ด้วยความเป็นที่สุดในหลายๆด้าน ทำให้ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตั้งแต่ทะเลทรายแห้งแล้งไปจนถึงป่าไพรเขียวชอุ่ม หรือแม้กระทั่งความเป็นหนึ่งแห่งเทคโนโลยีที่นำเสนอแสงสีจัดจ้าน ก็ยังมีพื้นที่แสดงความร่ำรวยทางวัฒนธรรมแทรกตัวให้เห็นโดยทั่วไป
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ญี่ปุ่นมีจุดหมายปลายทางอันน่าอัศจรรย์มากมายเต็มไปหมด
แต่สุดท้ายนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ยังคงเลือกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางอันเลื่องชื่อ ซึ่งบางครั้งอาจเรียกได้ว่าเป็น “แหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ” เช่น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ฮิโรชิม่า ฮอกไกโด เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เป็นต้น อาจจะด้วยเหตุผลเรื่องการเดินทางอันสะดวกสบาย หรือบรรยากาศโดยรอบที่คุ้นตา หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่นั่นยิ่งทำให้สถานที่อันเป็นเป้าหมายหลักเหล่านั้นถูกกล่าวถึงมากไปกว่าเดิม และก็นำมาซึ่งผู้คนอันคลาคล่ำ จนในบางครั้งอาจรู้สึกเหมือนถูกดูดพลังงานไปกับการฝ่าฝูงชนจนแอบเหนื่อยโดยไม่รู้ตัว
ในบทความนี้ จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวสุดแสนจะสวยงามและมีความพิเศษไม่แพ้ใคร แต่กลับได้รับความสนใจน้อยกว่าที่ควรจะเป็น หรือไม่เคยมีโอกาสได้รับความสนใจเลยด้วยซ้ำ ลองมาทำความรู้จักอัญมณีที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ดูบ้าง ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นสถานที่ที่น่าจดจำที่สุดที่คุณเคยไปมาโดยไม่คาดคิดในทริปที่จะมาถึงนี้ก็ได้!
- หมู่บ้านคายาบุกิโนะซาโตะ (Kayabuki no Sato) จังหวัดเกียวโต
- ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ
- ทะเลสาบโอคุทามะ (Okutama), กรุงโตเกียว
- อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต
- หุบเขาอิยะ (Iya Valley) จังหวัดโทคุชิมะ
- ภูเขาโนโคะงิริ (Mount Nokogiri) จังหวัดชิบะ
- หุบเขาทาคาชิโฮะ (Takachiho Gorge) จังหวัดมิยาซากิ
- เกาะโชโดชิมะ (Shodoshima Island), จังหวัดคางาวะ
- ภูเขาฮากุโระ (Mount Haguro) จังหวัดยามากาตะ
- เกาะโยรอน (Yoronjima) จังหวัดคาโงะชิมะ
หมู่บ้านคายาบุกิโนะซาโตะ (Kayabuki no Sato) จังหวัดเกียวโต
จากสถานี JR Kyoto ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟและรถบัสประมาณ 2 ชั่วโมง สู่หมู่บ้านท้องถิ่นเล็กๆ ในชนบทเมืองมิยามะ (Miyama) ของเกียวโต หมู่บ้านบนภูเขาที่สวยงามแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องภูมิทัศน์อันน่าทึ่ง ด้วยตัวบ้านหลังคามุงจากแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอายุกว่าร้อยปี ที่ปัจจุบันยังคงเป็นที่พักอาศัยของคนในท้องถิ่นจริงๆ แม้จะมีที่แปรสภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวควบไปด้วยบ้างก็ตาม ด้านหน้าหมู่บ้านเป็นทุ่งดอกโซบะขาวละมุน ซึ่งเมื่อประกอบกับความเงียบสงบของหมู่บ้าน จะได้ภาพฉากหลังที่แสนงดงาม เป็นที่สุดแห่งสุนทรียภาพสำหรับมนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ นอกจากนั้นยังมีดอกไม้นานาพันธุ์ที่จะบานสะพรั่งอวดความงามตามฤดูกาล ที่สวยงามและคุ้มค่าแก่การเยี่ยมชมตลอดทั้งปี
