ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

งดงามในความเงียบ กับ 4 สถานที่ไม่พลุกพล่านทั้งในและใกล้ๆ โตเกียว

งดงามในความเงียบ กับ 4 สถานที่ไม่พลุกพล่านทั้งในและใกล้ๆ โตเกียว

สถานการณ์โควิด - 19 กระทบผู้คนทั้งโลก จนทำให้เกิดพฤติกรรมใหม่ทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน การเรียนการสอนแบบ New Normal ที่ตอนนี้ได้กลายเป็น Now Normal ไปแล้ว การท่องเที่ยวก็เช่นเดียวกันที่เราคงจะไม่อยากไปที่ไหนคนเยอะๆ และแหล่งท่องเที่ยวฮิตๆ ก็อาจไม่ใช่จุดหมายที่ต้องการนับจากนี้
สำหรับประเทศญี่ปุ่น การเดินทางท่องเที่ยวที่เราจะมองหาต่อไปนี้คือสถานที่คนไม่พลุกพล่าน เพื่อชื่นชมกับสิ่งรอบตัวได้อย่างสบายใจ อย่างเช่นที่ในวันนี้เราจะขอแนะนำสถานที่เงียบๆ ทั้งในและไม่ไกลจากโตเกียว ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการท่องเที่ยวต่อจากนี้

Jimbocho Book Town

Photo: IG @kitazawa_books, IG @jimbocho_osanpo

สายหนังสือ หรือชมรมคนรักหนังสืองานดีไซน์สายวินเทจ ต้องหลงรักย่านนี้ เมืองหนังสือจิมโบโช (Jimbocho Book Town) อยู่ใจกลางโตเกียว สามารถนั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานีชื่อ Jimbocho แล้วจะได้พบกับร้านหนังสือเก่ากว่า 200 แห่ง ทั้งยังเป็นแหล่งข้าวแกงกะหรี่ขึ้นชื่ออีกด้วย
ที่นี่มีหนังสือทุกประเภทที่คุณต้องการ ทั้งที่แบบถูกร้อยเยน หรือไปจนถึงนวนิยายขึ้นหิ้งเบสท์เซลเลอร์ งานภาพพิมพ์ตั้งแต่ยุคเอโดะ แผนที่โบราณ โปสเตอร์เก่าแก่ ไปจนถึงแมกกาซีนให้เลือกแบบเดินได้ทั้งวันไม่จบไม่สิ้น
สำหรับนักท่องเที่ยวก็ต้องบอกว่าเมืองหนังสือจิมโบโชมีหนังสือภาษาอังกฤษอยู่มากมายเช่นกัน อย่างเช่นที่ร้าน Kitazawa Shoten ร้านหนังสือเก่าแก่ของโตเกียวที่ชั้นสองทั้งฟลอร์ รวมเอาหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ และหนังสือสุดคลาสสิกต่างๆ ให้เลือกสรร พร้อมกับการตกแต่งของร้านที่คลาสสิกมากๆ เหมาะแก่การถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก หรือที่ร้าน Sanseido ก็มีหนังสือภาษาอังกฤษให้เลือกมากมายที่ชั้น 5 ของร้านเช่นกัน
Komiyama Tokyo เป็นร้านหนังสือเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1939 มีหนังสือให้เลือกมากมายทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ชั้นบนของร้านยังจัดเป็นบริเวณแสดงงานศิลปะแบบหมุนเวียน ความน่าสนใจคือเราสามารถนำงานศิลปะและหนังสือเก่าไปขายให้กับทางร้านได้ด้วย 
ถ้าเป็นสายแกลอรี่ นอกจากร้าน Komiyama  แล้วแนะนำร้านหนังสือ Yamada Shoten ที่นอกจากขายหนังสือศิลปะมากมาย ยังมีแกลอรี่บริเวณชั้น 2-3 ของร้านที่จัดแสดงอาร์ตเวิร์คพร้อมจำหน่าย ทั้งงานศิลปะญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงงานศิลปะโมเดิร์นจากต่างประเทศ 
สายคาเฟ่ที่ไม่อยากเดินเยอะ แนะนำ Paper Back Cafe ร้านหนังสือมาพร้อมคาเฟ่ที่เหมาะสำหรับเอนหลังพักผ่อน หรือเลือกซื้อเครื่องเขียนรวมไปถึงอุปกรณ์งานศิลปะต่างๆ หรือถ้าเป็นสายเกมเมอร์วินเทจ ก็ไม่ควรพลาดร้าน Okuno Karuta ที่มีเกมเก่าๆ ให้ดูแล้วนึกถึงอดีต เรียกว่าเป็นย่านที่คล้ายๆ ได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปสู่วันวานที่ชุบชูใจได้ดีทีเดียว

