ความพึงพอใจในการเดินทาง
สวัสดีครับ เที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้เราได้ไปแถบคันไซ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เหล่าบรรดาทาสแมวอย่างเราไม่ควรพลาดนั่นก็คือการไปเยือนสถานีรถไฟแมวที่จังหวัดวากายามะ (Wakayama) โดยตอนนี้มี นิทามะ (Nitama) ประจำการแทน “ทามะ” (Tama) นายสถานีตัวเดิมที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักว่าปลายทางสถานีนี่มีเจ้าแมวเมียว 3 สี คอยดึงดูดใจให้เหล่าทาสอย่างเราต้องไปดูสักครั้ง
โดยการเดินทางของเราเริ่มจากสถานีรถไฟ นัมบะ (Namba) ใจกลางเมืองโอซาก้า ไปลงที่ สถานีวากายามะ (Wakayama) ไปถึงสถานีวากายามะจะพบป้ายบอกทางที่มีสัญลักษณ์เจ้าแมวเหมี๊ยวยืนอยู่บนป้ายบอกทางทาสอย่างเราไม่หลงแน่ๆ
เราเดินต่อไปยังชานชาลา 9 ซึ่งเป็นสายรถไฟ Kishigawa Line พบทางเดินโดยมีน้องแมวทามะคอยบอกทางอยู่ตลอด
เดินเข้าไปก็จะพบรูปภาพที่ติดอยู่ริมทางเดินเป็นแนวยาวตลอดเส้นทาง ใครสายถ่ายรูปรับรองมีมุมน่ารักไว้ถ่ายรูปเพียบ
หลังจากเดินขึ้นบันไดมาก็ทำการซื้อตั๋วเพื่อต่อไปยังสถานีปลายทาง Kishi เจ้าหน้าที่จะให้โบว์ชัวร์มาด้วยกัน 2 ฉบับคือแค่โบว์ชัวร์ก็น่ารักมากๆแล้ว
แต่ ๆ ๆ ยังมีอีก สิ่งที่น่าสนใจและถูกใจเรามากๆ อีกอย่างนั่นก็คือรถไฟที่จะนั่งไปหาเจ้าแมวเหมียวนิทามะ ซึ่งจะมีหน้าตาของขบวนรถไฟที่น่ารักมากๆ แตกต่างกันไปแล้วแต่ดวงนะคะว่าเราจะได้เจอขบวน theme อะไร แนะนำว่าควรเช็คข้อมูลมาดีๆนะคะว่ารอบเวลาไหนจะได้นั่งรถไฟ theme อะไร ซึ่งสามารถเช็คข้อมูลได้จากเว็บไซต์ https://www.wakayama-dentetsu.co.jp/en/
แต่สำหรับเราแล้วหวังพึ่งดวงอย่างเดียวเลยค่ะ แท่น แท่น แท๊นนน ขบวนรถไฟที่เราจะได้นั่งวันนี้ก็คือน้องสตอเบอรี่ หรือ Ichigo Densha แอบเสียดายไม่ได้นั่งขบวนรถไฟน้องทามะ แต่ไม่เป็นไรขากลับเรามาลุ้นกันอีกทีว่าจะได้นั่งขบวนไหน
รถไฟขบวนสตอเบอรี่เป็นรถไฟขบวนสีขาว ประดับตกแต่งไปด้วยลูกสตอเบอรี่สีแดงล้อมรอบขบวน แค่ด้านนอกก็ดึงดูดให้ถ่ายรูปด้วยมากๆแล้ว ความน่ารักของขบวนน้องสตอเบอรี่นั่นมีความคิ้วท์มากๆ ถึงจะเป็นรถไฟขบวนสั้นๆแต่ญี่ปุ่นเขาเก่งก็มีวิธีดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้ เห็นว่ากันว่า ก่อนหน้านี้รถไฟสายนี้มีผู้โดยสารน้อยมากถึงขั้นปิดทำการรถไฟสายนี้ แต่แล้วเขาก็ปรับเปลี่ยนรถไฟสายนี้ให้เป็นรถไฟสายท่องเที่ยวแทนทำให้มีผู้คนเดินมาใช้บริการที่รถไฟสายนี้มากขึ้น
ต่อมาเราเข้าไปดูภายในขบวนกันบ้างดีกว่าว่าจะน่ารักขนาดไหน ภายในขบวนรถไฟน้องสตอเบอรี่ คือทุกๆอย่างประดับตกแต่งเต็มไปด้วยสตอเบอรี่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นป้ายผ้า ที่นั่งโดยสาร รูปภาพ คิ้วท์ๆมาก คือเหมาะมากที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แต่ขอย้ำไว้นิดนึงนะครับว่าเราไม่ควรส่งเสียงดังหรือเดินไปมารบกวนผู้โดยสารท่านอื่น เรานั่งรถไฟขบวนนี้ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1ชั่วโมงเป็นอะไรที่เพลินมากๆ ไม่เบื่อเลย
