ที่กินในญี่ปุ่น

รู้จัก ประเภทเหล้าญี่ปุ่น

รู้จัก ประเภทเหล้าญี่ปุ่น

Photo from https://www.flickr.com/photos/inucara/4341063153

เวลาเราไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น นอกจากอาหารอร่อยๆที่มีให้เลือกทานไม่อั้นแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นหรือเหล้าญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่ง “ต้องลอง”  สำหรับนักชิมและนักท่องเที่ยวทุกคน  เหล้าญี่ปุ่นมีหลายชนิด หลายประเภทให้เลือก ทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการดื่มสังสรรค์หลังเลิกงานการของคนญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำ ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะนิยมดื่มเบียร์ประเภทต่างๆโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ในทางกลับกัน วัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุจะนิยมดื่มเหล้าญี่ปุ่น นั่นคือเหล้าสาเกและเหล้าโชจูมากกว่า  แต่พักหลังได้เกิดเทรนใหม่ ซึ่งเหล้าญี่ปุ่นประเภทสาเกและเหล้าโชจูญี่ปุ่นกลับได้รับความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น ยิ่งเหล้าญี่ปุ่นที่มีอายุนานๆซึ่งมักจะมีราคาแพงก็ได้รับความนิยมสูงขึ้น แน่นอน นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศก็อยากลองเหล้าสาเกและเหล้าโชจูญี่ปุ่นแบบดีๆเมื่อมาที่ประเทศญี่ปุ่น  เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นและจิบเหล้ากันก่อนออกเดินทาง วันนี้จะมาแนะนำให้รู้จักเกี่ยวกับเหล้าสาเกญี่ปุ่นและเหล้าโชจูกันมากขึ้น ไปดูกันว่ามีกี่ชนิด อะไรบ้างและนิยมดื่มกันแบบไหน 

เหล้าสาเกและเหล้าโชจู ต่างกันอย่างไร?

สาเกและโชจูเป็นเหล้าญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งสองมีหลายชื่อ ทั้งแบบคันจิและฮิระงะนะ ดังนั้นจึงอาจสร้างความสับสนได้ ซึ่งเรานักท่องเที่ยวจะอ่านไม่ออกกันเวลาไปเลือกซื้อ อย่างไรก็ตาม หากดูฉลากอย่างใกล้ชิดและอ่านภาษาญี่ปุ่นได้ เราก็จะเห็นคำว่าโชจูและสาเก พร้อมชื่อประเภทอย่างชัดเจน ความแตกต่างระหว่างโชจูและสาเกหลักๆคือ วิธีการผลิต เปรียบเทียบง่ายๆ โชจู จะถูกกลั่นเหมือนวิสกี้และบรั่นดี ส่วนสาเก ถูกหมักและกลั่นเหมือนเบียร์และไวน์ กรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันทำให้เกิดรสชาติที่แตกต่างกัน ไม่ได้เป็นเพียงแต่วิธีการผลิตเท่านั้น ยังรวมถึงส่วนผสมด้วย ในขณะที่สาเกทำมาจากข้าวเป็นหลัก โชจูมักทำจากข้าวบาร์เลย์ มันฝรั่งและข้าว ด้วยเหตุผลนี้ โชจูจึงมีประเภทย่อยแตกต่างกันออกมาอีก เช่นโชจูมันเทศและโชจูข้าวบาร์เลย์เป็นต้น ขึ้นอยู่กับส่วนผสม

เหล้าโชจู(焼酎)

Photo from https://www.japan.go.jp/tomodachi/2018/Summer2018/the_epa_brings_shochu_into_the_eu.html

