เรียกว่าเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่งที่มีคนโพสเครื่องรางรูปดอกอาจิไซลงโซเซียล ซึ่งความน่ารักของมันทำให้หลายคนอยากจะเป็นเจ้าของมันขึ้นมาทันที แต่ว่ามันเป็นเครื่องรางของศาลเจ้าไหนกันล่ะคะ

นี่คือเครื่องรางประจำฤดูกาลของศาลเจ้าที่มีชื่อว่า ศาลเจ้าชิโมะกาโมะ หนึ่งในศาลเจ้าที่มีความสำคัญของเมืองเกียวโต เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ มีบันทึกอยู่ในตำนานเทพและตำนานของประเทศญี่ปุ่น ไม่ปรากฎว่าถูกสร้างขึ้นมาในสมัยใด แต่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยปีก่อนคริสตศักราชที่ 90 โดยขุดพบเครื่องปั้นดินเผาโบราณจำนวนมาก เป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเฮอัน ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณปลายน้ำที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบนั่นคือ เชื่อกันว่าองค์เทพที่ประทับอยู่ศาลเจ้าแห่งนี้มีสององค์คือ เทพที่อยู่ทางทิศตะวันตกคือ เทพคาโมะทาเคะสึนุมิโนะมิโคะโตะ ซึ่งเป็นเทพเก่าแก่ของเมืองเกียวโต เชื่อกันว่าท่านกลายร่างเป็นอีกาสามขาสีทอง และนำพาชัยชนะมาให้กับจักรพรรดิจินมุในการสร้างชาติญี่ปุ่น ทำให้คนมักจะมาขอพรเรื่องให้ประสบความสำเร็จ พบกับชัยชนะ หรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ส่วนเทพอีกองค์คือเทพ ทามะโยริฮิเมะโนะมิโกะโตะ เป็นบุตรสาวของเทพคาโมะทาเคะสึนุมิโนะมิโคะโตะ ซึ่งเป็นเทพที่ให้กำเนิดเทพสายฟ้าวาเคะอิคาสึจิโอคามิ จึงกลายเป็นเทพที่คุ้มครองการให้กำเนิดบุตร ศาลเจ้าแห่งนี้ปรากฏอยู่ในวรรณกรรมสำคัญหลายเรื่องของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเก็นจิโมโนะกาตาริ หรือบันทึกการเดินทางโฮโจคิ ด้วยความเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์อันยาวนี้นี้ทำให้ศาลเจ้าชิโมะกาโมะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
เดินทางสู่ศาลเจ้าชิโมะกาโมะ
การเดินทางสู่ศาลเจ้านี้ไม่ยากและไม่ไกลจากตัวเมืองมากค่ะ ให้เรานั่งรถไฟสายฮันคิวมาลงที่สถานีเกียวโตคาวาระมาจิ จากนั้นขึ้นรถบัสของเมืองเกียวโตสาย 4 หรือ 205 มาลงที่ป้ายชิโมะกาโมะจินจะมาเอะ จากนั้นเดินอีกประมาณห้านาทีก็ถึงศาลเจ้าเลยค่ะ เดินทางง่ายมาก

แผนที่อาณาบริเวณโดยรวมของศาลเจ้า
ศาลเจ้าคามิกาโมะแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวางเป็นอย่างมาก โดยทั้งบริเวณของศาลเจ้าได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก มีทั้งศาลเจ้าหลักและศาลเจ้าแยกย่อยอยู่ ถ้าหากมาช่วงฤดูร้อนแบบที่ไปครั้งนี้ อาจจะไม่ค่อยสนุกเท่าไร เพราะอากาศในฤดูร้อนของเมืองเกียวโตร้อนอบอ้าวมาก ๆ ต้องพกอุปกรณ์กันร้อนมาให้เยอะ ๆ เลยค่ะ ทางนี้ก็เดินไม่ค่อยทั่วเหมือนกันแต่ไปแวะจุดสำคัญมาทั้งหมดค่ะ
บริเวณต่าง ๆของศาลเจ้าคามิกาโมะ
พอไปถึงศาลเจ้าทางนี้ก็แวะเข้าไปดูเครื่องรางที่หลายคนต้องการเลยค่ะ พอดีว่ามาจากทางด้านหลังศาลเจ้าทำให้เจอศาลเจ้าหลักเป็นที่แรก ปรากฏว่า หมดแล้วค่ะเพราะว่าเขาเตรียมจะขายของเดือนหน้าแล้ว ซึ่งจะเป็นเครื่องรางรูปดวงดาวค่ะ ดังนั้นถ้าใครอยากได้แบบไหนคงต้องเลือกมาตามช่วงเวลาที่เขาขายแล้วค่ะ (มีคนต่างชาติมาเลือกซื้อเยอะมากค่ะ)

