แม้ว่าโอซาก้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของใครหลายคนเมื่อเลือกจะเดินทางมาท่องเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น แต่หลายคนก็อาจจะประสบปัญหาว่าเวลาเดินทางมาเที่ยวที่เมืองโอซาก้า ไม่รู้จะต้องวางแผนการเดินทางยังไงให้ไปสถานที่สุดฮิตได้ครบถ้วน หรืออาจจะมีปัญหาว่า เวลายังเหลืออีกหนึ่งวันแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดีด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด วันนี้เราจะลองแนะนำเส้นทางการเที่ยวโอซาก้าในหนึ่งวัน โดยครั้งนี้จะเป็นคอร์สเส้นทางโอซาก้าเขตทิศเหนือ โดยเฉพาะผู้ที่พักบริเวณรถไฟสายฮันคิวเป็นหลัก
สำหรับคนที่พักแถวอุเมะดะ จะมีรถไฟหลายสายให้ท่านสามารถนั่งไปยังจุดต่าง ๆ ของโอซาก้า ซึ่งบรรยากาศของอุเมะดะ และนัมบะนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บริเวณอุเมะดะจะเป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าใหญ่ และห้างโยโดยาบาชิ ซึ่งเป็นห้างจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคและเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนตัวคิดว่าบริเวณอุเมะดะนี้เหมาะกับคนที่ต้องการการเดินแบบไม่วุ่นวายมาก หาร้านนั่งพักหรือร้านอาหารได้ง่ายมากกว่านัมบะที่จะครึกครื้นไปด้วยนักท่องเที่ยว
1.มื้อเช้า 09:00-10:00
เริ่มจากการกินมื้อเช้าที่อุเมะดะ อาจจะหามื้อเช้าง่าย ๆ แต่อิ่มท้องจะแนะนำสองร้าน ร้านแรกคือร้าน Blue BottleCoffee Umeda Chayamachi Café
เป็นร้านกาแฟสัญชาติอเมริกัน มีมากกว่า100 สาขาทั่วโลก และเปิดสาขาแรกที่โอซาก้าในปี 20201 นอกจากกาแฟแล้วยังมีเมนูวาเฟิลที่เสิร์ฟพร้อมกับสลัดและแฮม ไข่ต้ม ซึ่งเหมาะกับมื้อเช้าที่ต้องการพลังงานสูงเป็นอย่างมาก
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่เว็บไซต์
https://store.bluebottlecoffee.jp/pages/umeda-chayamachi
หรือใครที่อยากกินมื้อเช้าแบบญี่ปุ่นสามารถเลือกไปร้าน Boos Kitchen Lucua บริเวณชั้น B1F
ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา07:00 เป็นต้นไป เป็นร้านขายข้าวปั้นโอนิกิริ และซุปมิโสะ มีเมนูข้าวปั้นให้เลือกหลากหลาย เมนูข้าวปั้นที่ฮิตที่สุด คืออะโลฮ่าโบรุ ที่ใช้เนื้อสแปมเป็นส่วนประกอบหลัก ภายในร้านมีที่นั่งให้นั่งรับประทาน
ข้อมูลเพิ่มเติม https://boo-kitchen.com/menu
ภาพเมนู https://boo-kitchen.com/menu
2. พิพิธภัณฑ์ราเมง อิเคะดะ 10:30-12:00
ภาพประกอบ https://www.cupnoodles-museum.jp/ja/osaka_ikeda/
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะนั่งรถไฟออกจากอุเมะดะมุ่งหน้าไปยังเมืองอิเคะดะด้วยรถไฟฮันคิวสายทาคาระสึกะ ไปยังพิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนิชชิน ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ลงที่สถานีอิเคะดะ (Ikeda) จากนั้นเดินต่ออีก 5 นาที ณ ที่แห่งนี้เราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอันแรกของประเทศญี่ปุ่น และยังสามารถรังสรรบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในแบบของเรา โดยเลือกน้ำซุปและเครื่องปรุงภายในได้ตามใจชอบ เรียกได้ว่าเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอันเดียวในโลกที่เราสามารถทำเองได้ราคา 500 เยนต่อชิ้น ใช้เวลาในการทำ 45 นาที (ไม่สามารถจองล่วงหน้าได้)
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.cupnoodles-museum.jp/ja/osaka_ikeda/attractions/mc-factory/
3. น้ำตกมิโน 12:30-15:00
เมื่อกลับมาจากอิเคะดะ นั่งรถไฟมาหนึ่งสถานีเพื่อจะเปลี่ยนรถไปสายมิโน เพื่อมุ่งหน้าสู่น้ำตกมิโน หนึ่งสถานที่ที่มีธรรมชาติที่งดงามหนึ่งใน 100 น้ำตกที่งดงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใช้เวลาเดินไปถึงน้ำตกประมาณ 40 นาที เราสามารถดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ ระหว่างทางสามารถแวะสักการะวัดริวอันจิ วัดศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://minohkankou.net/sights/area/minohotaki/ เราจะอาจจะเลือกแวะไปรับประทานอาหารกลางวันง่าย ๆ ได้ที่บริเวณสถานีมิโน และเมื่อเดินทางไปถึงน้ำตกมิโนก็สามารถแวะนั่งพักที่คาเฟ่ยูซุยะคาเฟ่ตอนขากลับได้