Info: Jimbocho Book Town

  • เปิดช่วงสายๆ ถึงเย็นๆ 
  • เดินทางได้ทั้งรถไฟสาย Chao หรือ Sobu ไปลงสถานี Ochanomizu หรือรถไฟสาย Mita, Shinjuku, Hanzomon ไปลงสถานี Jimbocho
  • ย่านเมืองหนังสือจิมโบโช อยู่บริเวณสี่แยกถนนยาสุคุนิ (Yasukuni-dori) และฮาคุซัน (Hakusan-dori) เดินจากสถานีจิมโบโชราว 15 นาที ไม่ไกลจากย่านอากิฮาบาระและคันดะ 

Shibamata

Photo: gotokyo.org

ชิบามาตะ เมืองเก่าขอบโตเกียวที่ยังไม่ฮิต และพร้อมจะพาเราหลุดไปยุคเอโดะที่คลาสสิกสุดๆ จากสถานีชิบามาตะ แค่เดินออกมาไม่กี่ก้าวก็จะพบกับรูปปั้นของโทระซัง คาแรคเตอร์ตัวละครยอดนิยมที่สร้างเป็นภาพยนตร์ไปแล้ว 48 ภาค Otoko wa tsurai yo (It’s Tough Being a man) เป็นผลงานภาพยนตร์ซีรีส์ของผู้กำกับยูจิ ยามาดะ ซึ่งภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้โลเคชั่นถ่ายทำก็เกิดขึ้นที่เมืองนี้เช่นกัน

บริเวณถนนเส้นหลักจากสถานีจะเต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ ขายอาหาร ขนมหวานแบบดั้งเดิม ร้านของที่ระลึก และร้านอาหารต่างๆ ตัวถนนนำเราไปสู่วัดไทชาคุเท็น (Taishakuten Temple) ที่สร้างขึ้นในปี 1629 ปกติแล้วภายในวัดค่อนข้างเงียบสงบ เราจะเดินชมงานไม้แกะสลักอายุเก่าแก่ที่อยู่รอบบริเวณ ทั้งฐานพระ ประตู และชิ้นงานที่จัดวางอยู่ในแกลอรี่ของวัดได้ด้วย ภายในวัดจะสังเกตเห็นต้นสนเก่าแก่กว่า 500 ปีที่ยืนต้นยาวนานหลายชั่วอายุคน หรือการเดินชมสวนญี่ปุ่น Yamamoto-tei ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนที่สุดที่สุดอีกแห่งในญี่ปุ่น ก็เป็นพื้นที่เงียบสงบเหมาะสำหรับชำระล้างจิตใจ
ไฮไลท์ที่ต้องจัดเมื่อมาย่านนี้คือข้าวหน้าปลาไหลที่เป็นของขึ้นชื่อ โดยเฉพาะข้าวหน้าปลาไหลของร้าน Ebisuya (ゑびす家) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 230 ปี ตัวร้านอยู่ในอาคารไม้เก่าแก่ ที่นั่งมองออกไปเห็นสวนสวยๆ เมื่อข้าวหน้าปลาไหลย่างถ่านราดด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษของทางร้านมาเสิร์ฟ คุณจะรู้ทันทีว่านี่แหละคือสิ่งที่ตามหามานาน 
ส่วนอีกเมนูที่ต้องลองเมื่อมาชิบามาตะก็คือดังโงะ ที่เมืองนี้มีชื่อเสียงเรื่องข้าวอันเป็นวัตถุดิบในการทำดังโงะ โดยเฉพาะ “คุชะดังโงะ” ซึ่งเป็นดังโงะที่ผสมพืชกลุ่มมักเวิร์ตในท้องถิ่นเข้าไปเป็นสีเขียว และโรยด้านบนด้วยถั่วแดงบด ร้านขนมแนะนำของเมืองคือร้านอิชิอิ (Ishii) ขายโมจิ โดรายากิ และเมนูเด็ด โคเมะโคเมะเค้กโรล, ร้านทาคากิยะ โรโฮะ (Takagiya Shinise) ที่มีขนมหวานคุสะดังโงะที่ต้องชิม รวมถึงขนมชิบะมาตะโมจิ 
พิพิธภัณฑ์โทร่าซัง (Tora-san Museum) เป็นจุดหมายที่คนญี่ปุ่นนิยม แม้ว่าสำหรับคนไทยอาจไม่ค่อยคุ้นกับภาพยนตร์แห่งชาติเรื่องนี้ แต่การเข้าชมมิวเซียมแห่งนี้จะทำให้เข้าใจวิถีชีวิตผู้คนในยุค 60-70 ได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่ตัวหนังเล่าถึงชีวิตของเซลล์แมนชื่อโทร่าซังที่ใช้ชีวิตในเมืองนี้ 

