ตามธรรมเนียมในวันขึ้นปีใหม่ของชาวญี่ปุ่น นอกจากการกินโอเซะจิ อาหารชุดเพื่อเสริมความเป็นมงคลรับปีใหม่ หรือโซบะอายุยืน นั่นก็คือการไปวัดหรือศาลเจ้าเพื่อขอพรในวันขึ้นปีใหม่ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 初詣)ตั้งแต่วันที่ 1-5 มกราคม ยิ่งเป็นวัดหรือศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงมากเท่าไร ยิ่งมีคนเดินทางไปเยือนมากเท่านั้น บางศาลเจ้าหรือวัดบางแห่งต้องยืนรอเข้าคิวกันเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ละวัดและแต่ละศาลเจ้าก็จะพยายามหาเครื่องรางหรือสิ่งน่าสนใจเพื่อเรียกให้คนเดินทางมา
ในวันนี้อยากจะขอแนะนำวัดแห่งหนึ่งในเมืองโอซาก้าที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองมิโน แม้ว่าวัดแห่งนี้จะอยู่ท่ามกลางหุบเขา แต่การเดินทางนั้นไม่ได้ลำบากมากนัก ถ้าเดินทางจากอุเมะดะ ให้นั่งรถไฟใต้ดินสายสีแดงมิโดสึจิ ไปลงที่สถานีเซ็นริจูโอ และนั่งรถบัสฮันคิวหมายเลข 29 ก็จะถึงป้ายรถเมล์หน้าวัดเลยทันที วัดแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า วัดคัตสึโอจิ (勝尾寺:Katsuouji)
แต่การเดินทางมาวัดแห่งนี้ในวันปีใหม่ส่ิงที่ต้องเตรียมตัวและเตรียมใจไว้ก็คือผู้คนจำนวนมากมายที่หลั่งไหลกันมา และด้วยจำนวนของรถบัสที่มีค่อนข้างจำกัด และถนนสองเลนที่เป็นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว จนรถติดเป็นทางยาว จนใช้เวลาเดินทางมากกว่าที่คิดไว้ ทำไมผู้คนจำนวนมากถึงได้เดินทางมายังวัดแห่งนี้ เมื่อย้อนกลับไปยังดูยังประวัติของวัดคัตสึโอจิ ประวัติของวัดคัตสึโอจิแห่งนี้มีมาอย่างยาวนาน เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับวัดสีแดงกลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาดารุมะแห่งนี้กัน
ประวัติเกี่ยวกับวัดคัตสึโอจิ
วัดคัตสึโอจิเป็นวัดที่เก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 1300ปี ย้อนไปตั้งแต่สมัยปีค.ศ. 727 แรกเริ่มมาจาก พระสองพี่น้องฝาแฝดนามว่า เซ็นจู(善仲:zenchuu)กับเซ็นซัง (善算:zensan) สร้างอาศรมสำหรับปฎิบัติธรรม ต่อมาในปีค.ศ. 765 เจ้าชายไคโจ (開成:kaijou)พระโอรสในจักรพรรดิโคนิน (光仁天皇:Kounintennou) ได้เดินทางมาพบกับสองพี่น้องแล้วจึงเกิดความเลื่อมใส จึงได้ออกผนวชเป็นพระ ต่อมาในปี ค.ศ. 775 จึงได้สร้างขึ้นมาเป็นวัดโดยแต่แรกเป็นชื่อวัดมิโรคุ ในอุโบสถของวัดจะมีองค์พระโพธิสัตว์มิโรคุ และ เจ้าแม่กวนอิมปางพันมือประดิษฐานคอยคุ้มครองปกป้องวัด ต่อมาในสมัยขององค์จักรพรรดิเซวะ (清和天皇:seiwatennou) ทางเจ้าอาวาสรุ่นที่ 6 ได้สวดมนต์ขอพรคุ้มครองให้กับองค์จักรพรรดิจนร่างกายแข็งแรง หายป่วย จึงได้รับพระราชทานชื่อให้กับว่า 勝王寺 ที่มีความหมายว่ามีชัยเหนือองค์จักรพรรดิ แต่ทางวัดนั้นได้เปลี่ยนตัวคันจิคำว่า 王ที่มีความหมายว่าพระราชา มาเป็น 尾 แทน
ต่อมาเกิดความวุ่นวายและสงครามภายในทำให้ตัวอุโบสถถูกเผาทำลาย ต่อมาในปี ค.ศ. 1195 มินาโมโตะ โนะ โยะริโตะโมะ (源頼朝: minamoto no yoritomo)โชกุนคนแรกของประเทศญี่ปุ่นได้สั่งให้มีการบูรณะวัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัดแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยอาคารและสมบัติเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัดคัตสึโอจิ https://katsuo-ji-temple.or.jp/history/
ทำไมต้องมีแต่ดารุมะ
เนื่องจากการสวดมนต์ขอพรคุ้มครองให้กับองค์จักรพรรดิเซวะจนร่างกายแข็งแรงจนได้พระราชทานนามของวัดมาทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น วัดแห่งชัยชนะ ต่อมาวัดได้มีการสวดมนต์ขอพรให้กับเหล่านักรบตระกูลมินาโมโตะ(源: minamoto)โและอาชิกะงะ (足利 :ashikaga) มีชัยชนะ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากได้มาสักการะและขอพรเพื่อชัยชนะ ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากได้เดินทางมาสักการะและขอพรในการแข่งขันหรือการสอบเข้าเป็นจำนวนมาก
ทางวัดจะมีตุ๊กตาดารุมะหลากหลายขนาดจำหน่ายราคาตั้งแต่ 2000เยน เป็นต้นไป เพื่อให้เขียนคำอธิฐาน นอกจากนี้ยังมีเซียมซีดารุมะราคา 500 เยนที่สามารถนำกลับไปเป็นของที่ระลึกหรือวางไว้ตามมุมต่าง ๆ ของวัดได้เช่นกัน

