สวัสดีค่ะ ครั้งที่แล้วตั้งใจจะมาดูไฟของโตเกียวโดมแต่ดันมาเร็วเกินไป เลยไปเดินเล่นสวนโคระคุเองที่อยู่ติดกันมาค่ะ
เอาล่ะคราวนี้เรามาทำตามจุดประสงค์เดิมกันดีกว่า
โตเกียวโดม ตั้งอยู่ระหว่างสถานีKorakuen ซึ่งมีรถไฟใต้ดิน Marunouchi Line และ Namboku Line ผ่าน กับสถานี Suidoubashi ซึ่งมีรถไฟJr Soubu Line วิ่งผ่านค่ะ สถานีSuidoubashi ก็ห่างจากสถานีShinjuku เพียง 10 กว่านาทีเท่านั้นเอง
ที่นี่ถึงจะมีพื้นที่ไม่กว้าง แต่บริหารพื้นที่ได้อย่างดี ทุกอย่างทับซ้อนกันได้อย่างลงตัว ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยเหมือนกับสวนสนุกอื่นๆ และค่าบริการยังเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์อีกด้วย ถือเป็นสวนสนุกใจกลางโตเกียวที่อยู่มาตั้งแต่ปี1955เลยทีเดียว
ความจริงกำลังเดินอยู่ด้านล่างแล้วมีรถไฟเหาะวิ่งอยู่บนหัวก็แอบกลัวเล็กน้อยเหมือนกันนะ...
ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สวนสนุกนะคะ นอกจากเรื่องโดมที่ใช้จัดคอนเสิร์ต เล่นเบสบอล ต่างๆ ที่แน่นนอนว่าเป็นจุดขายของที่นี่แล้ว ที่นี่ยังมีสปา ห้าง พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ด้วยนะคะ
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ https://www.tokyo-dome.co.jp/en/tourists/
อธิบายซะยาว ก็ถึงเวลาที่ไฟประดับจะกลายเป็นพระเอกของงานแล้วค่ะ พอเข้าช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มืดเร็ว ในภาพนี่เพิ่งเกือบๆโมงเย็นอยู่เลยนะคะ เมื่อเตรียมความพร้อมเรียบร้อยเราก็ออกเดินทางไปยังอุโมงค์ในภาพคือฝั่งขวามือเป็นอันดับแรกค่ะ
ด้านหน้าของอุโมงค์ไฟ จะพบกับป้ายแนะนำโซนประดับไฟของที่นี่ค่ะ เดี๋ยวจะอธิบายไปตามแต่ละโซนไปด้วยกันนะคะ
ส่วนใครสนใจอ่านรายละเอียดถึงแรงบัลดาลใจของแต่ละโซนสามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ
https://www.tokyo-dome.co.jp/en/tourists/illumination/
เอาละเริ่มจากอุโมงค์ในเบอร์3กันก่อนแล้วกันค่ะ
อุโมงค์นี้ได้ได้รับแรงบัลดาลใจมากจากกล้องสลับลาย โดยมีความยาวถึง140เมตร อุโมงค์ตั้งอยู่บนชั้นสองของอาคารดังนั้นระหว่างเดินผ่านจะมองเห็นโซนสวนสนุกที่มีการประดับไฟเป็นหย่อมๆได้ทั่วค่ะ ด้านหน้าของอุโมงค์ถ้าสองคนยืนจับมือกัน ไฟของอุโมงค์จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆด้วยล่ะค่ะ
CR:https://www.tokyo-dome.co.jp/illumination/interactive/
ตามนี้เลยค่ะ ถ้าสามคนเครื่องจะไม่ตอบสนอง เป็นเครื่องเล่นสำหรับคู่รักอย่างแท้จริง ใครมาคนเดียวคงเซ็งเล็กน้อย ระหว่างที่อยู่ดุอยู่ก็เห็นเพื่อนผู้ชายมากันสองคน อยากเล่นแต่ก็ไม่กล้าจับมือกันด้วยล่ะค่ะ น่าเอ็นดู
เมื่อเดินจนสุดทาง เราก็ลงบันไดเลื่อนไปพบกับโซนในหมายเลข5ค่ะ
โซนนี้ตั้งใจจัดให้เป็นแสงสลัวดูแฟนตาซีค่ะ เดินลงบันไดเลื่อนมาก็เจอเลยค่ะ
เมื่อเดินมาอีกหน่อยจะเจอกับลานนั่งพัก ที่ประดับด้วยโคมไฟแบบจีน ความจริงโซนนี้ไม่ได้นับอยู่ในโซนจัดไฟนะคะ เพราะเป็นลานนั่งพักทานอาหารเฉยๆ (ด้านหน้ามีรถขายเครปตั้งอยู่) แต่ก็สวนด้วยไฟอ่อนๆออกแนวเอเชียต่างจากโซนหลักก็สวยไปอีกแบบค่ะ (ถ้าทนความหนาวได้...)