Info: Shibamata

  • เดินทางด้วยรถไฟฟ้าสาย Keisei Kanamachi จากโตเกียวใช้เวลาราว 30-60 นาที
  • ทุกวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 11.00 น. มีบริการพาทัวร์ชมเมือง บริเวณหน้าสถานีชิบามาตะ
  • ดาวน์โหลดแผนที่เมืองได้ที่ http://shibamata.net/map/jpg/201706/map-jp_A3web.png

Yamate

Photo: Yokohama Visitors Guide

 ยามาเตะ เมืองเล็กๆ บนเขาของโยโกฮาม่าที่เราชอบไปอยู่บ่อยๆ เพราะเต็มไปด้วยบ้านสวยๆ เรื่องราวอดีตมากมาย และผู้คนไม่พลุกพล่านนัก ยามาเตะเป็นเมืองต้นเรื่องของ From up on Poppy Hills ภาพยนตร์จิบลิสตูดิโอในปี 2011 ที่เล่าเรื่องราวของนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ออกมาต่อต้านการทุบทำลายอาคารเก่าที่ควรเก็บไว้เป็นอนุสรณ์
ใครที่ได้ดูแอนิเมชั่นเรื่องนี้คงจำกันได้ถึงฉากบ้านบนเขาที่มองออกไปเห็นท้องทะเล ทางเดินรถที่พระเอกขี่จักรยานขึ้นเขาอย่างเหนื่อยหอบ หรือฉากตึกเก่าทรงยุโรปสวยๆ ในเมือง ซึ่งที่ยามาเตะในความเป็นจริงยังคงบรรยากาศแบบนั้น เมืองเล็กๆ ที่มีถนนคดโค้งบนภูเขา สถาปัตยกรรมปลายยุคเอโดะที่ชาวต่างชาติเลือกมาตั้งถิ่นฐานช่วงที่ญี่ปุ่นเปิดใช้ท่าเรือโยโกฮาม่าเพื่อการค้าขายกับต่างประเทศ
ทุกวันนี้ตัวอาคารเก่าแก่ต่างๆ ดัดแปลงเป็นโรงเรียน โรงแรม ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ และกลายเป็นย่านท่องเที่ยวไม่ไกลโตเกียวที่อากาศปลอดโปร่งด้วยลมจากท้องทะเล 
แนะนำ Diplomat’s House บ้านท่านฑูตที่สร้างในชิบูย่าช่วงปี 1865 - 1942 และทำการย้ายมาไว้ที่ยามาเตะในปี 1997 ตัวอาคารยังคงสวยงามดังเดิมในแบบวิคตอเรียน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอเมริกัน ส่วนอาคารอีกหลังที่ไม่ควรพลาดคือ Museum of Tennis ที่เคยใช้เป็นสปอร์คลับในช่วงที่ญี่ปุ่นเปิดประเทศปลายยุค 60 ในปัจจุบันปรับเปลี่ยนเป็นร้านอาหารตะวันตกที่มีข้าวห่อไข่อร่อยมาก

Info: Yamate

  • จากโตเกียวมีรถไฟหลายสายให้เลือก ทั้งด่วนและแบบท้องถิ่นหยุดทุกสถานีที่จะใช้เวลานานกว่าเท่าตัว จุดหมายของเราคือสถานีโยโกฮาม่า (Yokohama Station) จากนั้นต่อรถไฟไปยังสถานีโมโตมาชิ (Motomachi-Chukagai Station) จากตัวสถานีมีลิฟท์ขึ้นไปชั้นบนสุด จะเป็นทางออกสู่สวนกุหลาบ ที่ประหยัดแรงเดินขึ้นเขาไปได้เยอะ
  • นอกจากเมืองยามาเตะแล้ว ควรไปเดินชมสวนสวยๆ ที่ ซันเคเอ็น (Sankei-en Garden) ซึ่งแต่เดิมเป็นบ้านของพ่อค้าฮาระ ซันเค สวนแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพราะไม่ได้ดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างประเทศ บรรยากาศเลยเงียบสงบ และมีทางเดินภายในกว้างใหญ่ มีมุมนั่งพักมองวิวมากมาย ฤดูที่ดอกซากุระบานที่สวนนี้คือความงดงามอย่างที่สุด

