การเดินทางในญี่ปุ่น

ทำความรู้จัก Joyful Train (JR East) รถไฟแห่งความสุขสายตะวันออก

Joyful Train (JR East) cv

วิธีการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นหลักๆ คงหนีไม่พ้นการเดินทางโดยรถไฟ ภาพของรถไฟความเร็วสูงหัวแหลมๆ หน้าตาคล้ายยานพาหนะแห่งโลกยุคใหม่ ที่กำลังวิ่งเข้าเทียบชานชาลา มักเป็นภาพที่เราน่าจะนึกถึงได้เป็นอันดับแรกๆ

แต่ในขณะที่ความโด่งดังของรถไฟชินคันเซ็น ได้ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายมาตลอดยุคสมัย แต่ยังมีรถไฟอีกรูปแบบหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก นั่นก็คือ Joyful Train ของ JR East ซึ่งเป็นรถไฟแห่งความสุข 12 ขบวน ที่จะทำให้การเดินทางไปตามแถบชนบทในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้ JR East Pass เพื่อใช้บริการได้ทุกขบวน

กลายเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันน่าประทับใจและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหลที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ในทุกเส้นทางที่รถไฟเหล่านี้พาคุณโลดแล่นไป

Joyful Trains of JR East

1. Hinabi

เปิดตัวไปเมื่อเดือนธันวาคม 2023 รถไฟไฮบริดดีเซลแบบ 2 ตู้ ที่จะพาคุณสัมผัสธรรมชาติอันผ่อนคลาย ของพื้นที่ในจังหวัดอาโอโมริและอิวาเตะ โดยลักษณะภายนอกเป็นรถไฟสองตู้สีขาว ตกแต่งด้วยสีแดงที่ถูกนำมาวาดเป็นลวดลายของภูเขา ดอกไม้ และสายน้ำที่มีความพลิ้วไหว อันสื่อถึงความงดงามอันเรียบง่ายของ คิตะ-โทโฮคุ (Kita-Tohoku)

ตู้โดยสารที่ 1 (Green Cars) ซึ่งจะเป็นที่นั่งแบบโตะ 2-4 คน เหมาะกับกลุ่มเพื่อนที่อยากใช้เวลานั่งเม้าท์มอยกันสนุกสนานขณะชมทัศนียภาพภายนอกผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่

ตู้โดยสารที่ 2 (Ordinary Cars) เป็นเบาะ 2 ที่นั่ง 2 ฝั่งซ้ายขวา ที่นั่งปรับเอนได้ตามปกติที่เรามักจะคุ้นเคยกันดี มีหน้าต่างขนาดใหญ่สำหรับชมทัศนียภาพภายนอกได้อย่างเพลิดเพลินเช่นเดียวกับตู้ที่ 1

เส้นทางที่ให้บริการ: สถานี Morioka – สถานี Hanamaki – สถานี Kamaishi

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/hinabi.html

2. KAIRI

KAIRI เป็นรถไฟไฮบริดดีเซลแบบ 4 ตู้ ที่ให้บริการระหว่างสถานี Niigata และ Sakata ซึ่งระหว่างเส้นทางที่รถไฟเคลื่อนผ่าน จะพาให้คุณได้สัมผัสชีวิตแห่งท้องทะเลและความเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านในแถบชนบทของจังหวัดนิงาตะและพื้นที่ในภูมิภาคโชไนของจังหวัดยามากาตะ ภายนอกรถไฟได้รับการออกแบบด้วยการไล่เฉดสีตั้งแต่สีส้มของพระอาทิตย์ตกไปจนถึงสีขาวของมวลหิมะ เพื่อสร้างความรู้สึกกลมกลืนไปกับธรรมชาติ

ภายในตู้โดยสารแต่ละตู้ จะมีที่นั่งให้บริการที่แตกต่างกัน ทั้งแบบปกติคือเบาะ 2 ที่นั่ง แถวละ 4 ที่นั่ง ปรับเอนได้แบบที่นั่งโดยสารทั่วไป ไปจนถึงห้องส่วนตัวที่รองรับผู้โดยสารได้ 4 คน นอกจากนั้น ที่ตู้โดยสารที่ 3 และ 4 ยังเป็นพื้นที่ของร้านค้าและพื้นที่กิจกรรม รวมทั้งตู้รับประทานอาหาร อาหารที่เสิร์ฟมักเป็นอาหารชุดและเครื่องดื่มแนะนำของนิงาตะและโชไน