จะเหลือแต่เครื่องรางที่เป็นรูปปีกอีกาสามขา ซึ่งให้พรในเรื่องของการนำทางทางไปสู่เส้นทางที่ดี
หลังจากนั้นก็ไปสักการะศาลเจ้าหลักค่ะ

โทริอิปากทางเข้าศาลเจ้าหลัก

หน้าศาลเจ้าหลัก

บริเวณศาลเจ้าหลัก

เครื่องรางลายน่ารักๆ ค่ะ
นอกจากศาลเจ้าหลักแล้ว ยังมีศาลเจ้าประจำปีนักษัตด้วยเช่นกันค่ะ สามารถไปไหว้ตามปีเกิดได้เลยค่ะ

ศาลเจ้าสำหรับปีมะโรงและปีวอกค่ะ
ถัดออกมาจากศาลเจ้าหลักแล้ว บริเวณด้านข้างจะมีสระน้ำอยู่ เรียกว่าศาลเจ้ามิตาราชิ เชื่อกันว่าเป็นสายน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งการชำระล้าง ปัดเป่า ช่วงงานเทศกาลอาโออิหนึ่งในเทศกาลสำคัญของเมืองเกียวโตก็จะมาจัดพิธีที่ศาลเจ้าแห่งนี้ หรือเทศกาลมิตาราชิจะเปิดให้ผู้คนลงไปแช่เท้าในบ่อน้ำได้ด้วยค่ะ โดยเชื่อกันว่าจะปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บได้ ส่วนช่วงเวลาปกติ บริเวณด้านข้างจะมีจำหน่ายคำนายเซียมซีจากการแช่ใบเซียมซีลงในน้ำ ซึ่งจะต้องเดินอ้อมไปทำอีกจุดหนึ่ง ไม่ได้ทำตรงบริเวณบ่อน้ำหน้าศาลเจ้าค่ะ

บ่อน้ำมิตาราชิ ที่เชื่อกันว่าช่วยเรื่องการชำระล้างโรคภัยไข้เจ็บ

ใบเซียมซีเสี่ยงทายในน้ำ
เมื่อเดินออกมาจากศาลเจ้าหลักเราจะเจอกับศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านข้าง เป็นศาลเจ้าสำหรับผูกสัมพันธ์ค่ะ มีขื่อว่า อะอิโอะอิโนะยาชิโระ ศาลเจ้าแห่งนี้ปรากฏในตำนานเทพโคจิกิโบราณของญี่ปุ่น สำหรับคนที่อยากจะขอพรให้มีแฟนหรือรักกับแฟนนาน ๆ ก็สามารถมาขอพรได้ที่นี่ค่ะ จริง ๆ จะมีวิธีขอคือ เขาบอกว่าให้เขียนคำอธิษฐานจากนั้นหันหน้าเข้าสู่ศาลเจ้า ถ้าเป็นผู้หญิงให้เดินทวนเข็มนาฬิกา ส่วนผู้ชายให้เดินตามเข็มนาฬิกาเป็นจำนวนสามรอบจากนั้นก็แขวนแผ่นป้านคำอธิษฐานค่ะ เสร็จแล้วก็มาสักการะศาลเจ้า จากนั้นก็สั่นกระพรวนที่แขวนอยู่
รูปปั้นองค์เทพประจำศาลเจ้า สมกับเป็นศาลเจ้าแห่งการผูกสัมพันธ์จริง ๆ ค่ะ
พักกินน้ำกินของหวานกันสักหน่อยค่ะ อากาศร้อนแบบนี้เลยแวะที่ร้านขนมด้านข้าง จะมีขนมหลายแบบจำหน่ายส่วนทางนี้เลือกเป็นขนมโมนากะรูปใบอาโออิที่เป็นสัญลักษณ์ประจำศาลเจ้าแห่งนี้ ใบอาโออินั้นถือเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ตอนที่มีพิธีบูชาเทพของศาลเจ้าที่เป็นศาลเจ้าคู่กันนั่นคือ ศาลเจ้าคามิกาโมะ (วันหลังจะมาแนะนำศาลเจ้านี้ให้นะคะ แต่คงต้องขอพ้นหน้าร้อนประเทศญี่ปุ่นไปก่อน เพราะร้อนมากจริง ๆ ค่ะ ) เชื่อกันว่าองค์เทพได้ลงมาประทับที่ใบอาโออิ จึงถือว่าเป็นพืชที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์และเทพเจ้า