Kamakura



ถ้าจะแนะนำเดย์ทริปจากโตเกียวที่คู่ควรที่สุด ก็ต้องเป็นคามาคุระ เมืองติดชายทะเลแห่งนี้ ที่ถึงแม้จะเป็นที่รู้จักกว้างขวาง แต่ก็ยังมีมุมเล็กๆ ลึกลับที่รอการไปค้นพบ 
สำหรับคามาคุระแล้ว ค่อนข้างกินพื้นที่กว้างขวาง ทั้งย่านสถานีคามาคุระ (Kamakura Station) ที่มีวัดพระใหญ่ Kotoku-in ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปสักการะ และเทรคกิ้งบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปยังบริเวณสถานี คิตะ- คามาคุระ (Kita-Kamakura Station) ซึ่งหากเลือกเส้นทางนี้และออกเดินทางแต่เช้า นักท่องเที่ยวจะบางตามากๆ 
เมื่อมาถึงสถานี คิตะ - คามาคุระ ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่อยู่มากมาย พอหายเหนื่อยแล้วควรเดินต่อไปยังวัด Meigetsuin ที่งดงามมากๆ ในทุกฤดู วัดแห่งนี้อยู่ลึกเข้าไปในป่า ด้านหน้าเป็นสวนดอกไม้ เมื่อเดินไปตามเส้นทางจะเจอกับป่าไผ่ด้านหนึ่งของวัดที่เส้นทางเดินกลางป่าไผ่นั้นสงบเงียบ มีเพียงเสียงต้นไผ่ล้อไปตามเสียงลม 
ส่วนตัวอาคารที่ใช้เป็นที่นั่งดื่มชานั้น มีช่องแสงมองออกไปเห็นสวนญี่ปุ่นของทางวัด ในฤดูใบไม้แดง จะเห็นฉากหลังเป็นต้นเมเปิ้ลมากมายให้แสงสีที่แตกต่างกันไป 
จากคิตะ - คามาคุระ ให้นั่งรถไฟไปสถานี คามาคุระ โคโคมาเอะ ที่สามแยกหน้าโรงเรียนมัธยมคามาคุระ จะมีจุดถ่ายรูปสำคัญที่เป็นฉากหนึ่งของแอนิเมชั่นเรื่อง Slam Dunk ที่สถานีนี้ แวะลงไปชื่นชมทะเลที่จะเต็มไปด้วยนักเซิร์ฟได้ด้วย ชายหาดกว้างและยาวสุดลูกหูลูกตา ซึ่งในปี 2021 จะใช้เป็นสถานที่แข่งเรือใบของโอลิมปิกด้วย ถ้ามีเวลาว่างเหลือเฟือก็เลือกเดินเลาะทะเลกลับมายังสถานี Hase Station แวะคาเฟ่น่ารักๆ อีกสักรอบก่อนกลับโตเกียว

Info: Kamakura

  • นั่งรถไฟจากชิบูย่า ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมง
  • แนะนำว่าค้างที่คามาคุระหนึ่งคืนก็ทางเลือกที่ดี เพราะบริเวณค่อนข้างกว้างขวางและมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย
  • กิจกรรมอย่างการนั่งสมาธิที่วัดเคนโจจิ ก็เป็นอะไรที่เงียบสงบ และรักษาระยะห่างได้ด้วย https://www.gotokyo.org/th/destinations/beyond-tokyo/kamakura.htmlhttps://www.city.kamakura.kanagawa.jp/visitkamakura/en/index.html

