดื่มเป็นอย่างมากถ้าลองเราไป”คารี!” กับคนโอกินาวาเค้าคงจะดีใจและตอบกลับไมตรีเราแน่นอนค่ะ
สำหรับเนื้อความวันนี้ถ้ามีจุดไหนตกหล่นไปก็ขอโทษด้วยนะคะ แต่สิ่งที่ผู้เขียนจำได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือตอนไปโอกินาวามีความสุขมากๆค่ะและหวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่โอกินาวาเหมือนกับผู้เขียนนะคะ
—————————————————————
◆Churaumi Website
https://churaumi.okinawa/
◆Ryukyu mura Website
https://www.ryukyumura.co.jp/official/plans/
◆Fruit land Website
http://www.okinawa-fruitsland.com/