เพิ่มเติม: https://kayabukinosato.jp/
ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ (Kawagoe) จังหวัดไซตามะ
คาวาโกเอะ หรือ โคเอโดะ ตั้งอยู่ในไซตามะ ห่างจากโตเกียวโดยใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียงประมาณ 30 นาที ในอดีตช่วงสมัยเอโดะ คาวาโกเอะถูกใช้เป็นแนวป้องกันทางตอนเหนือของเอโดะ ต่อมาพื้นที่ดังกล่าวได้รับการพัฒนาให้เป็นหมู่บ้านพ่อค้าซึ่งได้สร้างโกดังไม้ที่ฉาบด้วยดินเหนียวตามแบบฉบับญี่ปุ่นในยุคเอโดะแท้ๆ โดยโกดังเหล่านั้นถูกสร้างให้ตั้งเรียงรายหลายร้อยเมตรและยังคงยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้
ที่คาวาโกเอะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศเมืองเก่าของญี่ปุ่นที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ได้อย่างเต็มอิ่มจุใจ เพียงเดินทอดน่องไปตามถนนก็จะพบร้านรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านเช่าชุดกิโมโน ร้านขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ร้านอาหาร ซึ่งอาหารขึ้นชื่อของคาวาโกเอะก็คือ อุนางิ (Unagi) หรือเมนูปลาไหล ที่ไม่ว่าจะแวะร้านไหนก็รับประกันรสชาติแสนอร่อยได้อย่างแน่นอน
เพิ่มเติม: https://www.koedo.or.jp/th/
ทะเลสาบโอคุทามะ (Okutama), กรุงโตเกียว
ทะเลสาบโอคุทามะ เป็นทะเลสาบที่เกิดขึ้นจากการสร้างเขื่อนโอโกกุจิ โดยตัวทะเลสาบตั้งอยู่เหนือเขื่อนดังกล่าว ล้อมรอบโดยภูเขาเขียวขจี มีวิวทิวทัศน์ที่สวยสดงดงามเป็นอย่างมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ให้บรรยากาศเงียบสงบแบบที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ แม้ว่าจะตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียวก็ตาม และยังเป็นหนึ่งในปลายทางสำหรับผู้ที่หลงใหลในการปั่นจักรยานอีกด้วย
ทะเลสาบโอคุทามะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้แบบเช้าไปเย็นกลับ เพราะอยู่ห่างจากใจกลางกรุงโตเกียวเพียง 2 ชั่วโมง โดยนั่งรถไฟ Chuo JR ที่มุ่งหน้าไปยังนางาโนะ จากนั้นเปลี่ยนเป็นสาย Ome ที่สถานี Tashikawa ไปลงที่สถานี Okutama จากนั้นใช้บริการรถบัสที่จะไปทะเลสาบโอคุทามะ
เพิ่มเติม: https://www.gotokyo.org/th/spot/53/index.html
อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) จังหวัดเกียวโต
อามาโนะฮาชิดาเตะตั้งอยู่ในเมืองมิยาสึทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต หันหน้าไปทางทะเลญี่ปุ่นและทอดตัวยาวประมาณ 3.6 กม. โดยมีต้นสนประมาณ 5,000 ต้น ปลูกเรียงรายตลอดเส้นทาง เป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในสามจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินทางจากใจกลางเกียวโตประมาณ 2 ชั่วโมง
ที่มาของชื่อ “อามาโนะฮาชิดาเตะ” มีหลายทฤษฎี แต่ว่ากันว่าสะพาน (บันได) ที่เชื่อมระหว่างสวรรค์กับโลกเบื้องล่างที่สร้างโดยเทพเจ้าในตำนานได้พังทลายลง และสะพานก็กลายเป็นอามาโนะฮาชิดาเตะ กล่าวอีกนัยหนึ่ง “อามาโนะฮาชิดาเตะ” เดิมหมายถึง “บันไดไปสู่สวรรค์” ฟังดูลึกลับใช้น้อยเลยว่าไหม
