ที่เที่ยวสนุกในญี่ปุ่น

ศาลเจ้าคิบุเนะยามหน้าร้อนกับคำอธิษฐานในวันทานาบาตะ

ภูมิภาค
|
หัวข้อที่เกี่ยว
|
P7253049-18781c5a

วันที่ 7เดือน7ของทุกปีในประเทศญี่ปุ่นจะจัดงานเทศกาลทานาบาตะ (七夕祭)เทศกาลแห่งดวงดาวและความรักตามตำนานหนุ่มเลี้ยงวัว(彦星)และสาวทอผ้า (織姫) แต่ในเมืองเกียวโตนั้นกลับแปลกออกไปเมื่อเทศกาลทานาบาตะได้ขยายเวลาไปจนถึงช่วงเดือนสิงหาคม 

ศาลเจ้าคิบุเนะ ณ เมืองเกียวโต (貴船神社)

ทางเดินขึ้นศาลเจ้าคิบุเนะเพื่อไปสู่บริเวณศาลเจ้าหลัก

เชื่อว่าคนไทยหลายคนน่าจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับศาลเจ้าคิบุเนะกันดี ภาพทิวทัศน์ส่วนใหญ่ที่คุ้นเคยจะเป็นภาพทางเดินขึ้นศาลเจ้าคิฟุเนะท่ามกลางหิมะ ครั้งนี้จะพาไปเยี่ยมชมศาลเจ้าคิบุเนะ ในช่วงที่อากาศอันร้อนอบอ้าวของฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น แต่ความพิเศษของครั้งนี้คือตรงบริเวณศาลเจ้าของคิบุเนะมีต้นไผ่ที่มีคำอธิษฐานในวันทานาบาตะ  ซึ่งสามารถมาเขียนขอคำอธิษฐานได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม และสามารถรอชมไลท์อัพประดับไฟในตอนกลางคืนได้ 

เทศกาลทานาบาตะ ณ ศาลเจ้าคิบุเนะ

การเดินทางไปยังศาลเจ้าคิบุเนะนั้นสะดวกเพียงแต่ระยะทางอาจจะไกลเล็กน้อย แต่ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์และเกี่ยวข้องกับตำนานเทพของประเทศญี่ปุ่น ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ชานเมืองเกียวโต ท่ามกลางหุบเขา ไม่มีใครรู้ว่าศาลเจ้าคิบุเนะได้ถูกสร้างขึ้นเมื่อไร ในสมัยของจักรพรรดิเท็นมุ(天武天皇)( 1,300 ปีก่อน) ก็มีบันทึกไว้แล้วว่าศาลเจ้าคิบุเนะได้สร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้วศาลเจ้านี้เริ่มก่อสร้างเมื่อไร ทำให้ศาลเจ้านี้ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น  และด้วยความที่ศาลคิบุเนะนี้ขึ้นชื่อเรื่องขอพรเรื่องโชคลาภและ พรหมลิขิต สิ่งนี้น่าจะเป็นจุดที่นำมาเชื่อมโยงกับเทศกาลแห่งความรักอย่างทานาบาตะ โดยการการไลท์อัพนี้ได้เริ่มต้นทำตั้งแต่ปี ค.. 2010 โดยจะเริ่มฉายไฟตั้งแต่ช่วงพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงเวลาสองทุ่ม (ช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น อากาศค่อนข้างร้อนทำให้วัดและศาลเจ้าบางแห่งได้มีการแสดงไลท์อัพตอนกลางคืนเพื่อเป็นจุดขายและดึงดูดนักท่องเที่ยว) 

(เนื่องจากในครั้งนี้ ไม่ได้เก็บภาพตอนที่มีการไลท์อัพด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัดทำให้ได้ภาพในช่วงเวลา 6 โมงเย็นยามโพล้เพล้มาแทนนะคะ ภาพข้างบนนี้มาจากเว็บไซต์ https://www.leafkyoto.net/event/220530-kyoto-kifune/