เส้นทางที่ให้บริการ: สถานี Niigata และ Sakata

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/kairi.html

3. Koshino Shu*Kura

ขบวนรถไฟสำหรับคนรักสาเกโดยแท้ เพื่อตอกย้ำความเป็นราชาแห่งสาเกท้องถิ่นของจังหวัดนีงาตะ โดยชื่อ “Koshino Shu*Kura” ถูกตั้งขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพลักษณ์ของโรงเหล้าสาเกของ Echigo ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ บนรถไฟจะมีมุมชิมสาเกที่ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับสาเกท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดีจากจังหวัดนีงาตะห้ายี่ห้อที่แตกต่างกันได้ทุกเวลา

ภายในตู้โดยสารจะมีทั้งโซนที่นั่งแบบ Box Seats และที่นั่งแบบ Observation pair seats ที่ขายพร้อมแพ็คเกจท่องเที่ยว และโซนตั๋วโดยสารปกติ มีที่นั่งเบาะปรับเอนได้ และมี Open Spaces (เป็นโซฟาสำหรับ 8 คน) เพื่อให้ผู้โดยสารพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย พิเศษคือที่ตู้โดยสารที่ 2 จะเป็นพื้นที่จัดงาน มีเคาน์เตอร์บริการที่จำหน่ายสาเก ของว่าง และผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศอื่นๆ มากมาย รวมไปถึงแสตมป์ที่ระลึก

เส้นทางที่ให้บริการ:  

สาย Koshino Shu*Kura: สถานี Joetsumyoko ไปยังสถานี Tokamachi

สาย Yuzawa Shu*Kura: สถานี Joetsumyoko ไปยังสถานี Echigo-Yuzawa

สาย Ryuto Shu*Kura: สถานี Joetsumyoko ไปยังสถานี Niigata

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/en/joyful/shukura.html

4. TOHOKU EMOTION

รถไฟสำหรับสายกินโดยเฉพาะ เพราะรถไฟขบวนนี้ทั้งขบวนล้วนอัดแน่นไปด้วยร้านอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารคุณภาพและรสชาติชั้นเลิศ การออกแบบภายของตัวรถไฟ ออกแบบให้เป็นภาพภัตตาคารเคลื่อนที่ซึ่งดูเรียบง่ายแต่โดดเด่น ภายในจะมีที่นั่งโดยสารให้เป็นที่นั่งในร้านอาหาร โดยที่นั่งในแต่ละตู้โดยสารมีความเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นช่องเก็บของส่วนตัว ครัวแบบเปิด และบริเวณรับประทานอาหาร

ตู้โดยสารที่ 1 ห้องส่วนตัว มีทั้งหมด 7 ห้อง ที่นั่งบุด้วยผ้าทอซาชิโกะโอริ (Fukushima) คล้ายที่นั่งร้านอาหารตะวันตก

ตู้โดยสารที่ 2 Live Kitchen มีครัวเปิดให้ผู้โดยสารสามารถนั่งชมการทำอาหารของเชฟได้แบบสดๆ

ตู้โดยสารที่ 3 Open Dining พื้นที่เปิดสำหรับรับประทานอาหาร ตกแต่งด้วยพรมลายสวยและโคมไฟสีนวลหรูหรา

เส้นทางที่ให้บริการ:  ระหว่างสถานี Hachinohe และ Kuji ในจังหวัดอาโอโมริและอิวาเตะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/tohoku.html