การตกแต่งรถไฟของเขามันทำให้บรรยากาศการเดินทางมันสนุกสนานไปกับการถ่ายรูปในมุมต่างๆ ชื่นชมกับการตกแต่งของเขาจริงๆ และรวมไปถึงบรรยากาศระหว่างทางก็จะเห็นบ้านเรือนของญี่ปุ่นที่ดูสบายตาไม่เร่งรีบแบบในเมือง เจอทุ่งหญ้า ทุ่งดอกไม้ ภูเขา รถไฟสายนี้มีผู้โดยสารไม่ค่อยเยอะ และส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว(ซึ่งมีไม่เยอะเช่นกัน)และน่าจะเป็นทาสแมวแบบเรา
และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงสถานีปลายทาง Kishi เป็นสถานีที่ไม่ใหญ่มาก สิ่งแรกที่มาต้อนรับเราคือป้าย We love Tama เดินเข้ามาข้างในคือตกแต่งไปด้วยเจ้าแมวสามสีเต็มไปหมดเลยค่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่รูปเจ้าแมวเหมียว ภายในสถานีมีคาเฟ่น่าๆรักให้เราได้เข้าไปพักผ่อนดื่มเครื่องดื่มน่ารักๆด้วย
หันมาอีกทางเราก็มาเจอน้อง”นิทามะ” นอนหลับปุ๊ยยย แถมยังนอนหันหลังให้เราอีกด้วย น้องตัวอ้วนกลมมากเลย แต่ถึงน้องจะหลับเราก็ต้องถ่ายรูปน้องกลับมาให้ได้ แต่อย่าเคาะหรือรบกวนน้องนะคะ และควรปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ ภายในอาคารจะมีประวัติความเป็นมาของน้องทามะให้เราได้อ่านกันด้วย และที่สำคัญน้องแมวเหมียวของเราตอนนี้ไม่ได้มีแค่นิทามะนะ ยังมีย่นทามะ (Yontama) ด้วยนะครับ ซึ่งทั้งสองตัวจะมีตารางการมาประจำที่สถานีต่างกัน ซึ่งเราสามารถตรวจสอบวันและเวลาการทำงานของเจ้าแมวเหมียวจากเว็บไวต์ได้ก่อนที่เดินทางมานะครับ
และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ต้องทำเมื่อมาถึงสถานีนี้อย่าลืมประทับตราลงบนตั๋วที่เราได้รับมาด้วยนะครับ
เดินออกมาด้านนอกกันบ้าง พอมองย้อนกลับไปที่สถานี คือน่ารักมาก สถานีเป็นอาคารรูปหน้าน้องแมวเหมียวเขียนว่า Tama ส่วนรอบๆอาคารก็จะตกแต่งรูปการ์ตูนของเจ้าแมวเหมี๊ยวให้เราได้เดินถ่ายรูปกันเพลินๆ ด้างข้างสถานีเขาจะมีร้านขายของที่ระลึก มีแต่ของน่ารักๆโดยมีเจ้าแมวเป็นสัญลักษณ์ให้เลือกซื้อ ใครเป็นทาสแมวต้องใจแข็งนะคะเพราะมีแต่ของน่ารักๆทั้งนั้น
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับ มาลุ้นกัน . . . และแล้วเราก็ได้นั่งรถไฟขบวน Omocha Densha เป็นรถไฟที่ตกแต่งไปด้วยของเล่น โดยขบวนรถไฟจะเป็นสีแดง แต่ไม่ค่อยมีรูปให้ชมเนื่องจากว่าขากลับผู้โดยสารค่อนข้างเยอะเพราะเป็นเวลาโรงเรียนเลิกเกรงใจผู้โดยสารท่านอื่น เลยได้รูปมานิดหน่อย
หากใครเป็นทาสแมวแบบเราต้องไม่พลาดที่จะมาที่นี่ หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวแถบคันไซ ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยววากายามะกันนะครับ จริงๆแล้วที่เมืองนี้ไม่ได้มีที่เที่ยวแค่นี้ไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าให้ฟังกันนะครับ