เพิ่มเติม: https://enjoy-osaka-kyoto-kobe.com/article/amanohashidate-travel-guide/
หุบเขาอิยะ (Iya Valley) จังหวัดโทคุชิมะ
หุบเขาอิยะที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในภูเขาทางตะวันตกของจังหวัดโทคุชิมะ นับเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่อย่างลึกลับ เป็นดินแดนที่อนุรักษ์ทั้งความงามตามธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ การขับรถผ่านพื้นที่ของหุบเขาอิยะ จะทำให้คุณได้ชมทิวทัศน์อันน่าประทับใจ ด้วยความงดงามที่แฝงกายอยู่ตามช่องเขา บวกกับบรรยากาศของหุบเขาที่มีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นสะพานแขวนเถาวัลย์อันน่าหวาดเสียว ป่าอันเงียบสงบ และเส้นทางเดินป่าที่รายล้อมด้วยธรรมชาติแสนสวย ทำให้คุณรู้สึกว่าการมาเยือนที่นี่ เพียงหนึ่งครั้งย่อมไม่เพียงพอ
เพิ่มเติม: https://discovertokushima.net/en/column/iya/
ภูเขาโนโคะงิริ (Mount Nokogiri) จังหวัดชิบะ
ภูเขาโนโคะงิริ เป็นที่รู้จักในนาม “ภูเขาฟันเลื่อย” เนื่องจากมีกำแพงหินและสถานที่ท่องเที่ยวตลอดทาง เป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่ต่ำที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 329 เมตร ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโบโซในจังหวัดชิบะ เป็นหนึ่งในสามภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดชิบะร่วมกับภูเขาคาโนซังและภูเขาคิโยสุมิ มีจุดชมวิวที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ที่ให้ทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวโตเกียว เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปแกะสลักหินโบราณที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น คุณสามารถขึ้นไปบนยอดเขาโนโคะงิริ ได้โดยกระเช้าลอยฟ้า หรือโดยการเดินป่าก็ได้เช่นกัน แม้เส้นทางเดินนั้นจะค่อนข้างท้าทาย แต่ก็มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ยืนเป็นเพื่อนไปกับคุณไปตลอดเส้นทาง
เพิ่มเติม: https://www.japan.travel/th/spot/2187/
หุบเขาทาคาชิโฮะ (Takachiho Gorge) จังหวัดมิยาซากิ
หุบเขาทาคาชิโฮะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยาซากิ ใกล้กับภูเขาอะโซะ มีทิวทัศน์อันน่าประทับใจซึ่งประกอบด้วยความงามตามธรรมชาติของช่องเขาอันเงียบสงบ มีถ้ำหินที่ให้บรรยากาศชวนพิศวง และศาลเจ้าอันงดงามซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับเทพนิยายญี่ปุ่นโบราณ วิธีดื่มด่ำกับทัศนียภาพของที่นี่อย่างเพลิดเพลินที่สุด คือการพายเรือผ่านช่องเขาทาคาชิโฮะ โดยในยามที่เรือของคุณล่องผ่านภูเขาไฟอันเงียบสงบที่เกิดจากการปะทุของภูเขาอะโซะ จะทำให้คุณได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติอันน่าทึ่งที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมานานหลายศตวรรษ
เพิ่มเติม: https://www.jnto.or.th/summer2018/takachiho_gorge.html
เกาะโชโดชิมะ (Shodoshima Island), จังหวัดคางาวะ
