ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ชวนมาอาบน้ำแร่แช่น้ำพุร้อน…กับ 10 ออนเซ็นสุดเลิศในโตเกียวและใกล้เคียง

11.Cover HP TK

ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภูเขาไฟ (ทั้งที่ดับไปแล้วและยังไม่ปะทุ) มากที่สุดในโลก จึงทำให้ดินแดนแห่งนี้อุดมไปด้วยแหล่งแร่และน้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญกับวิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือวัฒนธรรม “การแช่ออนเซ็น” หรือ “การแช่น้ำพุร้อน” ที่เป็นวัฒนธรรมยอดนิยมมาช้านาน เพราะนอกจากจะช่วยผ่อนคลาย ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด บำรุงให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสวยงาม และได้กลายมาเป็นกิจกรรมสุดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวในปัจจุบันอีกด้วย

ในอดีตนั้น “การแช่ออนเซ็น” สักครั้ง อาจจะต้องเดินทางไปยังแหล่งน้ำพุธรรมชาติโดยตรงซึ่งบางที่อาจจะอยู่ไกลและเดินทางลำบาก โชคดีที่ในปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ทำให้นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาเปิดหูเปิดตากับสถานที่ต่างๆในเมืองหลวง ไม่ต้องลำบากเดินทางไกลๆเพื่อค้นหาออนเซ็นระดับคุณภาพอีกต่อไปแล้ว

วันนี้เรามีความยินดีที่จะมาแนะนำแหล่งแช่ออนเซ็นสุดปังในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง ที่นอกจากจะเปี่ยมด้วยมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ในย่านที่เดินทางง่าย สามารถเข้าถึงได้แบบไปเช้าเย็นกลับ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในตัวมากมาย เพื่อให้เพื่อนๆได้ลองแวะไปผ่อนคลายชิลๆในช่วงที่อยู่โตเกียว

**หมายเหตุ 1: ผู้ใช้บริการต้องปฏิบัตตามกฎข้อบังคับในการแช่น้ำร้อนอย่างเคร่งครัด

**หมายเหตุ 2: จากสถานการณ์ “โควิด-19” อาจส่งผลให้สถานบริการหลายแห่งปิดบริการชั่วคราว นักท่องเที่ยวควรเช็ควันเวลาที่สามารถกลับมาเปิดให้บริการของแต่ละสถานที่อีกครั้ง

—————————————- ♦ —————————————-

1. Oedo-Onzen Monogatari, Odaiba Tokyo

ไฮไลท์อยู่ที่บ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่มีการขุดดินลงไปลึกถึง 1,400 เมตร เพื่อให้ได้น้ำพุร้อนที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายแบบขีดสุดและยังช่วยเรื่องผิวพรรณเป็นพิเศษ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2003 และแม้จะไม่ใช่บ่อน้ำร้อนในแบบใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ก็มีการจัดสถานที่ให้สวยงามและมีบรรยากาศโบราณย้อนไปสมัยเอโดะ มีบริการให้เช่าชุดยูกาตะให้คุณได้แต่งสวยก่อนไปแช่น้ำร้อนชิลๆ อีกทั้งยังมีบ่อออนเซ็นในร่มเรียกว่า Kinu-no-Yu ซึ่งน้ำในบ่อจะถูกทำให้เป็นฟองน้ำเม็ดละเอียดสีขาวเนียน ช่วยเปลี่ยนอารมณ์ในการอาบน้ำร้อนประทินผิวไปอีกแบบ

ซึ่งนอกจากการแช่ออนเซ็นแล้ว ที่นี่ยังรวบรวมหลากหลายกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ออนเซ็นเท้า, นวด-สปา, ห้องพัก, ร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีโซนที่เป็นเหมือนงานวัด มีการออกร้านต่างๆ เช่น ร้านขายของกิน, ร้านขายของที่ระลึก และของจุกจิกต่างๆ แบบงานวัดสมัยเอโดะขนานแท้

