หลายคนอาจมีความฝันว่าอยากจะมีสวนญี่ปุ่นเล็ก ๆ ในบ้าน เอาไว้นั่งเล่น จิบชา ฟังเสียงน้ำไหลยามบ่าย ปล่อยความคิดในบรรยากาศแสนสงบและผ่อนคลาย แต่การจะทำสวนญี่ปุ่นเอาไว้ในบ้านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน บทความนี้จึงขอพาไปเดินเล่นชมสวนญี่ปุ่นในญี่ปุ่นกันก่อน เผื่อเป็นไอเดียสำหรับแต่งบ้านหรือสำหรับทริปญี่ปุ่นครั้งต่อไปก็ไม่ว่ากันค่ะ
1. Ryoanji Temple, Kyoto
ใครที่ชอบความมินิมอลต้องมาเยือนสวนหินที่วัด Ryoanji นี้เลยค่ะ เป็นวัดเซนเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO สวนหินที่วัดนี้มีขนาดเพียง 248 ตร.ม. ประกอบด้วยหิน 15 ก้อน ที่มีขนาดแตกต่างกัน จัดวางเป็นกลุ่ม 5 กลุ่ม โดยบริเวณรอบกลุ่มหินจะเป็นกรวดสีขาวที่มีการสร้างรอยคราดใหม่ขึ้นทุกวันโดยพระในวัด ที่มาของการออกแบบหรือความหมายของสวนนี้ยังไม่มีการระบุแน่ชัด สามารถตีความได้ตามจินตนาการของผู้มาเยือนเลยค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมสวนหินนี้ในบริเวณที่จัดให้เท่านั้น ไม่สามารถลงไปเดินชมรอบ ๆ สวนได้ค่ะ เสียค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 300 เยน
ประเภทสวน: Dry Landscape Garden
Website: http://www.ryoanji.jp/smph/eng/index.html
2. Adachi Museum of Art, Shimane
สำหรับคนที่หลงใหลในสวนญี่ปุ่นน่าจะชอบที่นี่มาก เพราะถึงแม้ที่นี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่จัดแสดงผลงานจิตรกรรม ภาพเขียนต่าง ๆ แต่ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดสวนญี่ปุ่นถึง 6 สวน รวมพื้นที่ราว 165,000 ตารางเมตร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการชมงานภาพเขียน เพื่อให้รับรู้ถึงความงามของศิลปะได้ดียิ่งขึ้น ตามแนวความคิดของ Adachi Zenko ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่เชื่อว่า “สวนคือภาพเขียนที่มีชีวิต” นั่นเอง ซึ่งมุมที่สามารถถ่ายทอดแนวคิดนี้ได้เด่นชัดที่สุดคือ Living Hanging Scroll เป็นผนังที่มีการเจาะช่องหน้าต่างที่มีขนาดและสัดส่วนตามขนาดภาพเขียน เพื่อให้เห็นฉากหลังเป็นสวนที่อยู่ด้านนอก เมื่อฤดูกาลเปลี่ยน ภาพนี้ก็จะเปลี่ยนไปราวกับมีชีวิตจริง ๆ ค่ะ
ประเภทสวน: Dry Landscape Garden, Moss Garden, White Gravel and Pine Garden, Pond Garden, Kikaku Waterfall
Website: https://www.adachi-museum.or.jp/en/
3. Daitokuji Temple, Kyoto
อีกหนึ่งวัดสายเซนในเกียวโตที่อยากพาทุกคนไปชมสวนก็คือ วัดไดโทคุจิ เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในบริเวณประกอบไปด้วยวัดย่อยถึง 22 วัด แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้เป็นบางวัด และบางวัดจะเปิดเฉพาะวาระพิเศษเท่านั้น ซึ่งสวนหินที่จะพาทุกคนไปดูนั้นอยู่ในบริเวณวัดย่อยไดเซนิน วัดย่อยริวเกนิน และวัดย่อยซูอิโฮอิน สวนหินในวัดย่อยทั้งสามจุดนี้จะมีการออกแบบ จัดวาง และสื่อความหมายที่แตกต่างกัน โดยสวนหินในวัดย่อยไดเซนินนั้นจะเป็นการจำลองภาพวาดทิวทัศน์แบบศิลปะจีน คือมีภูเขาสูงที่มีน้ำตกไหลลงมาระหว่างช่องเขาไหลลงสู่มหาสมุทร ถัดมาที่วัดย่อยริวเกนิน บริเวณนี้จะมีสวนหินทั้งหมด 5 สวน โดยสวนที่มีพื้นที่เยอะที่สุดถูกออกแบบให้สื่อถึงจักรวาล และสุดท้าย สวนหินที่วัดย่อยซูอิโฮอิน เป็นสวนหินที่มีการเล่นระดับของรอยคราดให้มีลักษณะเป็นคลื่นทะเล ล้อมรอบกลุ่มหินที่เปรียบเสมือนเกาะกลางทะเลนั่นเอง หากใครที่ชื่นชอบสวนหิน มาที่นี่ที่เดียวคุ้มเลยค่ะ
ประเภทสวน: Dry Landscape Garden
4. Kokedera, Kyoto
มาถึงสวนสุดท้ายแต่เป็นสวนที่เรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของสวนเซนญี่ปุ่นเลยทีเดียว นั่นก็คือสวนมอสแห่งวัดไซโฮจิ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โคเคเดระ หรือ Moss Temple โดยแรกเริ่มนั้นเป็นความตั้งใจของ Muso Kokushi ที่ต้องการทำสวนนี้ให้เป็นที่ฝังศพของตน มีสระน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้วิธีการจัดวางกลุ่มหินเพื่อสื่อถึงจิตวิญญาณของลัทธิเซนแทน ซึ่งถือเป็นวิธีการจัดสวนที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในยุคศตวรรษที่ 14 สวนนี้จึงได้กลายเป็นต้นแบบของสวนหินญี่ปุ่นในปัจจุบัน และด้วยกาลเวลาที่ผ่านไปหลายร้อยปี ยิ่งทำให้สวนหินแห่งนี้มีเสน่ห์มากขึ้นด้วยต้นไม้ใหญ่และกลุ่มมอสที่ขึ้นปกคลุมเขียวชอุ่มทั่วพื้นที่ ให้บรรยากาศที่สงบ สดชื่น บริสุทธิ์แก่ผู้มาเยือน นอกจากสวนหินแล้วก็ยังมีสวนแบบคลาสสิคและ tea house ให้เดินชมกันด้วยค่ะ
ประเภทสวน: Dry Landscape Garden, Classic Style Garden
Website: http://saihoji-kokedera.com/en/top.html
---
ในทางวัฒนธรรมแล้ว สวนแบบญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากสวนแบบอื่นอย่างเด่นชัด เพราะสวนแบบญี่ปุ่นเน้นเรื่องบริบททางศาสนาและศิลปะ สวนตามแนวความคิดของญี่ปุ่นเปรียบเสมือนศูนย์รวมแห่งจิตวิญญาณ สื่อความหมายเชิงปรัชญาให้กับผู้ที่เข้ามาใช้เวลาอยู่ในอาณาบริเวณนั้น เป็นสถานที่หลอมรวมจิตวิญญาณของมนุษย์ให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ จึงไม่แปลกที่หากจะชมสวนแบบญี่ปุ่นดี ๆ ก็ต้องเดินทางไปชมในวัดนั่นเอง แต่ในปัจจุบันสวนแบบญี่ปุ่นได้ถูกพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ดังจะเห็นได้จากการจัดสวนตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างโรงแรม ร้านอาหาร หรือสวนหลังบ้าน แต่ยังคงเน้นการใช้องค์ประกอบจากธรรมชาติเท่านั้น เพื่อให้ยังคงแนวคิดเดิมและคุณค่าหลักของการจัดแบบญี่ปุ่นเอาไว้นั่นเองค่ะ
Credit
http://www.ryoanji.jp/smph/eng/index.html
https://www.adachi-museum.or.jp/en/
https://en.wikipedia.org/wiki/Daitoku-ji#/media/File:Daitokuji-Zuihoin-Zuihotei-M1827.jpg
http://saihoji-kokedera.com/en/top.html