5. SL Gunma Minakami / SL Gunma Yokokawa

รถไฟหัวรถจักรไอน้ำ ตำนานที่ยังมีชีวิตที่จะพาคุณโลดแล่นผ่านเส้นทางที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและท้องถิ่นอันงดงามของชนบทจังหวัดกุมมะ โดยมีหัวรถจักรไอน้ำที่ได้รับการอนุรักษ์ที่ยังใช้งานได้อย่าง D51 498 “เดโกอิจิ” และ C61 20 “ชิโรกูอิจิ” หัวจักรสำหรับรถไฟโดยสาร เป็นไฮไลท์สำคัญ

ตู้โดยสารแบบเก่า เป็นตู้โดยสารของ JR EAST สาขา Takasaki ถูกผลิตระหว่างปี 1938 – 1955 และได้รับการปรับปรุงภายในใหม่ ด้วยลายไม้แบบดั้งเดิม เพิ่มตู้เลานจ์เพื่อประโยชน์ใช้สอย ให้บรรยากาศแบบเรโทรน่าหลงใหล

ตู้โดยสารซีรีส์ 12 เป็นที่นั่งแบบรถด่วน เป็นตู้โดยสารของ JR EAST สาขา Takasaki ถูกผลิตในปี 1978 เอกลักษณ์คือตัวตู้โดยสารเป็นสีน้ำเงิน ติดตั้งระบบปรับอากาศ ใช้ประตูอัตโนมัติครั้งแรกในตู้โดยสาร ฯลฯ ซึ่งกลายเป็นโมเดลของตู้โดยสารของรถไฟรัฐในเวลาต่อมา

เส้นทางที่ให้บริการ: 

สาย Joetsu: ระหว่างสถานี Takasaki – สถานี Minakami

สาย Shinetsu สายหลัก: ระหว่างสถานี Takasaki – สถานี Yokokawa

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/slgunma.html

6. SL Banetsu Monogatari

รถไฟสายโรแมนติกที่เชื่อมนีงาตะกับฟุกุชิมะด้วยผืนป่า ท้องฟ้า และสายน้ำ พร้อมรถไฟหัวจักรไอน้ำแสนคลาสสิก (หัวจักรรุ่น SL (C57-180) ที่ได้รับการบูรณะและถูกนำมาวิ่งเป็นประจำในสาย Banetsu West ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 1999) ภายในตกแต่งด้วยลายไม้ชวนให้นึกถึงยุคไทโชในดาบพิฆาตอสูร อบอวลด้วยบรรยาากาศแสนโรแมนติก

ตู้โดยสารที่ 1 (Okojo Observation Car) เป็นพื้นที่สำหรับเด็กและทั้งครอบครัว

ตู้โดยสารที่ 4 (Observation Car) ห้องชมวิวพาโนรามาให้คุณได้เต็มอิ่มกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของเส้นทางสาย Banetsu West มีตราประทับที่ระลึกการโดยสารและตู้ไปรษณีย์ให้สามารถส่งไปรษณียบัตรจากภายในรถไฟได้ด้วย

ตู้โดยสารที่ 7 (Green Cars) ตู้โดยสารที่ให้บรรยากาศแสนโรแมนติกแบบเรโทรในยุคไทโช เป็นที่นั่งปรับเอนได้หมุนได้ 30 ที่นั่ง แถวละ 3 ที่นั่ง (1 & 2 ที่นั่ง)

เส้นทางที่ให้บริการ: ระหว่างสถานี Niitsu – สถานี Aizu-Wakamatsu

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/c57.html

7. HIGH RAIL 1375​

รถไฟที่พาคุณเข้าใกล้ท้องฟ้ามากที่สุดเพราะมีเส้นทางที่วิ่งผ่านทางยกระดับที่สูงกว่า 1,375 เมตร สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขบวนรถไฟภายใต้แนวคิด “ใกล้ชิดสรวงสวรรค์” ด้านนอกถูกดีไซน์ให้ตัวรถเป็นเหมือนผืนผ้าใบ ที่ถูกบรรจงแต่งแต้มให้เป็นภาพของท้องฟ้ายามค่ำคืนของเส้นทางสาย Koumi และภาพอันงดงามของภูเขายัตสึกาตาเกะ