เหล้าโชจูคืออะไร

โชจูนั้นเป็นเหล้าญี่ปุ่นใสๆ คล้ายๆกับโซจูของประเทศเกาหลี แตกต่างกันที่ วัตถุดิบและจุลินทรีย์ที่นำมาใช้หมักไม่เหมือนกัน โชจูจะใช้ "โคจิ" เป็นสารจุลินทรีย์ในการหมักของญี่ปุ่น ประเภทของเหล้าโชจูก็จะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบหลักที่นำมาผสม ได้แก่ มันหวาน, ข้าวบาร์เลย์และบัควีทเป็นต้น  โชจูที่หมักมาจากมันหวานในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า “อิโมะ(芋)” โชจูที่หมักจากข้าวบาร์เลย์หรือมอลต์ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “มูกิ(麦)” โชจูที่หมักจากข้าวเรียกว่า “โคเมะ(米)” และโชจูที่หมักจากบัควีทจะเรียกว่า “โซบะโชจู(蕎麦)” เป็นต้น แน่นอน ตามฉลากขวดเหล้าก็จะเขียนเป็นตัวคันจิทั้งหมดซึ่งเรานักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะเข้าไม่เข้าใจ เราต้องถามพนักงานขายให้ช่วยแนะนำ กลิ่นและรสชาติของโชจูก็จะแยกความแตกต่างกันไปอีกตามรอบของการกลั่น ถ้ากลั่นรอบเดียวเรียกว่า Honkaku Shochu เอกลักษณ์คือจะช่วยให้กลิ่นและรสชาติของวัตถุดิบนั้นยังคงเดิมอยู่ มีรสชาติเข้มข้น ในทางกลับกัน แบบกลั่น 2 รอบเรียกว่า Korui Shochu จะทำให้กลิ่นอ่อนลงและมีรสชาติเบา เหมาะสำหรับนำไปผสมทำเป็นเมนูค็อกเทลต่างๆ โดยทั่วไปโชจูมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 25 - 30 ดีกรีขึ้นอยู่กับประเภทและผลิตภัณฑ์ 

วิธีการดื่ม

วิธีการดื่มโชจูก็แล้วแต่ความนิยมและความชอบของแต่ละคน สามารถดื่มได้หลากหลายวิธี รวมถึงความแตกต่างของฤดูการและอากาศก็มีส่วนด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อน คนญี่ปุ่นก็จะนิยมผสมน้ำเย็นหรือที่เรียกว่า Mizuwari ในทางกลับกันถ้าเป็นฤดูหนาว คนญี่ปุ่นก็จะนิยมดื่มแบบอุ่นๆโดยนำโชจูไปผสมกับน้ำร้อนที่เรียกว่า Oyuwari นอกเหนือจากนี้ ก็ยังสามารถนำไปผสมกับเครื่องดืมอื่นๆเป็นเมนูค็อกเทลประเภทต่างๆได้อีก 

1. Straight 

เทโชจูลงในแก้วแล้วดื่มโดยไม่ต้องผสมหรือน้ำแข็ง 

วิธีนี้จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติและกลิ่นหอมของโชจูอย่างเต็มที่

2. On the rock

เติมน้ำแข็งลงในแก้ว แล้วเทลงบนน้ำแข็ง

วิธีนี้จะเจือจางโชจูเล็กน้อยเมื่อน้ำแข็งละลาย ทำให้ดื่มได้นุ่มนวลและเย็นลง

3. มิซึวาริ (พร้อมน้ำ)

ผสมโชจูกับน้ำเย็น โดยทั่วไปในอัตราส่วน 1:1 หรือ 1:2 (โชจูต่อน้ำ)

สิ่งนี้จะเจือจางปริมาณแอลกอฮอล์และดึงรสชาติที่แตกต่างของโชจูออกมา

4. โอยูวาริ (พร้อมน้ำร้อน)

เทน้ำร้อนลงในแก้วก่อน ตามด้วยโชชู อัตราส่วนโดยทั่วไปคือ 1:1 หรือ 1:2 (โชจูต่อน้ำร้อน)

วิธีนี้เป็นที่นิยมในฤดูหนาว เนื่องจากจะทำให้ร่างกายอบอุ่นและเพิ่มกลิ่นหอมของโชจู

5. โซดาวาริ (โซดา)

ผสมโชจูกับน้ำโซดาในแก้ว โดยทั่วไปในอัตราส่วน 1:1 หรือ 1:2

นิมยมดื่มเพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มฟองซ่าที่สดชื่น เหมาะสำหรับอากาศอบอุ่น และงานปาร์ตี้

6. อุเมะชูวาริ (พร้อมเหล้าบ๊วย)

ผสมโชจูกับเหล้าบ๊วยญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มรสชาติหวานและผลไม้

การผสมผสานระหว่างรสชาติเข้มข้นของโชจูกับความหวานของเหล้าบ๊วยญี่ปุ่นจะสมดุลกัน นิยมในกลุ่มผู้หญิงหรือวัยรุ่นที่คอไม่แข็งมาก