การเดินทาง: นั่งรถไฟสาย Yurikamome ลงทีสถานี Telecom Center เดินต่ออีกประมาณ 7 นาที หรือนั่ง Shuttle Bus

เวลาทำการ: 11.00 – 09.00 ของอีกวัน

ค่าบริการ (อาจมีการเปลี่ยนแปลง): วันธรรมดา ผู้ใหญ่ 2,768 เยน / เสาร์-อาทิตย์ 2,988 เยน

เด็ก (4-12 ปี) 1,078 เยน / เด็กเล็ก (ต่ำกว่า 4 ขวบ) ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ข้อมูล: https://daiba.ooedoonsen.jp/en

++++++++++

2. Toshimaen Niwa-No-Yu

มีน้ำพุร้อนที่อุดมด้วยโซเดียมคลอไรด์ ซึ่งเป็นเกลือที่ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของข้อต่อให้คุณได้ผ่อนคลายร่างกายทุกส่วน เป็นออนเซ็นท่ามกลางบรรยากาศเป็นมิตรด้วยทัศนียภาพของสวนสวยสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่อุดมด้วยพืชไม้นานาพันธุ์ รวมทั้งต้นที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ แยกเป็นโซน ชาย-หญิง และมี Body Zone ซึ่งเป็นอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ที่คุณสามารถใส่ชุดอาบน้ำลงไปแช่ได้ เหมาะสำหรับคนที่เขินอายและยังไม่สะดวกใจในการเปลือยทั้งร่างเท่าไรนัก

นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, บาร์เครื่องดื่ม, ห้องอบซาวน่า, นวดและสปา ฯลฯ เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป และไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี เข้าใช้บริการ

การเดินทาง: เดิน 1 นาที จากสถานี Toshimaen (รถไฟสาย Seibu Ikebukuro) หรือเดิน 2 นาที จากสถานี Toshimaen (รถไฟสาย Toei Oedo)

เวลาทำการ: 10.00 – 23.00 น.

ค่าบริการ (อาจมีการเปลี่ยนแปลง): ผู้ใหญ่ราคาปกติ 2,350 เยน / Night Spa (หลัง 18.00 น.) 1,320 เยน

**ยกเว้นวันหยุดพิเศษแห่งชาติ

**เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี ไม่อนุญาตให้เข้าใช้บริการ (มีการตรวจบัตรประชาชน)

ข้อมูล: http://www.niwanoyu.jp/niwa/

++++++++++

3. Tokyo-Dome Spa LaQua

Spa LaQua ตั้งอยู่ในตึก Tokyo-Dome ใจกลางกรุงโตเกียวโดยแท้ เป็นสถานบริการด้านสปาที่มีชื่อเสียง มีบ่อออนเซ็นน้ำพุร้อนที่เป็นน้ำแร่ธรรมชาติจากใต้ดินที่ขุดลึกลงไปถึง 1,700 เมตร ซึ่งช่วยบำบัดให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ซึ่งภายใน Spa LaQua ยังมีส่วนบริการด้านอื่น เช่น นวดและสปา, สระว่ายน้ำ, ซาวน่าเย็น, ร้านทำผม ฯลฯ

เนื่องจากตั้งอยู่ในโตเกียวโดม ที่เป็นอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ซึ่งมักจะใช้จัดการแข่งขันกีฬา จัดคอนเสิร์ต รวมไปถึงอีเว้นท์ต่างๆ มากมาย ทำให้ Spa LaQua โดดเด่นกว่าบ่อออนเซ็นที่อื่นตรงที่มีทั้งความสะดวกสบายทั้งด้านการเดินทาง มีร้านค้า ร้านอาหาร และกิจกรรมมากมาย รายล้อมอยู่อย่างครบครัน

การเดินทาง: เดิน 1 นาที จากสถานี Korakuen (รถไฟสาย Marunouchi or Nanbolu) / เดิน 2 นาที จากสถานี Kasuga (รถไฟสาย Toei Oedo) / เดิน 3 นาที จากสถานี Suidobashi (รถไฟสาย Toei Mita) / เดิน 6 นาที จากสถานี Suidobashi (รถไฟ JR)