ที่นั่งภายในรถไฟ มีทั้งแบบ Box Seats สำหรับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว มีชั้นปกติแบบที่นั่งปรับเอนได้ และยังมีส่วนของที่นั่งที่หันหน้าออกสู่ภายนอกผ่านกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อให้ผู้โดยสารได้ใกล้ชิดกับท้องฟ้ามากกว่าที่เคย นอกจากนั้นยังมีหอดูดาวพร้อมคำบรรยายเพื่อให้ความรู้คู่ความเพลิดเพลิน ที่สำคัญ ระหว่างจอดที่สถานี Nobeyama (ประมาณ 50 นาที) จะมีกิจกรรมดูดาวโดยไกด์ดูดาวประจำแนวเส้นทางรถไฟ ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เช่น กลุ่มดาวตามฤดูกาล ฯลฯ เป็นกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

เส้นทางที่ให้บริการ: ระหว่างสถานี Komoro ถึง Kobuchizawa (จังหวัดนางาโนะและยามานาชิ)

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/highrail1375.html

8. B.B.BASE

ขบวนรถไฟที่เป็นมิตรกับเหล่านักปั่นโดยแท้ เปิดตัวไปในปี 2018 สำหรับรถไฟขบวน B.B.Base หรือ Boso Bicycle Base ที่ JR East ตั้งใจเปิดให้บริการรถไฟสุดสัปดาห์พิเศษสำหรับนักปั่นจักรยานที่เดินทางจากโตเกียวไปยังคาบสมุทรโบโซในจังหวัดชิบะ โดยภายในตัวรถไฟมีชั้นวางจักรยานแนวตั้ง ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่เพื่อให้นักปั่นจักรยานสามารถเดินทางไปพร้อมจักรยานคันโปรดได้อย่างสะดวกสบาย ไร้ความยุ่งยากโดยสิ้นเชิง

B.B.Base วิ่งจากสถานี JR Ryogoku ในโตเกียวทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ มีตู้โดยสาร 6 ตู้พร้อมที่นั่งและชั้นวางจักรยานสำหรับผู้โดยสาร 99 คน ทุกที่นั่งมีปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบตเตอรี่เครื่องใช้อิเล็กโทรนิกส์ต่างๆ

นอกจากนั้น ที่สถานี Ryogoku ซึ่งเป็นหนึ่งจุดจอดของรถไฟ ยังมีบริการให้เช่าจักรยานแบบมืออาชีพและมีให้เลือกมากมายหลายประเภท

เส้นทางที่ให้บริการ: 

สาย Uchibo: ระหว่างสถานี Ryogoku ถึง สถานี Wadaura

สาย Mt. Kano/Saikuru Train: สถานี Ryogoku ถึง สถานี Kimitsu /สถานี Kururi (เปลี่ยนรถที่สถานี Kisarazu)

สาย Sotobo: ระหว่างสถานี Ryogoku ถึง สถานี Awa-Kamogawa

สาย Sawara/Kashima: ระหว่างสถานี Ryogoku ถึง สถานี Kashimajingu

สาย Sakura/Choshi: ระหว่างสถานี Ryogoku ถึง สถานี Choshi

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/bbbase.html

9. POKÉMON with YOU

สานฝันสาวกโปเกม่อน กับรถไฟแห่งจินตนาการที่จะพาคุณย้อนวันวานเพื่อ “ก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบรถไฟเพื่อสร้างวิธีการเดินทางใหม่” โดยเปิดตัวไปเมื่อปี 2017 เมื่อ POKÉMON with YOU ปรากฏตัวเพื่อเข้ามาแทนที่ขบวนรถไฟเดิม ช่างเป็นความตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก เมื่อรถไฟที่ถูกปกคลุมไปด้วยภาพของเจ้าสัตว์ประหลาดจอมช้อตไฟแสนน่ารัก ถูกนำมาใช้เป็นยานพาหนะที่สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน และมันก็ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี

เส้นทางที่ให้บริการ: ระหว่างสถานี Ichinoseki ถึง สถานี Kesennuma (จังหวัดอิวาเตะและมิยางิ)