7. ค็อกเทล

ใช้โชจูเป็นฐานสำหรับค็อกเทลต่างๆ ผสมกับน้ำผลไม้ น้ำอัดลม หรือเหล้าชนิดอื่นๆ

 วิธีการนี้มีรสชาติที่หลากหลาย และมักใช้ในบาร์และร้านอาหาร

เคล็ดลับ

เมื่อดื่มเหล้าญี่ปุ่นหรือโชจูร่วมกับผู้อื่น เป็นธรรมเนียมของทางญี่ปุ่นที่จะต้องรินเครื่องดื่มให้คนอื่นก่อนที่จะรินให้ตนเอง และต้องรินให้มากกว่าของตัวเองด้วย นี่แสดงถึงความเคารพ มารยาทและความสุภาพ ความเอาใจใส่ระหว่างบุคคล โดยเฉพาะรุ่นพี่รุ่นน้อง เจ้านายลูกน้อง หรือผู้ค้าและลูกค้าเป็นต้น

นอกเหลือจากนี้ โชจูมักจะเสิร์ฟในแก้วใสเล็กๆ หรือถ้วยเซรามิก และมักจะจิบช้าๆ เพื่อลิ้มรสให้เต็มที่ ยิ่งถ้ามีโอกาสได้ลองตัวที่มีราคาแพง รสชาติเข้มข้น ชาวญี่ปุ่นก็มักจะใช้เวลาในการลิ้มรสอย่างจริงจัง

หลายครั้งก็จะดื่มโชจูคู่กับอาหารญี่ปุ่น ซึ่งโชจูจะเข้ากันได้ดีกับอาหารญี่ปุ่นหลากหลายประเภท โดยเฉพาะซาซิมิหรือเนื้อปลาสด เนื้อย่างและผักดองต่างๆ ไม่นิยมดื่มกับอาหารประเภททอดเช่น คาราเกะหรือเทมปูระ 

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Shochu_001.jpg

การเลือกยี่ห้อ

โชจูที่แนะนำนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล เนื่องจากมีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากมายให้เลือก ต่อไปนี้เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องซึ่งได้รับความนิยมในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

ข้าวบาร์เลย์โชชู (มูกิโชชู)

อิอิจิโกะ เป็นที่รู้จักในเรื่องรสชาติที่นุ่มนวลและอ่อนโยน เป็นหนึ่งในแบรนด์โชจูข้าวบาร์เลย์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่น

มันเทศโชจู (อิโมะ โชจู)

โมริ อิโซ  เป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพระดับพรีเมียมและมีจำหน่ายอย่างจำกัด Mori Izo จึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Mori_Izo.jpg

ข้าวโชจู (โคเมะโชจู)

กิงกะ ชิซึกุ มีชื่อเสียงในด้านความสง่างามและรสชาติอันละเอียดอ่อน 

Photo from https://www.flickr.com/photos/loustejskal/41529506125

แบรนด์เหล่านี้นำเสนอสไตล์และรสชาติโชจูที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองรสนิยมและความชอบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะชอบความอ่อนโยนของโชจูข้าวบาร์เลย์ ความเข้มข้นของโชจูมันเทศ หรือ ความสง่างามของโชชูข้าว มีแบรนด์ที่สามารถยกระดับประสบการณ์การดื่มเหล้าญี่ปุ่นโชจูของคุณได้แน่นอน ใครที่เป็นขาดื่มและมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น เวลาเข้าร้านอาหารสำหรับมื้อเย็น แทนที่จะสั่งเบียร์มาดื่มคู่อาหาร ลองเปลี่ยนเป็นเหล้าญี่ปุ่น ประเภทโชจูคู่กับอาหารทะเลชั้นเลิศกันนะครับ แนะนำสั่งเป็นแบบขวดขนาดเล็กก่อนเพื่อลิ้มรส โชจูหลายๆแบบ จะได้ทราบถึงความแตกต่างในแต่ละประเภท

เหล้าสาเกญี่ปุ่น (日本酒)