เวลาทำการ: 11.00 – 09.00 ของวันถัดไป

ค่าบริการ: ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป 2,900 เยน / เด็ก 6-17 ปี 2,090 เยน

**เด็ก 6-17 ปี ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง

**เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ไม่อนุญาตให้เข้าใช้บริการ

ข้อมูล: https://www.tokyo-dome.co.jp/en/tourists/spalaqua/

++++++++++

4. Yumoto Onzen, Nikko

ขยับออกมาจากโตเกียวไม่ไกลนักสำหรับ “ยูโมโตะ ออนเซ็น” เมืองแห่งน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติ โอคุ-นิกโก้ รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันอันอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงจะยิ่งสวยแบบสุดๆ น้ำพุร้อนของที่นี่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ด้วยแหล่งกำเนิดจากธรรมชาติแท้ๆที่ทำให้น้ำมีสีเขียวมรกตสดใส แต่ทันทีที่กระทบกับอากาศ ผืนน้ำจะกลายเป็นสีน้ำนมขาวขุ่นด้วยส่วนผสมจากกรดเมตาซิลิคซึ่งเชื่อกันว่า สามารถช่วยให้ผิวพรรณเนียนเรียบเงางามเป็นพิเศษ

การเดินทาง: นั่งรถไฟชินคันเซนสาย Tohoku สถานีโตเกียว ไปลงสถานี Utsunomiya จากนั้นนั่งรถไฟ JR สาย Nikko ไปลงสถานี Nikko จากนั้นต่อรถโดยสาร Tobu Bus ไปลงที่สถานี Yumoto Onzen ใช้เวลาประมาณ 80 นาที

เวลาทำการ: -

ค่าบริการ: ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ ซึ่งมีเรียวกังให้บริการอย่างหลากหลายทั่วเมือง

ข้อมูล: https://www.visitnikko.jp/en/discover/hot-springs/

++++++++++

5. Yamato No Yu, Narita

น้ำแร่จากน้ำพุร้อนบริสุทธิ์จากธรรมชาติแท้ๆ โดยจะมีการสูบน้ำร้อนขึ้นมาจากแหล่งกำเนิดโดยตรง 120 ลิตรต่อนาที ก่อนจะถูกส่งไปยังบ่อสำหรับแช่ซึ่งติดตั้งระบบหมุนเวียนและระบบคัดกรองความสะอาดที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้น้ำร้อนที่ได้มีคุณภาพสูงสุด มีให้เลือกทั้งกลางแจ้งและในร่ม แบบแช่รวมและแบบส่วนตัว พร้อมกับวิวจากหมู่บ้านชานเมืองและธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์ ซึ่งนอกจากออนเซ็นแล้ว ที่ Yamato No Yu ซึ่งได้รับการตกแต่งพื้นที่ในสไตล์โมเดิร์น ยังมีบริการด้านอื่นๆให้เลือกอย่างครบครัน ทั้งร้านอาหาร, สปา, ฟิตเนส, ซาวน่า, และ Radiant Bath ซึ่งเป็นห้องอาบน้ำที่เน้นการให้ความอบอุ่นเพื่อเผยผิวใส

การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR สถานีโตเกียว ไปลงสถานี Narita จากนั้นนั่ง JR สาย Narita ไปลงสถานี Shimousa Manzaki แล้วเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที / หรือ นั่ง JR สถานีโตเกียว สาย Narita ไปลงสถานี Ajiki แล้วต่อแท็กซี่ประมาณ 10 นาที

เวลาทำการ: 10.00 – 22.00 น.