ภาพประกอบ บรรยกาศภายในคาเฟ่ https://www.franc-et-elegant.com/
4. เลือกซื้อของฝากที่ห้างโยโดบาชิคาเมะระ 15:30-16:30
จากนั้นนั่งรถไฟกลับมายังสถานีโอซาก้าอุเมะดะเพื่อกลับมารับประทานอาหารมื้อค่ำและหาซื้อของฝาก ใครที่อยากจะได้ของฝากสามารถแวะไปยังร้านจำหน่ายของฝากที่อยู่บริเวณสถานทีรถไฟ JR โอซาก้าที่มีชื่อว่า Entree Marche จะมีของดังแถบคันไซทั้งขนมและของแช่แข็งสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dailyservice.co.jp/shop/アントレマルシェ大阪店.html
และห้างโยโดยาบาชิ ซึ่งห้างโยโดยาบาชิแห่งนี้เรียกได้ว่ารวมทุกสิ่งที่ทุกคนต้องการไว้ที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิค และของเล่นต่าง ๆ ไว้ด้วย ย่ิงบริเวณชั้น 5 จะมีโซนของเล่น ฟิกเกอร์ และเครื่องหมุนของสุ่มต่าง ๆ https://www.yodobashi.com/ec/store/0081/
5. มื้อค่ำที่ ห้าง Lucua ที่ชั้น 10 16:40-18:00
ภาพประกอบ https://www.kushikatu-daruma.com/tenpo_lucua.html
จากนั้นเดินทางไปรับประทานมื้อค่ำ ที่ห้าง Lucua ที่ชั้น 10 ซึ่งจะมีร้านอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกสรร รวมถึงร้านดารุมะ ชื่อดังร้านของทอดเสียบไม้ที่เรียกกันว่าคุชิคาสึ
ข้อมูลเพิ่มเติม
เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11:00-23:00 ไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ ราคาเฉลี่ยต่อมื้อคือ 1,500-2,500 เยน
https://www.kushikatu-daruma.com/tenpo_lucua.html
หรือใครอยากจะกินของทอดเสียบไม้แบบหรูหราขึ้นมาหน่อยก็สามารถไปที่ร้าน SHUNS ร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1950 และได้มาเปิดสาขาที่ห้าง Lucua 1100 (ห้าง Lucua และ Lucua 1100 บริเวณชั้น 10 ที่เป็นโซนร้านอาหารสามารถเดินเชื่อมกันได้)
ภาพประกอบ http://www.unzen.com/tenpo/isetan/ise_index.html
ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่วงอาหารกลางวัน 11:00-14:30 (Last Order)
ช่วงอาหารค่ำ 14:30-22:00 (Last Order)
สามารถโทรจองได้ที่ 06-6485-7800 มีเมนูภาษาอังกฤษและสต๊าฟที่พูดภาษาอังกฤษได้
คอร์สที่น่าสนใจคือ โอมาคาเสะคุชิคาสึคอร์ส
ราคาจะแตกต่างกันออกไปตามจำนวนของคุชิคาสึ ราคาเริ่มต้นที่ 2,500-6,600เยน)
6. ปิดท้ายค่ำคืนที่อุเมะดะกายบิลดิ้ง
จากนั้นออกจากห้าง Lucua และเดินมายังตึกอุเมะดะสกายบิลดิ้ง ใช้เวลาประมาณ 8 นาที ด้วยความสูงทั้งหมด 40 ชั้น ณ สวนลอยฟ้าของตึกแห่งนี้เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ของโอซาก้าได้ นอกจากนั้นตัวตึกยังได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน20 สุดยอดสถาปัตยกรรมของโลก ไฮไลท์ของตึกแห่งนี้คือชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือวิวยามค่ำคืนของเมืองโอซาก้า
ภาพประกอบ https://www.skybldg.co.jp/lang/asset/pdf/umedaskybldg.pdf
ข้อมูลเพิ่มเติม ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 1,500 เยน และเด็กราคา 700 เยน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09:30-22:30 (ซื้อตั๋วเข้าได้ถึงเวลา 22:00)
ถ้าหากใครจะอยากจะกินเป็นการปิดท้าย สามารถแวะไปกินทาโกะได้ที่ทาโกะยากิมาเก็ตบริเวณ ห้าง Hep five เปิดให้บริการถึง 22:00 ซึ่งรวมร้านทาโกะยากิชื่อดังไว้ทั้งหมด 5 ร้าน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://takoyakimarket.com/index.html
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับคอร์สเที่ยวโอซาก้าทางเหนือ ในครั้งหน้าจะลองจัดคอร์สสำหรับคนที่อยากเน้นเที่ยวโอซาก้าทางใต้ เช่น นัมบะหรือชินเซไกเป็นต้นนะคะ ไว้เจอกันอีกทีเดือนหน้านะคะ