Photo from https://www.nippon.com/en/guide-to-japan/gu002001/

เหล้าสาเกญี่ปุ่น คืออะไร

เหล้าสาเกญี่ปุ่นหรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่า “Nihonshu” คือเหล้าญี่ปุ่นที่ผลิตด้วยการหมักและกลั่นเหมือนกระบวนการผลิตเบียร์และไวน์ แต่เหล้าสาเกญี่ปุ่นจะใช้ “ข้าว” เป็นวัตถุดิบหลัก ทำให้สีของเหล้าสาเกมีทั้งแบบใสและแบบสีขาวขุ่น แน่นอน เหล้าสาเกที่ผ่านการหมักมาหลายปี ย่อมมีรสชาติที่ดีกว่าและราคาแพงกว่าเหมือนกับประเภทของไวน์ราคาสูงจากการหมักทิ้งไว้นานหลายปี ทำให้สาเกของญี่ปุ่นรู้จักกันอีกในนามหนึ่งว่า “ไวน์ข้าวญี่ปุ่น” สาเกเปรียบเสมือนเป็นเครื่องดื่มประจำชาติ มักจะเสิร์ฟในพิธีพิเศษสำคัญต่างๆมาตั้งแต่สมัยอดีต เช่นการอวยพรปีใหม่และพิธีแต่งงานเป็นต้น

Photo from https://www.japantimes.co.jp/news/2015/07/25/reference/nihonshu-overflow/

เมื่อพูดถึงประเภทของเหล้าสาเกญี่ปุ่น จะสามารถพูดคุยได้เหมือนประเภทของไวน์

“จุนไมไดกินโจ” คือสาเกที่มีราคาแพงที่สุดและมีความเป็น Premium มากที่สุดในกลุ่มบรรดาเหล้าสาเกทั้งหมด ใช้ข้าวขัดไม่เกิน 35 - 50% ในการทำ มีรสชาติที่นุ่ม ดื่มง่ายและมีกลิ่นหอม “จุนไม” คือสาเกญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หาดื่มได้ไม่ยากและมีราคาไม่สูง รสชาติจะเป็น full body และออกแห้งเล็กน้อย ยังมีเหล้าสาเกญี่ปุ่นประเภทอื่นๆอีกซึ่งแตกต่างกันออกไปตามประเภทข้าวที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการหมัก ทำให้เราสามารถเห็นแต่ละตำบลแต่ละเมืองทั่วประเทศญี่ปุ่นมีการผลิตเหล้าสาเกประจำของเมืองตัวเอง โดยเฉพาะเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำพุร้อนและแหล่งน้ำสะอาดของญี่ปุ่น จะมีโรงงานการผลิตเหล้าสาเกญี่ปุ่นตั้งอยู่เพราะสามารถใช้น้ำสะอาดที่ประกอบด้วยแร่ธาตุสมบูรณ์ในการกลั่นเหล้าสาเกญี่ปุ่นได้อย่างดี  สาเกญี่ปุ่นหรือ Nihonshu กลายเป็น 1 สัญลักษณ์สําคัญของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติเทียบเท่ากับการดื่มไวน์เลยทีเดียว

วิธีการดื่ม

คนญี่ปุ่นนิยมดื่มเหล้าสาเกด้วยการนำไปอุ่นในภาชนะดินเผาหรือขวดพอร์ซเลนขนาดเล็ก แล้วจิบจากถ้วยพอร์ซเลนขนาดเล็กที่เรียกว่า sakazuki ซึ่งอุณหภูมิในการดื่มที่เหมาะสมจะแตกต่างกันตามประเภทของเหล้า ถ้าอยากเรียนอยู่อย่างลึกซึง สามารถหาหนังสือวิธีการเลือกและวิธีการดื่มเหล้าสาเกญี่ปุ่นกันได้เลย ในร้านอาหารระดับไฮเอน ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล้าสาเกญี่ปุ่น มาคอยให้ความรู้และแนะนำตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดกันอาหารที่รับประทานนั้นๆด้วย

อย่างไรก็ตาม เราสามารถแนะนำวิธีการดื่มเหล้าญี่ปุ่นประเภทสาเกโดยทั่วไปได้ตามนี้

1. Straight 

เทสาเกลงในถ้วยแล้วดื่มโดยไม่ต้องใช้เครื่องผสมใดๆ ให้คุณได้ดื่มด่ำกับรสชาติและกลิ่นหอมได้อย่างเต็มที่

2. On the rock

เติมน้ำแข็งลงในแก้วแล้วเทสาเกลงบนน้ำแข็งจะทำให้สาเกเจือจางลงเล็กน้อยและทำให้สดชื่น

3. มิซึวาริ (พร้อมน้ำ)

ผสมสาเกกับน้ำเล็กน้อยเพื่อปรับรสชาติ สิ่งนี้จะทำให้รสชาติอ่อนลงและดื่มได้ง่ายขึ้น

4. ค็อกเทล

ใช้สาเกเป็นฐานสำหรับค็อกเทล โดยผสมกับส่วนผสมต่างๆ เช่น น้ำผลไม้หรือโซดา มักใช้ในบาร์เพื่อสร้างเมนูใหม่ๆ