หากคุณต้องการออกไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เกาะโชโดะชิมะย่อมเป็นสถานที่หลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองใหญ่ที่ตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี เกาะโชโดชิมะตั้งอยู่ในทะเลในเซโตะ และเดินทางเข้าถึงได้ง่ายจากภูมิภาคคันไซด้วยเรือเฟอร์รี่ สภาพอากาศในโชโดชิมะโดยทั่วไปจะอบอุ่นค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปีโดยมีฝนตกเพียงเล็กน้อย ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถเพลิดเพลินกับแสงแดดอันอบอุ่นได้เสมอ โดยเฉพาะระหว่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง และด้วยความที่มีสถานที่ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามอยู่ทั่วเกาะ ทำให้เกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อยู่บ่อยๆ ส่วนไฮไลท์ของการท่องเที่ยวเกาะโชโดชิมะ อยู่ที่ “Angel Road” เป็นสันทราย ที่สวยงามซึ่งจะปรากฏในทะเลที่สวยงามเฉพาะในช่วงน้ำลงใกล้ท่าเรือโทโนโชะเท่านั้น คุณสามารถเดินข้ามทางเดินทรายสวยงามที่เชื่อมเกาะเล็กๆ กลางทะเล เข้าหาเกาะหลักได้อย่างไม่รู้เบื่อ
เพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/11117
ภูเขาฮากุโระ (Mount Haguro) จังหวัดยามากาตะ
ภูเขาฮากุโระ ภูเขากัสซัง และภูเขายูโดโนะ เป็นที่รู้จักกันในชื่อสามภูเขาแห่งทวยเทพ ได้รับการเคารพนับถือว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลาหลายร้อยปี กล่าวกันว่าการเดินทางไปยังภูเขาทั้งสามลูกนี้เป็นการเดินทางแห่งการกลับชาติมาเกิด ภูเขาฮากุโระมีความสูงอยู่ที่ 414 เมตร เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าและอาคารเก่าแก่ รวมถึงเจดีย์ห้าชั้นฮากุโระซังอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเดินป่ายอดนิยม ที่เหมาะสำหรับทุกคนแม้จะเป็นมือใหม่ ซึ่งเส้นทางเดินป่ายอดนิยมที่ว่านั้นจะเริ่มจากตีนเขาฮากุโระถึงยอดเขา มีระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง โดยที่คุณต้องเดินขึ้นบันไดหินมากกว่า 2,400 ขั้น แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการเดินป่าในฤดูหนาวหากเป็นไปได้ เนื่องจากขั้นบันไดหินมักจะถูกหิมะปกคลุมจนเป็นน้ำแข็งและอาจลื่นมาก
เพิ่มเติม: https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1155.html
เกาะโยรอน (Yoronjima) จังหวัดคาโงะชิมะ
เกาะห่างไกลที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางใต้ของจังหวัดคาโงะชิมะประมาณ 600 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในหมู่เกาะอามามิและเป็นพื้นที่ในเขตจังหวัดคาโงะชิมะอย่างเป็นทางการแม้จะใกล้กับจังหวัดโอกินาว่ามากกว่า เกาะโยรอนล้อมรอบด้วยแนวปะการังแสนสวยและมีชายหาดงดงามสะอาดตา ซึ่งเหมาะสำหรับการว่ายน้ำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชายหาดยูริกาฮามะที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ การดำน้ำทั้งแบบลึกและตื้น นับเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณต้องการเพลิดเพลินไปกับโลกใต้ทะเลที่น่าประทับใจอย่างใกล้ชิด และใต้ท้องทะเลก็เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอันน่าตื่นตาตื่นใจให้คุณได้เพลิดเพลินอย่างเต็มอิ่ม เช่น เต่าทะเล โลมา และฝูงปลาสีสันสดใส เป็นต้น
เพิ่มเติม: https://www.kagoshima-kankou.com/for/highlights/yoronjimaisland
END
Written by Pok Safin