กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วนะคะ คราวนี้เราก็จะมาแนะนำของกินกันเช่นเดิม ของอร่อยประเทศนี้เขาเยอะอ่าน้า วันนี้นะคะที่เราจะพาไปกินก็ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นหรือขนมญี่ปุ่นแต่อย่างใด แต่เป็นร้านล็อบสเตอร์ชื่อดังจากนิวหยวก(พยายามออกสำเนียงเต็มที่ >_<) ที่หลายๆคนอาจเคยได้ยินชือเสียงเรียงนามของ Luke’s lobster กันมาบ้างแล้ว เพื่อเน้นน้ำความอร่อย ว่ามันควรมาลองจริงๆนะ! เราก็จะพาไปกินกันเล้ย
Luke’s lobster ในโตเกียวนั้นมีหลายสาขาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสาขาShibuya park สาขาShinjuku แต่ที่ที่เราจะไปในวันนี้คือสาขาฮาราจุกุค่ะ แถวๆโอโมเทะซันโด ย่านช็อปปิ้งของแบรนด์เนมและย่านแฟชั่นวัยรุ่นอย่างฮาราจุกุซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังถนนเส้นหลักที่คนขวักไขว้จอแจนั้นตามตรอกซอกซอยก็เป็นที่ตั้งของร้านแฟชั่นและร้านอาหารอร่อยๆที่เรียกว่าต้องต่อแถวรออย่างร้านเกี๊ยวซ่า ร้านบุฟเฟ่เค้ก หรือแม้กระทั่งร้านชานมไข่มุกชื่อดังต่างๆมากมาย เดี๋ยวตอนท้ายของบทความเราจะแถมแผนที่ร้านที่น่าไปลองชิมไว้ให้ด้วยนะคะ
สำหรับสาขานี้สถานที่ที่ใกล้ที่สุดคือสถานี jingu maeของChiyoda line ค่ะ พอถึงสถานีแล้วให้เดินออกทางออก 5 ได้เลย ดูตามแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ แล้วเราก็เดินข้ามถนนมาจะเจอร้านราเมงอิจิรังชื่อดังที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็มีคนต่อแถวยาวตลอด ให้เราเดินเลยไปหน่อยค่ะ จากนั้นจะมีซอยด้านซ้ายมือพอเลี้ยวเข้าไปเราก็จะเจอร้านชานมไข่มุกอาเรย์ แสดงว่าเรามาถูกแล้วค่ะ เดินตรงไปจะเจอร้านบุฟเฟ่ขนมหวานอยู่ให้เลี้ยวขวาสังเกตุว่าร้านนางจะฟรุ้งฟริ้งเด่นมาเลยเดินตรงไปอีกหน่อยจะเจอซอยด้านขวามือที่ร้านล็อบสเตอร์ตั้งอยู่ค่ะ ดูตามแผนที่ด้านล่างประกอบนะคะ
ทางออกหมายเลข5 อยู่นั่นค่ะ เดินขึ้นบันไดไปโลด
พอออกมาแล้วให้เราเดินข้ามไปฝั่งที่มีอิจิรังราเมงนะคะ จากในรูปก็ที่อยู่ในวงกลมแดงๆเลยค่ะ
พอเราเลี้ยวเข้ามาแล้วเจอร้านชานมไข่มุกอาเร่ย์อย่างในรูปคือเลี้ยวมาถูกทางแล้วค่ะ
ถ้าในแผนที่จะประมาณนี้ค่ะ จริงๆแล้วออกจากสถานีได้ทั้งทางออก 4,5 และ7เลย แล้วจะเดินจากถนนเส้น413มาก็ได้ค่ะ.