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jrailpass.com/blog/pokemon-with-you-train

https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/pokemon.html

10. Oykot

เพื่อสื่อความหมายถึงความเป็นชนบท ป่าเขา แมกไม้ สายน้ำ และบ้านเรือน อันตรงข้ามกับโตเกียวโดยสิ้นเชิง ชื่อของรถไฟ Oykot จึงถูกตั้งขึ้นมาโดยสะกดคำว่า Tokyo แบบตรงกันข้าม ตลอดเส้นทางของการเดินทางด้วยรถไฟ Oykot ในฤดูหนาว จะเป็นอีกหนึ่งในตำนานการเดินทางที่ทัศนียภาพของพื้นที่้เบื้องล่างนั้นเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วแต่งดงามจับจิต โรแมนติกจับใจ ในขณะที่การเดินทางในฤดูใบไม้ผลิ จะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่กำลังผลิดอกออกใบ ชุ่มชื่นเขียวขจี สร้างความสุขทั้งสายตาและสภาพจิตใจข้างในให้กับผู้โดยสารที่เลือกเดินทางกับมัน ซึ่งตรงตามแนวคิดที่ต้องการให้รถไฟขบวนนี้นำพาผู้คนหลีกพ้นจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ สู่ชนบทห่างไกลในจังหวัดนางาโนะ พร้อมมอบบรรยากาศแสนอบอุ่นนั่นเอง

เส้นทางที่ให้บริการ: 

สาย Kita-Shinano / สาย Iiyama (Shinano Railway): ระหว่างสถานี Nagano-สถานี Tokamachi

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/oykot.html

https://www.jnto.or.th/newsletter/5-romantic-winter-train-lines/

11. Resort Shirakami

รถไฟสาย Gono รถไฟขบวนพิเศษเพื่อชมทิวทัศน์ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นจากมุมที่ต่างออกไป Resort Shirakami ให้บริการจากสถานี Akita ไปยังสถานี Aomori ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์ธรรมชาติของจังหวัดอาคิตะ ได้ทุกฤดูกาล และในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน รถไฟจะแล่นผ่านทุ่งดอกไม้ป่าและคันนาที่คนท้องถิ่นได้ก่อไว้ รถไฟพิเศษขบวนนี้จะวิ่งช้าลงตามจุดชมวิว ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาได้ดื่มด่ำและถ่ายภาพธรรมชาติอันงดงามของชิราคามิได้อย่างเต็มอิ่ม

เส้นทางที่ให้บริการ: สถานี Akita ไปยังสถานี Aomori

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/en/joyful/shirakami.html

12. Resort View Furusato

Furusato มีความหมายว่า “บ้านเกิด” ในภาษาญี่ปุ่น และรถไฟขบวน Resort View Furusato ก็เป็นยานพาหนะที่ตอกย้ำความรู้สึกของการหวนกลับสู่บ้านที่เราเคยรักและพักพิงอาศัย นอกจากทัศนียภาพของชนบทอันงดงามแล้ว เส้นทางสู่ สถานี Obasute หนึ่งในสถานีที่รถไฟขบวนนี้เคลื่อนที่ผ่าน ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นเมื่อมองจากรถไฟ ภายในขบวนรถมีที่นั่งกว้างขวางที่ปรับหมุนเอนได้ มีห้องชมวิวที่อยู่หลังห้องคนขับ ที่คุณสามารถนั่งโซฟาหรือที่นั่งเพื่อชมวิวอันกว้างขวางจากกระจกบานใหญ่ด้านข้างได้ นอกจากนั้น ในวันหยุดจะมีการจัดกิจกรรมการแสดงของคนท้องถิ่้น เช่น เป่าขลุ่ย หรือเล่านิทาน เป็นต้น

เส้นทางที่ให้บริการ: ระหว่างสถานี Nagano ถึง สถานี Minami-Otari

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/multi/th/joyful/resortfuru.html

END

Written by Pok Safin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST
nikko
การเดินทางในญี่ปุ่น

เที่ยวอย่างคุ้มค่าด้วย JR Tokyo Wide Pass ทริปที่ (3) เที่ยวนิกโกเมืองมรดกโลก (ใช้ JR Pass อย่างไรให้คุ้มค่า…ตอนที่ 4)

07/01/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!