Mount Mitake

Photo: Shingo Suzuki mt.kitake.gr.jp

Info: Mount Mitake

  • จากสถานีชินจูกุ เดินทางด้วย JR Chuo Line  และ Ome Line สังเกตุป้ายรถไฟว่า “Ome” และเลือกรถไฟด่วนจะหยุดบางสถานี เมื่อถึงสถานีโอเมะ ให้ต่อรถไปโอคุทามะ Okutama และลงที่สถานีมิตาเกะยามะ
  • รถบัสรับส่ง อยู่ทางด้านซ้ายของสถานีมิตาเกะ ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านทาคิโมโตะ (Takimoto Village) ทุๆ ครึ่งชั่วโมง ระหว่างเวลา 07.30-18.00 น. จากหมู่บ้านทาคิโมโตะ การให้บริการเคเบิ้ลคาร์ Mitake-Tozan จะออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมงเช่นกัน ระหว่างเวลา 07.30-18.00 น. โดยปลายทางของเคเบิ้ลคาร์คือหมู่บ้านมิตาเกะซัง (Mitakesan Village) ที่อยู่ช่วงบนสุดของภูเขา สำหรับจุดสูงสุดของภูเขามิตาเกะมีศาลเจ้ามูซาชิ มิตาเกะตั้งอยู่ (Musashi-Mitake Shrine) ซึ่งต้องเดินเท้าจากหมู่บ้านไปราวหนึ่งกิโลเมตร

ภูเขามิตาเกะ นับเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ความสูง 929 เมตร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติชิชิบุทามะไก (Chichibu Tamakai National Park) ทางตะวันตกของโตเกียว นอกจากการเทรคกิ้งแบบวันเดียวจบ ในช่วงก่อนฤดูหนาวที่ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ภูเขามิตาเกะก็นับเป็นหนึ่งในที่รับชมความงามของธรรมชาติแบบที่ไม่ต้องไปไกลจากโตเกียว
ด้วยความที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวคู่โตเกียวมายาวนาน การเดินทางเที่ยวชมค่อนข้างสะดวกสบาย สามารถนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปด้านบนภูเขา ซึ่งแค่วิวหมู่บ้านจากบริเวณที่เคเบิ้ลคาร์ไปถึงก็สวยงามและมองเห็นเมืองโตเกียวได้แล้ว 
บนเขามิตาเกะมีหมู่บ้านเก่าแก่อยู่ด้วย เป็นหมู่บ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริงและมีบริการที่พักสำหรับใครที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เมื่อมาถึงมิตาเกะแล้ว ห้ามพลาดเดินเท้าขึ้นไปจุดสูงสุดของภูเขามิตาเกะเพื่อสักการะศาลเจ้ามุซาชิ มิตาเกะ ที่สร้างมานานกว่า 1,200 ปี และจากศาลเจ้ามีทางเดินไปภูเขาโอตาเกะ ที่ความสูง 1,266 เมตรที่ในวันท้องฟ้าโปร่ง อาจจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิชัดเจน ซึ่งต้องแลกกับความเหนื่อยยากกับการเดินราว 5 ชั่วโมง และแน่นอนว่าไม่มีผู้คนวุ่นวายระหว่างทาง

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
paperback_writer
เกิดและเติบโตมาพร้อมๆ กับการเดินทางบนเบาะหลังรถของพ่อแม่ ปัจจุบันเขียนหนังสือเป็นอาชีพ และหลงรักการท่องเที่ยวด้วยความเชื่อว่าโลกใบนี้ยิ่งใหญ่ เราเป็นเพียงฝุ่นจิ๋วในจักรวาล ชอบโตเกียวและเกียวโต หลงรักวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เรียบง่ายแต่งดงาม ปัจจุบันกำลังหลงใหลการอาบน้ำร้อนและการอาบป่า
RELATED POST
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ชมภาพวาดขบวนปีศาจแห่งวัดโคไดจิ

ส่ิงที่มาคู่กับฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น นอกจากอากาศร้อน น้ำแข็งไส แล้วก็ … 01/08/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เทศกาลดอกไม้สีแดง “ฮิกังบะนะ”

มาเที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้ร่วงนี้จะทำอะไรกันดีนอกจากชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ทุ … 27/09/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
OhhoTrip_Manekineko_Cover
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

พาเที่ยวพิพิธภัณฑ์แมวกวัก ทำความรู้จักสัตว์นำโชคของชาวญี่ปุ่น

เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักและคุ้นเคยกับ แมวกวัก (Manekineko) สัญลักษณ์นำ … 10/08/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่นแบบคนในพื้นที่

สำหรับประเทศที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกมากมายอย่างญี่ปุ่น ลำพ … 30/04/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
domestic travel-665092c8
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ที่เที่ยวในประเทศยอดนิยมคนญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งชนชาติที่รักการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วัยเ … 04/10/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่นฤดูร้อน .. Summer in Japan

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นในปี 2024 นี้ จะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน พร … 30/04/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.