เอาล่ะต่อไปเป็นโซนหมายเลข5ค่ะ
ทำออกมาในธีม ลูกไฟเรืองแสงอยู่ในน้ำ
ในภาพมองถัดไปอีกนิดจะเห็นว่ามีน้ำพุน้อยๆอยู่ตรงกลาง น้ำพุนี้คือหมายเลข7ค่ะ ที่จัดในชื่อ วอเตอร์ซิมโฟนี่ คือจะจัดแนวแสงสีเสียงเลย แต่จะจัดตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น เวลาตามนี้เลยค่ะ 11:00,13:30,16:00,18:30,20:00,21:30
แต่เนื่องจากเวลาของเราไม่เอื้ออำนวย เราเลยไม่ได้ดูการแสดงและไม่มีภาพมาให้ชมกัน ต้องขออภัยด้วยค่ะ
เอาล่ะมาดูโซนหมายเลข2กันต่อดีกว่าค่ะ
โดมนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทมาริ(ลูกบอลของเล่นทำจากเชือกของญี่ปุ่น) โดยจะมีการเล่นแบบอุโมงค์ที่แนะนำเมื่อสักครู่ตั้งไว้เหมือนกัน ลองจับมือกันดูนะคะ
สีจะเปลี่ยนไปเมื่อจับมือ พอเป็นแสงสีฟ้าแล้วดูหนาวเลยค่ะ.... โดมนี้สูง10เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางที่12เมตรค่ะ ด้านในของโดมเป็นเวที ปกติจะมีการแสดง หรือโฆษณายนหน้าจอทีวีที่เห็นค่ะ
ระหว่างเดินเจอกับคาเฟ่มูมินด้วยล่ะค่ะ ใครเป็นแฟนมูมินห้ามพลาดเลยนะคะ
เดินมาอีกนิดจะเจอกับโซนในหมายเลขที่4ค่ะ
สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับคริสต์มาส ก็คือ ต้นคริสต์มาสนั่นเอง ต้นคริสต์มาสนี้มีความสูงถึง 12้มตร และตกแต่งด้สนผลแอปเปิ้ลทองค่ะ เพราะว่าเป็นสัญลักษณ์ของหน้าหนาว ของเทศกาลคริสต์มาส ห้ามพลาดถ่ายรูปเด็ดขาดเลยนะคะ
โดยด้านข้างของต้นคริสต์มาสนี้ก็มีโซนหมายเลข1อยู่ข้างๆค่ะ
โดมนี้ออกแบบให้เป็นลายแบบลายผ้าสมัยเอโดะ ถือว่าเป็นจุดขายอีกจุดนึงของที่นี่เลยค่ะ
เมื่อเหยียบไปบนลูกกลมๆด้านในจะมีเสียงคล้ายเสียงกระดิ่งและรูปจะเปลี่ยนไปโดยโดมนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องสลับลายเหมือนกันค่ะ คือลายจะเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของคน
แต่มีแต่เด็กๆเข้าไปเล่น ไม่สามารถแย่งเด็กเล่นได้จริงๆ ได้แต่มองอยู่ห่างๆ และถ่ายรูปมาค่ะ
จบโซนหมายเลข1-7แล้วค่ะ โซนนี้จะอยู่ใกล้กับสถานีโคระคุเอง เอาล่ะเราจะไปในโซนหมายเลข9-12กันค่ะ ถ้าเดินไปทางนั้นก็สามารถเดินทางกลับด้วยรถๆฟJR สถานีซุยโดบาชิเลยล่ะค่ะ