เมื่อเดินทางมาถึงศาลเจ้าแห่งนี้ คุณจะสัมผัสได้ถึงธรรมชาติที่สร้างให้บรรยากาศของศาลเจ้าแห่งนี้มีมนต์ขลังและกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้เขียวชอุ่ม และแม่น้ำที่ไหลผ่านบริเวณหน้าศาลเจ้า และยังเป็นจุดที่ตั้งของร้านอาหารที่ให้ผู้คนได้มาดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติ 

แม่น้ำที่อยู่ด้านหน้าที่เป็นทางเดินเข้าสู่ศาลเจ้า

บันไดทางเดินขึ้นศาลเจ้า

โคมไฟสีแดงตัดกับสีเขียวของต้นไม้สวยทีเดียวค่ะ

ศาลเจ้าคิบุเนะแบ่งออกเป็นสามบริเวณ

1.บริเวณ ฮอนกู (本宮)คือศาลเจ้าหลักจะเป็น เทพทาคาโอะคามิโนะคามิ (高龗神)เทพแห่งน้ำซึ่งมีร่างเป็นมังกร สามารถควบคุมฟ้าฝนและเป็นบุตรแห่งเทพอิซานางิ โนะมิโกะโตะ (伊弉諾尊)เทพบิดรผู้สร้างเกาะญี่ปุ่นและเทพต่าง ๆ ตามความเชื่อของประเทศญี่ปุ่น

2.บริเวณ ยุอิโนะยะชิโระ(結社) เป็นที่สถิตย์ของ เทพอิวะนะงะฮิเมะโนะมิโคะโตะ (岩長姫命)

3.บริเวณ โอคุมิยะ(奥宮) คือ เทพทาคาโอะคามิโนะคามิ และบางตำรากล่าวว่าเป็นของเทพ คุระโอคามิโนะคามิ(闇龗神)

คนที่เดินทางมาเคารพศาลเจ้าคิบุเนะ มีทั้งใส่ชุดยูกาตะเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ และแม้ว่าจะเป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว ก็ยังมีผู้คนเดินทางมาเคารพและสักการะศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ตลอดเวลา 

ในส่วนของเทศกาลทานาบาตะนั้นจะจัดบริเวณฮอนกูหรือส่วนศาลเจ้าหลัก มีต้นไผ่ขนาดใหญ่สามต้นตั้งอยู่ และมีจุดให้เขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษทันซาคุ มีค่าใช้จ่าย 100 เยน ให้หยอดลงกล่องเงินได้เลย 

นอกเหนือจากการมาเขียนคำอธิษฐานในเทศกาลทานาบาตะแล้ว ในศาลเจ้าคิบุเนะยังมีจุดเซียมซีด้วยการลอยกระดาษเซียมซีลงบนน้ำ และคำทำนายจะปรากฏให้เห็น บนกระดาษสามารถใช้มือถืออ่าน QR Code เพื่ออ่านคำแปลเป็นภาษาอังกฤษสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นได้อ่านเพื่อทำความเข้าใจอีกด้วย 

กระดาษเซียมซีเมื่อลอยบนน้ำแล้วจะมีคำทำนายปรากฏขึ้น ค่าทำนายเซียมซี 200 เยน

บริเวณน้ำที่ใช้ลอยคำอธิษฐาน ถือว่าเป็นสายน้ำศักดิ์สิทธิ์

และอีกหนึ่งความพิเศษคือจุดชมวิวที่เป็นเวทียกต่างระดับขึ้นมา จะมีการตกแต่งเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของฤดูร้อน มีทั้งกังหันลมและกระพรวนลมแขวนประดับอย่างสวยงาม เหมาะกับคนที่อยากเก็บภาพสวย ๆ หรือใส่ชุดยูกาตะมาถ่ายรูปในศาลเจ้าคิบุเนะก็น่าจะได้ภาพสวย ๆ น่ารัก ๆ ที่เข้ากับหน้าร้อนนะคะ 