ขนมโมนากะรูปใบอาโออิพร้อมชาข้าวบาร์เล่ย์ค่ะ
อีกหนึ่งจุดเด่นคือศาลเจ้าคาวาอิ ศาลเจ้าแห่งความงามซึ่งตั้งอยู่ปากทางเข้าสู่ศาลเจ้าชิโมะกาโมะ สำหรับไว้มาอธิษฐานขอเรื่องความงาม คลอดบุตรปลอดภัย หรือเลี้ยงบุตรได้ด้วยเช่นกัน แผ่นป้ายคำอธิษฐานจะเป็นรูปร่างเหมือนกระจกทรงกลม มีหน้าของหญิงสาวอยู่ เราสามารถวาดหน้าตา ระบายสีของหญิงสาวได้ตามใจชอบของเราเลยค่ะ ทางศาลเจ้าจะมีปากกาสีเตรียมไว้ให้ ซึ่งคุณผู้ชายก็สามารถซื้อและระบายสีได้เช่นกันค่ะ ตรงบริเวณที่ขายเครื่องรางจะมีจุดจำหน่ายเครื่องดื่ม ที่เรียกกันว่า “น้ำดื่มคนงาม“ ซึ่งเป็นน้ำจากผลคะริน หรือไซนีสควินซ์ ราคาแก้วละ 450 เยนค่ะ

แผ่นคำอธิษฐานเป็นรูปกระจกที่แต่ละคนวาดตกแต่งกันค่ะ

คำอธิบายวิธีทำค่ะ

น้ำดื่มคนงามค่ะ รสชาติดีมากค่ะ เขาว่ากันว่าช่วยให้ผิวพรรณผ่องใสค่ะ
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ศาลเจ้าซาวาตะ หรือศาลเจ้ารักบี้ เพราะว่าบริเวณที่ตั้งศาลเจ้าเคยเป็นที่ฝึกซ้อมกีฬารักบี้ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเคโอกับนักเรียนมัธยมปลายเมื่อปี ค.ศ. 1910 จึงทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้มีประวัติศาสตร์กับกีฬารักบี้ของประเทศญี่ปุ่น

ไม้แกะสลักเป็นรูปรักบี้
ข้อมูลเพิ่มเติมศาลเจ้าชิโมะกาโมะ (Shimogamo-jinja)
Shimogamo-jinja / ศาลเจ้าชิโมะกาโมะ
ที่อยู่
59 shimogamo-izumigawa-chou, Sakyo-ku, Kyoto-shi, Kyoto 606-0807
วิธีเดินทาง
จากสถานี Kitaoji โดยรถไฟใต้ดินสาย Karasuma ขึ้นรถบัสประจำเมืองหมายเลข 1 หรือ 205 (ประมาณ 25 นาที) และลงที่ Shimogamo Jinja-mae (หรือ Tadasunomori-mae)
เวลาทำการ
เข้าชมได้ตั้งแต่ 06:00-17:00
ราคา
-
โทรศัพท์
075-781-0010