เมื่อเดินขึ้นมาจะพบกับโซนสวนสนุกอีกโซน และฝั่งขวามือจะเจอกับโตเกียวโดมค่ะ ตลอดทางเรียบโตเกียวโดมก็มีการประดับไฟสีส้มบนต้นไม้ให้ถ่ายรูปเพลินๆเหมือนกันค่ะ
รถไฟเหาะ หรือเครื่องเล่นต่างๆก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลประดับไฟช่วงปลายปีนี้เหมือนกันค่ะ
เมื่อเดินจนสุดทางจะพบกับถนนสายไม้ไผ่ ในโซนจัดไฟหมายเลข12 โดยไม้ไผ่แต่ละท่อนมีการแกะสลักเป็นลายแบบญี่ปุ่นไว้ ด้านในประดับไฟ พอเดินผ่านถนนสายนี้เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปในญี่ปุ่นสมัยก่อนเลยล่ะค่ะ ถนนสายนี้มีความยาวถึง100เมตรเลยทีเดียว
ระหว่างเดินบนถนนสายไม้ไผ่ก็เจอกับป้ายนำทางไปศาลเจ้าน้อยๆของโตเกียวโดมด้วย ตั้งอยู่มืดๆแบบนี้ ถ่ายรูปออกมาแล้วแอบหลอนๆเล็กน้อย
เอาล่ะมาถึงโซนถัดไปดีกว่า นี่คือโซนหมายเลข10 ค่ะ นำร่มแบบญี่ปุ่นมาประดับไฟ สวยงามแบบญี่ปุ่นๆค่ะ รอบๆก็มีต้นไม้ประดับไฟสีส้มเป็นฉากหลัง
เอาล่ะคราวนี้เราเดินย้อนกลับไปทางโตเกียวโดมเพื่อไปดูไฟในโซนหมายเลข11ค่ะ
โซนนี้สร้างในธีมดอกไม้ไฟค่ะ ตรงที่เหมือนดาวกระจายนั้นคือดอกไม้ไฟนั่นเอง และด้านล่างกลมๆที่ประดับอยู่รอบๆนั้นทำจากดอกไม้เหมือนช่อดอกไม้น้อยๆน่ารักน่าเอ็นดู คู่รักเลยนิยมไปถ่ายรูปกันข้างๆช่อดอกไม้มากกว่าดอกไม้ไฟตัวหลักของโซนนี้นั่นเอง
เมื่อเดินจนสุดทางดอกไม้ไฟ ก็เจอกับบันไดที่ให้เดินขึ้นไปจะเจอกับโตเกียวโดม แต่ก่อนหน้านั้นจะเจอกับไม้ไผ่ประดับไฟด้านข้างบันไดค่ะ โซนนี้ไม่ได้ระบุว่าเป็นหนึ่งงในโซนดูไฟ แต่สวยงามไม่แพ้กันค่ะ
สำหรับโซนเบอร์8-9 ต้องเดินลงไปด้านล่างในโซนสวนสนุก แต่เนื่องจากเวลาของเราไม่เอื้ออำนวย เลยไม่ได้ลงไปถ่ายค่ะ
เบอร์8 เป็นต้นคริสต์มาสที่ทำจากโอริกามิ(กระดาษพับแบบญี่ปุ่น)สูง6เมตร ส่วนเบอร์9เป็นถนนสายกังหันลมกระดาษค่ะ
ในโซน8-12นี้เห็นได้ชัดเลยว่า ทำในธีมฤดูร้อนถึงแม้การจัดไฟจะอยู่ในช่วงฤดูหนาว เพราะไม่ว่าจะดอกไม้ไฟหรือ กังหันลมกระดาษก็เป็นตัวแทนของหน้าร้อนญี่ปุ่นทั้งนั้นเลยล่ะค่ะ
สำหรับครั้งนี้ ก็ได้แแนะนำโตเกียวโดมที่ไม่ได้มีแค่โดมทั้งสองช่วงไปเรียบร้อยแล้วค่ะ หวังว่าจะถูกใจกันนะคะ
ขอปิดท้ายด้วยโตเกียวโดมในมุมสูงที่ถ่ายจากลิฟท์ของโรงแรมโตเกียวโดมค่ะ