แต่ที่เราแนะนำเส้นที่เราเดินเพราะมันผ่านร้านที่น่าสนใจเยอะแยะเลยค่ะ Aที่เขียนอยู่ในภาพคือร้านบุฟเฟต์ขนมหวานนะคะ
ถึงแล้วจ้า มีคนยืนต่อแถวรออยู่ตามระเบียบ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว
เนื่องจากสาขาในญี่ปุ่นเองก็ยังมีน้อยทำให้คนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวโตเกียวเองก็มักเดินทางมากินค่ะ
พอมาถึงเราก็เลือกได้ค่ะว่าจะทานแบบไหนคือทางร้านจะมีบริการ 2 แบบถ้าอยากนั่งทานสบายๆกินแบบจริงจัง ก็เข้าร้านไปทานเซตอาหารกลางวันได้เลยค่ะ เขาก็จะมีเซตเมนูบริการหรือเราจะสั่งเป็นอาลาคลาสก็ได้ค่ะ
ป้ายเมนูเซตกลางวัน ตอนแรกเห็นรูปแล้วใจเขว่อยากเดินเข้าร้านแทน
หรืออีกแบบคือเป็นล็อบสเตอร์โรล สั่งแล้วยืนทานหน้าร้าน เมนูโรลก็มีหลากหมายค่ะ ปูเอย กุ้งเอย แต่พระเอกจะอยู่ที่ล็อบสเตอร์โรลนั่นเอง เมนูก็เป็นภาษาอังกฤษชิวเลยค่ะ
ถ้าเทียบราคาแล้วอาจจะสูงกว่าร้านยืนทานทั่วไปซักหน่อยค่ะ
แต่ดูรูปสิคะคู๊ณณณณณณ แล้วของเค้าตรงปกมาก สายกินถูกใจสิ่งนี้!!!
มาถึงวิธีการสั่งนะคะเราก็เลือกได้ก็คือ
1. โรลอย่างเดียว
2. เซต A+ ซุปประจำวัน สำหรับซุปเขาจะมีรูปให้เราดูตอนสั่งค่ะ (+400 เยน)
3. เซต B + ซุปประจำวันและเครื่องดื่ม (+500 เยน)
ด้วยความอร่อยและเเค่เดินมาถึงก็ได้กลิ่มหอมอบอวนมาแต่ไกลๆเน่นอนว่าคนเยอะลูกค้าต่อแถวตลอดค่ะ แต่ว่าทางร้านก็บริการรวดเร็ว ดังนั้นแม้แถวจะยาวแต่เราก็รอเพียง 5-10นาทีเท่านั้นเอง
ว่าแล้วเราก็ไปต่อแถวกันเลย
ของอร่อยก็รอนิดนึงน้า
ต่อไปคิวเราแล้ว !!
ขอล็อบสเตอร์โรลขนาดธรรมดากับเซต A ค่ะ;D
มาแล้ววววว รวมเวลารอหลังสั่งเสร็จ 30สินาทีถ้วน หอมมาก เนื้อล็อบสเตอร์แน่นมากคุ้มราคา 1500เยนนิดๆ
ซุปวันนี้เป็นซุปครีมมะเขือเทศปูค่ะ (เขาน่าจะเรียกแบบนี้นะ)
มาซูมดูกันให้ชัดๆ เธอเห็นเนื้อเเน่นๆนั่นไหม เธออยากกินใช่หรือเปล่า (ใส่ทำนองตอนอ่านด้วยนะคะ ฮา)
อันนี้ที่เราสั่งเป็นขนาดปกติค่ะ สำหรับล็อบสเตอร์โรลทางร้านจะมี 2 ขนาดคือ ขนาดปกติแล้วก็ขนาดไซต์อเมริกาซึ่งราคาจะแพงกว่าประมาณ 600 เยน ถ้าเทียบกับราคาอาหารประเภทยืนกินแบบร้านทั่วไป ราคาของที่นี่ค่อนข้างสูงกว่าในความรู้สึกนะคะ แต่ปริมาณกับคุณภาพล็อบสเตอร์นี่คุ้มค่าคุ้มราคาเลยไม่รู้สีกว่าแพงเลยค่ะ
ง่ำๆ อร่อยมากค่ะ เขาเน้นความหวานของเนื้อล็อบสเตอร์ล้วนๆ เลยไม่มีการปรุงรสอะไรมาก