ค่าบริการ: วันธรรมดา 850 เยน / ส-อา และวันหยุดแห่งชาติ 1,000 เยน

ข้อมูล: https://yamatonoyu.com/en/bath

++++++++++

6. Mikokuyu Bathhouse

ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า Shitamashi เป็นพื้นที่ในเขตของ Ryogoku ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องการแข่งขันซูโม่ ใกล้กับ Tokyo Sky Tree และแหล่งช้อปปิ้งสินค้าดังๆมากมาย Mikokuyu เป็นโรงอาบน้ำร้อนขนาดน่ารักกะทัดรัด ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 ก่อนจะปิดปรับปรุงและเปิดให้บริการอีกครั้งในปี พ.ศ.2558 ภายใต้แนวความคิดของการเป็นโรงอาบน้ำเพื่อมอบความสุข สนุกสนาน และเป็นความภาคภูมิใจของชุมชน โดยจะมีการแบ่งอ่างน้ำพุร้อนตามอุณภูมิสูง กลาง และต่ำ รวมทั้งมีอ่างสมุนไพรที่จะทำให้คุณผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญมีส่วนอาบน้ำที่เหมาะกับผู้พิการ หรือผู้ที่ต้องการพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด

การเดินทาง: เดิน 16 นาที จากรถไฟสถานี Kinshicho หรือ 12 นาที จากสถานี Honjo-Azumabashi สาย Toei Asakusa

เวลาทำการ: 15.00 – 24.00 น.

ค่าบริการ: 470 เยน

ข้อมูล: http://mikokuyu.com/

++++++++++

7. Kusatsu Onzen

ได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในสามเมืองแห่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ในสมัยเอโดะจนถึงปัจจุบัน โดยมี “Yubatake” ที่ซึ่งมีน้ำพุร้อนไหลออกมา 4,000 ลิตรในทุกๆนาที เป็นไฮไลท์อันโดดเด่น เปรียบเหมือนสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงถึงแหล่งน้ำบริสุทธิ์และความอุดมสมบูรณ์ของน้ำพุร้อนแห่งนี้ และยังรายล้อมด้วยโรงแรมและร้านค้าเก่าแก่เสริมสร้างบรรยากาศโบราณสุดคลาสสิค คอยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเยี่ยมชมได้อยู่เสมอ

การเดินทาง: จากโตเกียวนั่งรถไฟชินคันเซน สาย Hokuriku ไปลงสถานี Karuizawa จากนั้นต่อรถบัส Kusakaru Bus หรือ Seibu Sightseeing Bus ไปลงสถานี Kusatsu Onzen

เวลาทำการ: -

ค่าบริการ: -

ข้อมูล: https://www.kusatsu-onsen.ne.jp/

http://onsen-kusatsu.com/

++++++++++

8. Hakone Hot Spring Town

ฮาโกเนะ เป็นเมืองแห่งน้ำพุร้อนที่มีประวัติอันยาวนาน และยังเป็นที่จดจำสำหรับนักท่องเที่ยวในฐานะเมืองที่มีรีสอร์ทออนเซ็นคุณภาพโดดเด่นอยู่หลายต่อหลายแห่ง ด้วยน้ำพุร้อนจากธรรมชาติขนานแท้ที่ช่วยฟื้นฟูผิวพรรณให้งดงามเปล่งปลั่ง บวกกับการได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆกับการชมวิวภูเขาไฟฟูจิ นับเป็นจุดมุ่งหมายสำหรับใครหลายๆคน นอกจากนั้นการเดินทางที่สะดวกสบายยังเป็นอีกเหตุผลที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อนที่ฮาโกเนะ ทั้งแบบค้างคืนและแบบเช้าไปเย็นกลับจากโตเกียว

การเดินทาง: นั่งรถไฟ Odakyu Limit Express (Romance Car) จากสถานี Shinjuku ไปลงสถานี Yumoto ใช้เวลาประมาณ 85 นาที/ หรือ นั่งรถไฟ JR สาย Tokaido สถานีโตเกียว ไปลงสถานี Odawara จากนั้นนั่งรถไฟ Hakone Tozan Railway ไปลงสถานี Yumoto ใช้เวลาประมาณ 105 นาที

