ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

ANA VS JAL

หัวข้อที่เกี่ยว
ANA JAL

First class

   

The suite ของทั้ง 2 สายให้ความเป็นส่วนตัวด้วยห้องที่กว้างขวางและที่นั่งที่สามารถปรับเป็นที่นอนได้สบาย จุดโดดเด่นของแต่ละสายคือ ANA ให้จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ถึง 43 นิ้วในระบบ 4K และผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับ Free WiFi บนเครื่องได้ด้วย ทางด้าน JAL Suite ให้เบาะนอนที่สามารถเลือกแบบแข็งหรือแบบนุ่มได้พร้อมจอ LCD 23 นิ้ว ในเรื่องของ Amenity ทาง JAL ก็มีตัวเลือก ETRO แบรนดังจากอิตาลีหรือ shiseido จากญี่ปุ่น รวมถึงให้คุณได้เพลิดเพลินกับ Entertainment ด้วย Headphone ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก  เรื่องอาหาร แน่นอนทั้งสองสายการบินคัดสรรเลือกรายการอาหารและเครื่องดืมคุณภาพชั้นดีทั้งแบบญี่ปุ่นและนานาชาติจากเชฟญี่ปุ่นชื่อดังให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินกับอาหารระดับ 5 ดาว in the sky เราสามารถเข้าไปดูรายการอาหารและเครื่องดืมที่มีการอัพเดทตลอดเวลาได้ทางเว็บไซต์ของสายการบินทั้งสอง https://www.jal.co.jp/en/inter/service/first/meal/ https://www.ana.co.jp/en/us/the-ana-experience/first-class/

Business class

   

ในชั้นธุรกิจของทั้งสองสายการบิน จัดห้องที่นั่งให้มีช่องทางที่สามารถเดินออกไปยังทางเดินได้ง่ายจากทุกที่นั่ง เป็นเอกลักษณ์เด่นของสายการบินทั้งสองที่มี ที่นั่ง Design พิเศษที่สามารถให้ทั้งความส่วนตัวแก่ผู้โดยสารเดินทางคนเดียวและความใกล้ชิดแก่ผู้เดินทางกับครอบครัวเช่นกัน ที่นั่งชั้นธุรกิจของทั้งสองสายการบินสามารถปรับนอนได้สบาย ความแตกต่างเล็กน้อยคือ JAL ให้จอทีวี LCD ขนาดใหญ่ 23 นิ้วซึ่งใหญ่กว่าชั้นธุรกิจในสายการบินอื่นๆทั่วไป ในทางกลับกัน ANA ให้จอ LCD touchscreen 18 นิ้ว  เรื่องอาหารและเครื่องดื่มในชั้นธุรกิจของทั้งสองสายก็ได้คัดสรรอาหารคุณภาพชั้นดีจากเชฟชื่อดังและเครื่องดื่มแบรนด์ดังจากทั่วโลกมาให้ผู้โดยสารได้ลิ้มรสความอร่อยแบบ Fine dining in the sky สามารถเข้าไปดูรายการอาหารและเครื่องดืมแต่ละเส้นทางบินได้ทางเว็บไซต์ของสายการบิน https://www.jal.co.jp/en/inter/service/business/meal/ https://www.ana.co.jp/en/us/the-ana-experience/business-class/

Premium economy class

   

ส่วนในชั้น Premium economy  ของทั้งสองสายการบินมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากซึ่งให้ที่นั่งที่สะดวกสบายและมีระยะห่างระหว่างแถวที่กว้างโดย JAL จัดที่นั่งระหว่างแถวห่างถึง 107cm มากกว่าที่นั่งของ ANA เล็กน้อย ที่นั่งของ JAL มี partition เล็กๆเพื่อให้ความส่วนตัวแก่ผู้โดยสาร แต่ทาง ANA ให้จอส่วนตัวที่ใหญ่กว่าถึง 15 นิ้ว ซึ่งเป็นจอที่ใหญ่กว่า Premium economy ของสายการบินอื่นๆ อีกหนึ่งความแตกต่างคือสายการบิน ANA ให้แพคเกจตัวเลือกเครื่องดื่มและขนมปังชั้นดีจากชั้นธุรกิจเลย https://www.jal.co.jp/en/inter/service/premium/seat/skypremium.html https://www.ana.co.jp/en/us/the-ana-experience/premium-economy/

Economy class

   

มาถึงชั้นสุดท้ายชั้นประหยัด ที่นั่งใหม่ของทั้งสองสายการบินจัดระยะห่างระหว่างแถวให้กว้างถึง 86 cm ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารในชั้นนี้มากกว่าสายการบินอื่นๆ  สายการบิน ANA มีจุดเด่นในที่นั่งชั้นนี้ของเครื่อง A380 คือให้จอมอนิเตอร์ส่วนตัวที่ใหญ่กว่าสายการบินใดๆถึง 13 นิ้วและที่นั่งแถวกลางสามารถปรับเป็นที่นอนได้ด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่ายพิเศษเล็กน้อย ส่วนของทาง JAL ก็ให้ความกว้างขอฃที่นั่งแต่ละที่กว้างกว่าสายการบินใดๆเพื่อให้ผู้โดยสารไม่รู้สึกอึดอัดระหว่างการเดินทาง

รูปภาพจาก https://www.ana.co.jp/en/us/travel-information/cabin/couchii/

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
1 2 3
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!