ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ท่องเที่ยวภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ

HokuShin Cover-a4741ef2

"โฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ" (Hokuriku/Shinetsu) เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวมากที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยภูมิประเทศที่มีทั้งเทือกเขา ที่ราบสูง แม่น้ำลำธาร บ่อออนเซ็นธรรมชาติ รวมไปถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล ทำให้ ”โฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ” เปรียบเป็นแหล่งรวมทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งไม่แพ้พื้นที่อื่นใดในประเทศ

ภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ ตั้งอยู่เหนือภูมิภาคชูบุ (Chubu) ประกอบด้วยพื้นที่ของ 5 จังหวัด โดยพื้นที่ชินเอ็ทสุ (Shinetsu) เป็นที่ตั้งของจังหวัดนิงาตะ (Niigata) และจังหวัดนางาโนะ (Nagano) ส่วนพื้นที่โฮคุริคุ (Hokuriku) จะเป็นที่ตั้งของจังหวัดโทยามะ (Toyama) จังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa) และจังหวัดฟุคุอิ (Fukui) เป็นภูมิภาคที่พื้นที่ส่วนใหญ่ติดกับชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น โดยมีเพียงนางาโนะจังหวัดเดียวที่ไม่มีพื้นที่ชายฝั่ง แต่ก็มีความยิ่งใหญ่ของเทือกเขาแอลป์พาดผ่าน มีบ่อออนเซ็นธรรมชาติที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่สำหรับเล่นสกีที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น!

ในพื้นที่ของจังหวัดโทยามะและฟุคุอิ จะมีพื้นที่ชนบทที่เข้าถึงยากแต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหา ขณะที่จังหวัดอิชิคาวะจะเป็นเหมือนศูนย์กลางทางศิลปวัฒนธรรม รวมไปถึงเป็นศูนย์กลางทางสถาปัตยกรรมและงานออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นทั้งแบบดั้งเดิมและโมเดิร์น

ภูมิภาคโฮคุริคุ เคยถูกจัดอยู่ในอันดับ 4 ของ Lonely Planet’s Best in Travel 2014 – Top 10 Regions!

สภาพอากาศ

เนื่องจากภูมิประเทศหลากหลายทำให้สภาพอากาศมีความหลากหลายตามไปด้วย แต่ด้วยมวลอากาศแห้งบวกกับความชื้นจากชายฝั่งทะเลที่กระจายทั่วภูมิภาค เมื่อถูกพัดพาไปพบความกดดันเหนือเทือกเขาทำให้เกิดการควบแน่นเป็นหิมะ และด้วยประมาณหิมะที่หนาแน่นและฤดูหนาวที่ยาวนาน ทำให้ภูมิภาคนี้ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งการใช้ชีวิต (มีผู้คนอาศัยหนาแน่นและเป็นพื้นที่กสิกรรม) ที่มีหิมะตกมากที่สุดในโลก!

การเดินทาง

นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา มีนักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวยังภูมิภาคนี้ ทำให้ทางการได้ขยายการให้บริการของรถไฟชินคันเซ็น จากโตเกียวมายังโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุโดยตรงด้วยรถไฟสาย Hokuriku Shinkansen โดยใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวมายังโทยามะประมาณ 2 ชั่วโมง และสามารถใช้บริการรถไฟเชื่อมกับจังหวัดอื่นๆในภูมิภาคได้อย่างง่ายดาย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jreast.co.jp/e/routemaps/hokurikushinkansen.html

แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ภูมิภาคโฮคุริคุ/ชินเอ็ทสุ มีภูมิประเทศที่หลากหลายตั้งแต่เทือกเขาไปจนถึงชายฝั่งทะเล ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจอยู่มากมาย ตั้งแต่ปีนเขา เล่นสโนว์บอร์ด แช่บ่อออนเซ็น เดินทอดน่องริมหาด เที่ยวชมสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม หรือแม้กระทั่งการตระเวนชิมอาหาร seafood กับลิ้มรสชาติสาเกญี่ปุ่นแท้ๆ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวเต็มไปหมดจนเลือกไม่ถูก ดังนั้นเราจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวภูมิภาคนี้;

  • หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge), จังหวัดโทยามะ

เป็นหุบเขาที่สวยงามและมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ปกคลุม ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือ มีแม่น้ำคุโรเบะตัดผ่าน เป็นหุบเขาที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีหน้าผาสูงชัน แต่ความงามไม่เป็นสองรองใคร มีแหล่งท่องเที่ยวหลักที่ขึ้นชื่ออย่างมากคือ ทางรถไฟคุโรเบะ ซึ่งเป็นทางรถไฟความยาว 20 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างสถานี Unazuku และสถานี Keyakidaira ใช้เวลาเดินทางประมาณ 80 นาที โดยรถไฟจะพาคุณข้ามสะพานกว่า 20 แห่ง อุโมงค์กว่า 40 แห่ง พร้อมแผ่นภาพอันกว้างไกลของหุบเขาเบื้องล่างที่ปรากฏแก่สายตาคุณ รถไฟจะมีการหยุดที่บางสถานี เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปสำรวจทัศนียภาพข้างทางได้แบบใกล้ชิด

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.kurotetu.co.jp/thai/route_guide/

  • ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle), จังหวัดนากาโนะ

ปราสาทมัตสึโมโตะ ชื่อเดิมคือ ปราสาทฟุคาชิ และด้วยผนังปราสาทและกำแพงโดยรอบมีสีดำ บวกกับปีกปราสาทแต่ละด้านแผ่ออกคล้ายนก ทำให้ปราสาทมัตสึโมโตะมีอีกชื่อเรียกคือ “ปราสาทกาดำ” มีอายุประมาณ 400 ปี และเป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์  จนได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติประจำชาติอย่างสมศักดิ์ศรี ในฤดูหนาว ภาพของปราสาทมัตสึโมโตะที่มีสีดำทั้งหลังที่ตัดกับสีขาวโพลนของหิมะบนเทือกเขาแอลป์ ก่อเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามเกินจินตนาการ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.matsumoto-castle.jp/lang/

  • เกาะซาโดะ (Sado Island), จังหวัดนิงาตะ

เกาะซาโดะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในทะเลญี่ปุ่น อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ในจังหวัดนิงาตะประมาณ 40 กิโลเมตร มีแนวชายฝั่งยาวประมาณ 280 กิโลเมตร และมีเนื้อที่ประมาณ 855 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าเกาะอาวาจิ เกาะกวม หรือเกาะภูเก็ต ประมาณ 1.5 เท่า แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะซาโดะ ได้แก่ เหมืองทองซาโดะคินซัง (Sado Kinzan Gold Mine) ชายหาดโจงาฮานะ (Jogahana Beach) ถนนสายประวัติศาสตร์เคียวมะจิ (Kyomachi Street) ตลาดซาโดะโทคุเซ็ง (Sado Tokusen Ichiba Market) เป็นต้น นอกจากนั้นเกาะซาโดะยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ รวมทั้ง “การนั่งเรืออ่างชมวิว” (Hangiri or Washtub Boat) ยังเป็นกิจกรรมสุดน่ารักไม่ซ้ำใครของที่นี่อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.visitsado.com/en/

  • เมืองยูซาวะ (Yuzawa), จังหวัดนิงาตะ

ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของจังหวัดนิงาตะ ยูซาวะเป็นแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่ถูกห้อมล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ มีทัศนียภาพที่สวยงามและมีสกีรีสอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แม้จะมีชื่อเสียงด้านสกีรีสอร์ตระดับโลก แต่เมืองยูซาวะยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถแวะเวียนมาสัมผัสกับความงามของธรรมชาติได้ตลอดทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งเมืองจะปกคลุมไปด้วยใบไม้สีแดงส้มที่สามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าเพื่อสัมผัสความงามด้วยตาเปล่าแบบพาโนราม่า 360 องศา ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้มาเยือนได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.e-yuzawa.gr.jp/language_tha/

  • วัดนะตะเดระ (Natadera Temple), จังหวัดอิชิคาวะ

ตั้งอยู่บนหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ฮะคุซัง เป็นวัดพุทธซึ่งเป็นหมุดหมายหลักของนักแสวงบุญที่จะเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยพลังแห่งศรัทธา ถูกค้นพบราวๆปี ค.ศ. 717 โดยเหล่านักบวชที่ขึ้นไปธุดงค์บนเขาฮะคุซัง ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นวัดนะตะเดระเมื่อปี ค.ศ.986 โดยจักรพรรดิ์คะซัง (Kazan) ผู้ซึ่งพำนักอยู่ที่วัดแห่งนี้และได้ทำการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ขึ้นในสมัยนั้น วัดนะตะเดระได้รับความเสียหายจากสงครามถึงสามครั้งด้วยกัน กระทั่งในปี ค.ศ.1640 ท่านมาเอะดะ โทชิซึเนะ (Maeda Toshitsune) เจ้าลำดับที่สามแห่งเมืองคะกะ (Kaga) ได้ทำการบูรณะวัดนะตะเดระกลับมาอีกครั้ง วัดนะตะเดระ รายล้อมด้วยทัศนียภาพที่งดงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่จะกลายเป็นจุดชมวิวที่งดงามเหนือคำบรรยาย

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.natadera.com/TH/index.html

  • เส้นทางสายเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ (Tateyama-Kurobe Alpine Route), จังหวัดโทยามะ

เส้นทางชื่นชมธรรมชาติที่ทอดตัวไปตามความยาวของเทือกเขาแอลป์อันเปรียบเสมือน “หลังคาของญี่ปุ่น” ให้คุณได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างแท้จริง มีจุดถ่ายภาพสวยๆตระการตามากมาย โดยเส้นทางเจแปนแอลป์แห่งนี้เปิดให้เดินทางในกลางเดือนเมษายนจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน และจะมีไฮไลท์ที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น กำแพงหิมะมุโรโดะที่สูงถึง 18 เมตร เขื่อนคุโรเบะ น้ำตกโชเมียวและพื้นที่ชุ่มน้ำมิดางาฮาระ นอกจากนั้นคุณยังสามารถแวะนั่งรถรางเพื่อชื่นชมความงามของเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือในฤดูใบไม้ร่วงได้อีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.alpen-route.com/th/


♦ By PokSafin ♦ 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก;

https://en.wikipedia.org/wiki/Shin%27etsu_region

https://en.wikipedia.org/wiki/Hokuriku_region

https://www.visitsado.com/en/

https://www.matsumoto-castle.jp/lang/

https://www.kurotetu.co.jp/thai/route_guide/

https://www.e-yuzawa.gr.jp/language_tha/

https://enjoyniigata.com/en/spot/10668

http://www.natadera.com/TH/index.html

https://www.hot-ishikawa.jp/thai/kanko/20103.html

https://www.ishikawatravel.jp/en/spots/natadera-temple/

https://www.japan.travel/en/destinations/hokuriku-shinetsu/

https://www.alpen-route.com/th/

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!