บนเพดานจะมีกระดิ่งลมแขวนไว้ และมีกังหันลมสีฟ้า เข้ากับบรรยากาศฤดูร้อนเป็นอย่างดี 

และยังมีเอะมะตามฤดูกาล โดยในฤดูร้อนจะเป็นใบโมมิจิสีเขียวราคาประมาณ 700 เยน 

เครื่องรางประจำศาลเจ้าคิบุเนะ ราคาไม่แพงมาก และส่วนใหญ่จะเป็นรูปมังกรค่ะ เพราะเป็นเทพเจ้าแห่งสายน้ำ

บริเวณด้านข้างของศาลเจ้า

บริเวณด้านข้างของศาลเจ้ามีร้านขายของที่ระลึกและของว่างด้วยเช่นกัน

ถ้าใครสนใจจะมาศาลเจ้าคิบุเนะในช่วงฤดูร้อนก็อยากจะขอแนะนำให้มาให้ตรงกับช่วงเทศกาลทานาบาตะ และมีการไลท์อัพ จะได้เก็บภาพสวย ๆ ในฤดูร้อนของเมืองเกียวโตท่ามกลางธรรมชาติในอีกบรรยากาศหนึ่ง

การเดินทางด้วยรถไฟและรถบัส

มีอยู่ 2 วิธีแต่ถ้าหากต้องรอดูไลท์อัพแนะนำให้ใช้รถไฟเอซังเด็นเท็ตสึ(叡山電鉄) สายคุรามะ(鞍馬線) โดยนั่งจากสถานีเดะมาเอะยานางิ ของรถไฟเอซังเด็นเท็ตสึ สายที่มุ่งหน้าไปยังคุรามะใช้เวลา 28 นาที ลงที่สถานีคิบุเนะกุจิ(貴船口駅) ด้วยรถไฟฮิเอซังเด็นเท็ตสึ สายอาริมะ จากนั้นนั่งรถ shuttle busสาย 33 ใช้เวลาประมาณ 4 นาที ถ้าหากเดินทางช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะได้ชมทิวทัศน์ระหว่างสถานีที่เรียกกันว่า อุโมงค์โมมิจิ 

หรือจะใช้เส้นทางสถานีรถไฟใต้ดินชิเอ(市営地下鉄) ของเมืองเกียวโต โดยการลงที่สถานที โคะคุไซไคคัง(国際会館駅) จากนั้นนั่งรถบัสเกียวโตสาย 52 ที่มุ่งหน้าไปยังคุรามะออนเซ็น(鞍馬温泉) ลงที่ป้าย คิบุเนะกุจิ และเดินต่อมาอีก2 นาทีมาขึ้นรถ huttle busสาย 33 ที่ป้าย คิบุเนะกุจิเอคิมาเอะ แต่การเดินทางด้วยวิธีนี้รอบรถจะน้อยกว่า 

สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของศาลเจ้า https://kifunejinja.jp/access/

ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่อยู่: 180 Arima kibune-cho, Sakyo-ku, Kyoto-shi, Kyoto, 601-1112

เบอร์โทรศัพท์: +81-75-741-2016

เวลาเปิดทำการ: 09:00-17:00 (ยกเว้นช่วงฤดูร้อน สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ของศาลเจ้า https://kifunejinja.jp/en/

ค่าเข้าชม: ฟรี

สามารถซื้อตั๋ว/กิจกรรม Kyoto ได้ที่ Klook

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Pleng Chayaporn
เวลารู้สึกเหนื่อย ๆ จะพกกล้องและออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียว หรือออกไปเดินหาร้านกาแฟ ร้านอาหารในท้องถิ่นเพื่อไปสัมผัสกับบรรยากาศ ผู้คนและวัฒนธรรมในที่แห่งนั้น

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

RELATED POST