เวลาทำการ: -

ค่าบริการ: -

ข้อมูล: https://www.hakone-ryokan.or.jp/

https://www.hakone.or.jp/

https://www.hakoneyuryo.jp/

http://www.hakonenoyu.co.jp/

++++++++++

9. Nozawa Onzen (Nagano)

เป็นหมู่บ้านเพียงแห่งเดียวที่มีชื่อต่อท้ายด้วยคำว่า Onzen ตอกย้ำถึงความเป็นเลิศในด้านนี้อย่างชัดเจน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดนากาโนะ มีแหล่งน้ำพุร้อนจากธรรมชาติกระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 30 แห่ง และวัฒนธรรมเกี่ยวกับออนเซ็นนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนในชุมชนแถบนี้อย่างลึกซึ้งมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดแวะเยี่ยมชมเมื่อมาถึง Nozawa Onzen นั่นก็คือ Ogama ที่ได้รับการจารึกว่าเป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติ โดยจะมีน้ำแร่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส พุ่งออกมาจากใต้พิภพ 500 ลิตรต่อนาที จนเป็นสัญลักษณ์สำคัญซึ่งสามารถสังเกตได้ง่ายๆจากการที่ชาวบ้านนำไข่หรือผักมาต้มในบริเวณนั้น นอกจากนั้น Nozawa Onzen ยังเป็นเขตน้ำพุร้อนแห่งเดียวที่ได้รับรางวัล 2 มิชลินสตาร์ จาก Michelin Green Guide ซึ่งเป็นหนังสือนำเที่ยวที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ

การเดินทาง: นั่งรถไฟชินคันเซนสาย Hokuriku สถานีโตเกียว ผ่านสถานี Nagano ไปลงสถานี Liyama จากนั้นต่อรถโดยสาร Nozawa Onzen Liner Bus ไปลงสถานี Nozawa Onzen ราคารถโดยสาร ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 300 เยน

เวลาทำการ: -

ค่าบริการ: -

ข้อมูล: https://nozawakanko.jp/

++++++++++

10. Musashi Koyama Onsen Shimizuyu

เป็นโรงอาบน้ำที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1924 อยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกของใจกลางกรุงโตเกียว ใกล้ชิบูย่าและศูนย์กลางความทันสมัยมากมาย จุดเด่นของ Shimizuyu คือ การที่แขกผู้มาใช้บริการสามารถแช่ในบ่อน้ำพุร้อนที่แตกต่างกัน 2 ชนิด ได้ในที่เดียว เพราะที่ Shimizuyu จะมีการสูบน้ำจากใต้ดินลึก 200 เมตร จนได้น้ำพุร้อนสีอำพันที่ดีที่สุดในโตเกียว อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้หลากหลาย รวมทั้งช่วยเรื่องผิวพรรณ และน้ำพุร้อนสีดำธรรมชาติ ที่มีการใช้เทคโนโลยี nanobubbles เข้ามาช่วยทำให้เกิดฟองน้ำขนาดเล็กที่นอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ยังทำให้น้ำแร่มีคุณภาพที่ดีและสร้างความเพลิดเพลินในขณะที่คุณกำลังแช่อยู่ในน้ำอีกด้วย

การเดินทาง: เดิน 5 นาที จากรถไฟสาย Tokyo Meguro สถานี Musashi Koyama

เวลาทำการ: 12.00 – 24.00 น.

ค่าบริการ: ผู้ใหญ่ 470 เยน / นักเรียน-นักศึกษา 300 เยน / เด็ก 180 เยน

ข้อมูล: http://www.shimizuyu.com/

++++++++++ END ++++++++++

ขอบคุณข้อมูล:

https://daiba.ooedoonsen.jp/en

http://www.niwanoyu.jp/niwa/

https://www.tokyo-dome.co.jp/en/tourists/spalaqua/

https://www.visitnikko.jp/en/discover/hot-springs/

https://yamatonoyu.com/en/bath

http://mikokuyu.com/

https://www.kusatsu-onsen.ne.jp/

http://onsen-kusatsu.com/

https://www.hakone-ryokan.or.jp/

https://www.hakone.or.jp/

https://www.hakoneyuryo.jp/

http://www.hakonenoyu.co.jp/

https://nozawakanko.jp/

http://www.shimizuyu.com/

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!