สาเกญี่ปุ่นยังถูกนำไปใช้ในการผลิตและปรุงอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมประเภทต่างๆอีกด้วย  การดื่มสาเกญี่ปุ่นตามร้านอาหารเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นกลุ่มคน โดยเฉพาะผู้ใหญ่วัยทำงานมานั่งดื่มกันหลังเลิกงาน และเราก็จะเห็นขวดเหล้าสาเกขวดใหญ่ๆตั้งอยู่ที่บาร์พร้อมป้ายชื่อ นั่นหมายความว่า ลูกค้าประจำได้สั่งเป็นขวดไว้ และเมื่อดื่มไม่หมดสามารถฝากขวดที่เปิดไว้แล้วกับที่ร้านอาหารได้ เพื่อใช้ดื่มในในครั้งต่อๆไป เพราะสาเกญี่ปุ่นอย่างดีที่มีราคาแพง ส่วนใหญ่จะบรรจุในขวดที่ใหญ่มาก เพื่อการดื่มไปและทิ้งเวลาหมักไปด้วย แน่นอน ขวดเดียวไม่สามารถดื่มหมดภายในครั้งเดียวได้  

การเสิร์ฟสาเกญี่ปุ่น

ด้วยความหลากหลายของประเภทสาเกญี่ปุ่น ทำให้เกินความแตกต่างในการดื่มเช่นกัน สาเกแต่ละประเภทและแต่ละแบรนด์จะมีคำแนะนำในการดื่มที่เหมาะสมที่สุดแตกต่างกันไป หลักๆจะแบ่งการเสริฟสาเกได้ 4 ประเภทตามอุณหภูมิ

1. แช่เย็น

เสิร์ฟที่อุณหภูมิประมาณ 5-10°C มักใช้กับสาเกระดับพรีเมียม 

2. อุณหภูมิห้อง

เสิร์ฟที่อุณหภูมิ 15-20°C เหมาะสำหรับสาเกเกือบทุกประเภท

3. อุ่น

เสิร์ฟที่อุณหภูมิ 40-45°C เหมาะสำหรับฮอนโจโซและสาเกจุนไมบางชนิด

4. ร้อน

เสิร์ฟที่อุณหภูมิ 50-55°C ใช้สำหรับสาเกรสเข้มข้น การอุ่นมากเกินไปอาจทำให้รสชาติเปลี่ยนไปได้

เคล็ดลับ

เช่นเดียวกัน การดื่มสาเกก็จะมีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมดั่งเดิมของประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นที่การเทเพื่อผู้อื่นซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะรินสาเกเพื่อผู้อื่นก่อน โดยเฉพาะผู้ที่อาวุโสกว่าตนเอง และต้องรินให้มากกว่าตนเองเสมอ เวลาถือโทคุริหรือบรรจุภัณฑ์ของเหล้าสาเก เราต้องถือด้วยมือทั้งสองข้างเวลารินให้ผู้อื่น นี่แสดงถึงความสุภาพและการมีมรรยาทที่ดีบนโต๊ะอาหาร ในทางกลับกัน เมื่อมีคนรินสาเกให้คุณ ให้ถือแก้วด้วยมือทั้งสองข้างเสมอเช่นกัน นี่แสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนและยินดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้อื่นๆ เราต้องรอจนทุกคนเสิร์ฟก่อน ถึงจะยกแก้วแล้วพูดว่า “Kanpai” เหมือน ไชโย หรือ ชนแก้ว ในภาษาไทย จากนั้นค่อยดื่มพร้อมกันจนหมดแก้ว เป็นการพิธีเปิดอย่างสมบูรณ์ 

เหล้าสาเกญี่ปุ่นเข้ากันได้ดีกับอาหารหลายประเภท แม้แต่อาหารทอดเช่นเทมปุระ คนญี่ปุ่นมักดื่มสาเกร่วมกับซาชิมิหรือปลาดิบ ยากิโทริหรือไก่ย่างเป็นต้น ในชุดอาหารแบบครอสเมนูหรือที่เรียกว่า ไคเซกิ ก็จะมีตัวเลือกเหล้าญี่ปุ่นสาเกให้แขกผู้เข้ารับประทานอยู่เสมอ เข้าใจได้ง่ายๆว่า ผู้ดีฝรั่งเศสดื่มไวน์ ไฮโซญี่ปุ่นดื่มสาเก 