เนื้อล็อบสเตอร์สดๆเย็นๆกับขนมปังอุ่นๆ อันนี้คือความชอบส่วนตัวเลยว่าขนมปังมันนุ่มอร่อยหอมเนย
อยากได้ขนมปังเพิ่มมากเลยตอนกิน
พอเราทานโรลเสร็จแล้ว มาต่อกันที่ซุปเลยค่ะ เนื่องจากที่นั่งไม่ค่อยมีถ้ามาคนเดียวดูที่ทางดีๆนะคะ ไม่งั้นจะกินลำบากพอดูเลย T T
ซุปนี้นะคะ เนื้อปูมาเน้นๆ มีเยอะมาก คือกินทุกคำได้เนื้อปูเต็มคำทุกคนแน่นอนแบบนั้นเลย ซุปสามารถซื้อแยกได้ในราคา 480 เยน ค่ะ ถ้าเป็นเซตก็เพิ่ม 400 เยน ปกติเป็นคนชอบทานซุปมะเขือเทศอยู่แล้วก็เลยไม่มีข้อติอะไรเป็นพิเศษก็อร่อยสมราคาอีกนั่นแหละ แต่ทว่าแนะนำให้กินตอนร้อนๆดีกว่า เพราะเรากินตอนที่ซุปมันเริ่มฉืดแล้วนิดหน่อย เลยรู้สึกว่าตัวซุปมันเเอบเค็มค่ะ กินแล้วแบบกระหายน้ำเลย
จบกันไปแล้วนะคะ กับการรีวิวร้านLuke’s lobster เฉพาะตัวของล็อบสเตอร์โรล เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะทำให้ทุกคนน้ำลายไหลกันได้บ้างหรือเปล่า สำหรับเซต A ที่เราสั่งก็จะอารมณ์ประมาณทานรองท้องเพื่อเดินต่ออะไรแบบนั้นค่ะ ไม่สามารถทำให้อิ่มได้ 555 ถ้าเน้นอิ่มแนะนำเข้าร้านแล้วจัดเซตกลางวันเลยค่ะ ราคาพอกัน นี่เขียนไปก็อยากกลับไปซื้อกินอีกค่ะต่อไปจะลองเมนูอื่น ฮรี่ๆ หลังจากกินเสร็จแล้วจะไปเดินช็อปปิ้งต่อก็ยังได้ แนะนำแค่ว่าตอนเย็นๆแถวโอโมเทะซันโดตลอดเส้นเดินไปฮาราจุกุหรือศาลเจ้าเมจิคนจะมหาศาลมากอันนี้ก็ต้องเตรียมใจนิดหนึ่งนะคะ วันนี้เราก็ขอตัวไปก่อน ไว้บทความหน้าจะพาไปกินหรือจะพาไปเที่ยวก็ขอให้ติดตามกันด้วยนะคะบ๊ายบายยย
อุ๊ย ลืมไปเลยค่ะว่าจะแถมแผนที่แนะนำร้านอาหารแถวๆใกล้เคียงกับร้านLuke’s lobster ลองดูได้ตามแผนที่ด้านล่างนี้เลยนะคะ เผื่อมีร้านไหนที่สนใจก็ลองทานกันโลด
ร้านอื่นๆที่แนะนำ Oreryu Ramen , Gong Cha, RonRon sweet café ,Gyoza Lou
ข้อมูลร้าน Luke’s lobster
สาขา: Harajuku(Omotesando) /Shibuya park/Shinjuku east และ Shinjuku southern terrace
นอกจาก 4 สาขาในโตเกียวแล้วยังมีสาขาที่โอซาก้า/เฮียวโกะและฟุกุโอกะจังหวัดละ1สาขาอีกด้วยนะคะ
[ ข้อมูลสาขาฮาราจุกุ ]
เวลาทำการ: 10:30 ถึง 20:30 ของทุกวันไม่มีวันหยุด
ราคา: 980 เยนเป็นต้นไปสำหรับยืนทาน และ1080เยนเป็นต้นไปสำหรับนั่งทานในร้าน (ราคาไม่รวมภาษี)
เดินทาง: Chiyoda line ลงที่สถานีJingu mae ทางออกหมายเลข 5 หรือ 4 หรือ 7 ก็ได้ค่ะ
ลักษณะร้าน: café/sandwich restaurant
เมนูแนะนำ: lobster roll
ปล.เวลาทำการในแต่ละสาขามีความแตกต่างกันเล็กน้อยนะคะ