ดารุมะที่วางอยู่ตรงทางขึ้นไปยังอุโบสถ มีหลากหลายขนาด
ทางผู้ดูแลวัดก็มักจะจัดสรรท่าทางให้กับดารุมะจำนวนมหาศาลในวัดให้อยู่ตามมุมต่าง ๆ จนเป็นภาพน่ารัก สามารถเก็บภาพน่ารัก ๆ ของดารุมะได้มากมาย


ตุ๊กตาดารุมะอิงแอบกัน
วัดคัตสึโอจิกับการไหว้พระในวันปีใหม่
แล้วความพิเศษของการมาไหว้พระวันปีใหม่ของวัดแห่งนี้ที่ไม่เหมือนวัดอื่นคืออะไร???
ถ้าหากใครที่เดินทางมาขอพรวันปีใหม่ระหว่างวันที่ 1-4 มกราคม ทางวัดจะมีการแจกกิ่งไม้ และขายของประดับที่มีความหมายมงคล ราคาชิ้นละ 800 เยน ใครที่มีงบมากก็สามารถซื้อประดับจนเต็มกิ่งตามรูปนี้ก็ได้เช่นกัน

ที่มาของรูปภาพ : https://katsuo-ji-temple.or.jp/event/january/01.html#january01_fukumusume
เทพธิดานำโชคหรือ 福娘 (fukusumume) หญิงสาวที่คอยแจกกิ่งไม้และทำหน้าที่ติดของประดับ

ที่มาของรูปภาพ : https://katsuo-ji-temple.or.jp/event/january/01.html#january01_fukumusume
โดยสิ่งของประดับนั้นเป็นของที่มีความหมายมงคล เช่น คราดไม้เรียกความสุขเรียกโชคลาภ กระพรวนนำโชค เป็นต้น

โดยส่วนตัวได้เลือกเอากระพรวนเรียกโชค รองเท้าสานที่นำพาโชคลาภมาให้ เนื่องจากซื้อเครื่องประดับประจำปีเสือไม่ทัน ส่วนรูปล่างเป็นรูปของปีที่ผ่านมา จะมีเครื่องประดับประจำปีวัวอยู่

วัดคัตสึโอจิกับความงดงามทั้งสี่ฤดู
แต่วัดคัตสึโอจินั้นสามารถไปเยือนเพื่อรับชมทิวทัศน์สวยๆ ได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากตัวอาคารของวัดนั้นเป็นสีแดง ตุ๊กตาดารุมะที่เป็นสีแดง กับใบไม้สีแดงที่ล้อมตัววัดไว้ยิ่งทำให้เกิดเป็นทัศนีย์ภาพที่งดงาม


วัดคัตสึโอจิช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี


วัดคัตสึโอจิท่ามกลางสายฝนในฤดูฝน

ช่วงฤดูร้อนหรือฤดูฝนก็สามารถเพลินไปกับความสดชื่นของสีเขียวชอุ่มได้เช่นกัน


นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว ทางวัดยังมีบ่อปลาคาร์ฟให้เราได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปหรือการให้อาหารปลาได้ด้วยเช่นกัน
จากประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของวัดคัตสึโอจิแห่งนี้และความพิเศษของการไปสักการะในช่วงวันปีใหม่นับว่าเป็นจุดขายที่ทำให้มีผู้คนจำนวนมากมายหลั่งไหลมาสักการะขอพรในวันปีใหม่เพื่อให้ได้รับชนะในทุก ๆ เรื่องที่อธิษฐานและตั้งใจ การไปต่อแถวกันเข้าวัดและซื้อสิ่งของประดับมงคลนี้ถือว่าเป็นสีสันและกิจกรรมอย่างหนึ่งในวันปีใหม่ของชาวญี่ปุ่น
ข้อมูลเกี่ยวกับวัดคัตสึโอจิ
ที่อยู่: katsuouji, minoh-shi, Osaka-fu หมายเลขไปรษณีย์ 562-8508
เบอร์โทรศัพท์: +81-072-721-7010(เวลาทำการ 09:00-17:00 น.)
เวลาเปิดทำการ: วันธรรมดา 08:00-17:00 น. , วันเสาร์ 08:00-17:30 น., วันอาทิตย์และวันหยุดนัขตฤกษ์ 08:00-18:00 น.
ค่าธรรมเนียม: ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย) ราคา 400 เยน , เด็กนักเรียนชั้นประถมถึงมัธยมต้น 300 เยน , เด็กที่ยังไม่ถึงวัยเข้าศึกษา 100 เยน , เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ เข้าชมฟรี
การเดินทาง : สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของวัดคัตสึโอจิได้https://katsuo-ji-temple.or.jp/access/