การเลือกยี่ห้อ

เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็อย่าลืมหาลองดื่มเหล้าสาเกชั้นเลิศซักครั้ง ซึ่งก็มีหลายยี่ห้อให้ลองชิม โดยแต่ละยี่ห้อมีรสชาติและประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ 

ดาไซ 

มีชื่อเสียงในด้านสาเกคุณภาพสูง ซึ่งทำจากข้าวขัดให้เหลือขนาดดั้งเดิมอย่างน้อย 50% มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผลไม้ และรสชาติที่นุ่มนวลและประณีต ได้รสชาติที่บริสุทธิ์และหรูหราเป็นพิเศษ

photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Dassai_%28Brand_of_sake%29.jpg

ฮักไกซัน

คือสาเกประเภท จุนไม กินโจ ขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่สะอาด กลั่นโดยใช้น้ำบริสุทธิ์จากภูเขาฮักไกซังที่ปกคลุมด้วยหิมะ ซึ่งมีส่วนช่วยให้รู้สึกสดชื่น สมดุล ละเอียดอ่อนและนุ่มนวล

Photo from https://www.flickr.com/photos/61669007@N00/17038566045

เก็กเคคัง 

เป็นหนึ่งในโรงเหล้าสาเกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 380 ปี ผลิตสาเกหลากหลายชนิด ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความสม่ำเสมอและคุณภาพระดับพรีเมียมที่มีกลิ่นผลไม้ที่ซับซ้อน และรสชาติที่นุ่มนวลและสมดุล

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Gekkeikanbottle.JPG

ข้อสรุป

ถึงแม้เหล้าญี่ปุ่นทั้งโชจูและสาเกญี่ปุ่นจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับเบียร์และไวน์ ก็ยังคงเป็นที่นิยมของกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่อยู่เสมอ มีการดื่มสรรค์สรรกันอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงการสร้างสรรค์ทางธุรกิจที่คู่ค้าญี่ปุ่นจะพาลูกค้ามาทานอาหารร่วมกันพร้อมแนะนำโชจูหรือสาเกญี่ปุ่นชั้นดีให้แก่กันและกัน แม้แต่ยังใช้เป็นของขวัญหรือของฝากในวันสำคัญต่างๆอีกด้วย

-- END --

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST
ที่กินในญี่ปุ่น

Yakiniku Like ร้านเนื้อย่างที่ไปคนเดียวก็สบายใจได้ ”อร่อย ถูก ประหยัด”

  เวลาเพื่อนๆมาเที่ยวญี่ปุ่นผมเชื่อว่ามีหลายๆท่านอยากมาทานเนื้อย่างให้ … 29/01/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
อาหารโอซาก้า
ที่กินในญี่ปุ่น

เที่ยวโอซาก้า ห้ามพลาดกินอาหารร้านไหนนะ ?

โอซาก้า เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆของทั้งชาวญี่ปุ่นเองหรือ … 15/04/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่กินในญี่ปุ่น

โอซาก้าทงคัตสิ จิโยะมัตสึ หมูคัตสึด้งชิ้นยักษ์จนปิดฝาไม่ลง เจ้าดังของโอซาก้า

เมนูข้าวหน้าหมูทอดคัตสึด้งเรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ขาวไทยส่วนใหญ่คุ้นเคย … 03/01/2025
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่กินในญี่ปุ่น

ทากาโนะฟรุตพาร์เลอร์ สาขาใหญ่ชินจูกุ ร้านพาร์เฟต์ผลไม้หลากสีแสนสวย อร่อยล้ำเกินคำบรรยาย

เมื่อออกจากลิฟต์ที่ชั้น 5 ของอาคารทากาโนะซึ่งเดินจากสถานี JR ชินจูกุปร … 19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่กินในญี่ปุ่น

เมนูสุดน่ารักประจำฤดูใบไม้ร่วง

ด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นมีทั้งหมด 4 ฤดู และทั้ง 4 ฤดูนั้นก็ล้วนให้บรรย … 03/10/2023
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
OhhoTrip_Starbucks Coffee Card_Cover
ที่กินในญี่ปุ่น

ค้นหาที่มาของศิลปะบน Starbucks Reserve coffee cards

Starbucks Reserve หลายคนที่เป็นแฟนกาแฟของสตาร์บัคส์น่าจะรู้จักเป็นอย่า … 23/06/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.