ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

สำรวจเกาะสึชิมะ…เกาะในตำนาน คั่นกลางปูซาน-ฟุกุโอกะ

Tsushima_Header-32b95313

ถ้าคุณกำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น และตั้งใจไว้ว่าทริปที่กำลังจะมาถึงนี้จะต้องแตกต่างไปจากเดิม คุณจะหลีกหนีผู้คนแออัดในเมืองใหญ่ จะใช้ช่วงเวลาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่จำเจ จะไปในที่ที่น้อยคนนักจะปักให้เป็นหมุดหมายหลักของการเดินทาง ถ้าคุณมองหาสถานที่แบบนั้น ทำไมไม่ลองไปที่เกาะสึชิมะดูล่ะ รับรองว่าคุณจะได้ในสิ่งที่คาดหวัง โดยที่ยังคงอยู่ในอาณาเขตประเทศญี่ปุ่น

ทำความรู้จักเกาะสึชิมะ (Get to know Tsushima Island)

เกาะสึชิมะ (Tsushima Island) เป็นเกาะหนึ่งของหมู่เกาะญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบเกาหลี ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดนางาซากิ และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของญี่ปุ่น มีพื้นที่ครอบคลุมเกาะน้อยใหญ่กว่า 70 เกาะ โดยเดิมทีนั้น เกาะหลักของสึชิมะเคยเป็นเกาะเดียวทั้งแผ่น แต่ถูกแบ่งเป็นสองส่วนเนื่องจากการขุดคลองโอฟุนาโกชิเซโตะ ในปี 1671 ก่อนจะถูกแบ่งเป็นสามในปี 1900 จากการขุดคลองมันเซกิเซโตะ โดยคลองที่ไหลผ่านใจกลางเกาะได้แบ่งเกาะออกเป็น สึชิมะเหนือ และสึชิมะใต้ มีความยาว 70 กิโลเมตร กว้าง 15 กิโลเมตร มีประชากรอาศัยประมาณ 34,000 คน เป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติถึง 89% ภูมิประเทศส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยภูเขาและป่าไม้ มีที่ราบเป็นส่วนน้อยของพื้นที่ทั้งหมด อาหารขึ้นชื่อของท้องถิ่นคือ “บะหมี่โรคุเบะ” ที่ทำจากมันหวาน และอาหารทะเลสดต่างๆ

และแม้ว่าเกาะสึชิมะจะถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น แต่กลับมีระยะทางห่างจากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้เพียง 50 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่อยู่ห่างจากเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นเมืองของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้กับเกาะมากที่สุด ด้วยระยะทางถึง 130 กิโลเมตร จึงไม่แปลกใจหากจะพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเยือนเกาะแห่งนี้ จะเป็นชาวเกาหลีมากกว่าญี่ปุ่น


ประวัติศาสตร์และความเป็นมา (The History of Tsushima)

เกาะสึชิมะตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดสึชิมะ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเกาะ ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการราวๆต้นศตวรรษที่ 6 มีเมืองหลวงคือเมืองสึชิมะ ที่เกิดจากการควบรวมเมืองทั้ง 6 จากเกาะเหนือใต้เข้าด้วยกันเมื่อปี ค.ศ. 2004 แม้จะเป็นเพียงเกาะที่โดดเดี่ยวกลางช่องแคบเกาหลี แต่เกาะแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ รวมทั้งการถูกรุกรานโดยกองทัพมองโกลในช่วงปี ค.ศ. 1274 ในสมัยของจักรพรรดิกุบไลข่าน (ยุคคามาคุระของญี่ปุ่น) ที่กองทัพญี่ปุ่นเกือบจะต้องแพ้ราบคาบหากไม่ได้พายุไต้ฝุ่นที่พัดเข้าฝั่ง ทำให้กองทัพมองโกลต้องยอมถอยทัพกลับไป แม้ก่อนหน้านั้นจะมีกำลังความสามารถพอที่จะกำราบกองทัพญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้เกาะสึชิมะยังเป็นอาณาเขตของญี่ปุ่นเช่นปัจจุบัน


การเดินทาง (Traveling)

1. การเดินทางไปยังเกาะสึชิมะ สามารถไปได้ทั้งทางเรือเฟอร์รี่และเครื่องบิน

  • โดยจะมีเที่ยวบินตรงไปยังเกาะ จากสนามบินนางาซากิ (ORC) และฟุกุโอกะ (ANA) ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
  • หากเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ให้ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือ Hakata ในฟุกุโอกะ เพื่อไปลงที่ท่าเรือIzuhara บนเกาะสึชิมะ ใช้เวลาตั้งแต่ 15-45 นาที ตามประเภทของเรือที่ใช้บริการ

2. การเดินทางภายในเกาะสึชิมะ ในปัจจุบันค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะมีวิธีการเดินทางให้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ รถบัส รถตู้พร้อมคนขับ หรือจะเช่าจักรยานปั่นชมวิวรอบเมือง หรือหากคุณต้องการสำรวจเกาะอย่างเป็นส่วนตัว ก็สามารถหาเช่ารถสักคันได้ไม่ยาก เพราะมีร้านที่ให้บริการเช่ารถอยู่มากมายหลายเจ้าเลยทีเดียว


สำรวจเกาะสึชิมะ (Explore Tshushima)

เกาะสึชิมะ เป็นหมู่เกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติถึง 89% ภูมิประเทศส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยภูเขาและป่าไม้ มีที่ราบเป็นส่วนน้อยของพื้นที่ทั้งหมด มีสัตว์และพันธุ์ไม้พื้นเมืองอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เหมาะกับการแปลงร่างเป็นนักสำรวจ ออกนั่งรถลัดเลาะไปตามพื้นที่ต่างๆ บนเกาะ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือแม้แต่ป่าเล็กๆใกล้ชายหาด ก็ดูจะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและน่าจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับนักสำรวจมือใหม่อย่างเราๆ อย่างยิ่ง แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

  • ศาลเจ้าวาทัตสึมิ (Watatsumi Shrine)

ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่กลางน้ำใจกลางเกาะสึชิมะ นับเป็นหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญของเกาะแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพเจ้าในตำนานและได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นสมบัติล้ำค่าของจังหวัดมาตลอดหลายปี จุดเด่นของศาลเจ้าวาทัตสึมิ คือ เสาประตูโทริอิทั้ง 5 ที่ตั้งเรียงกันจากแผ่นดินทอดลงสู่ทะเล โดย 2 ใน 5 ตั้งอยู่ในน้ำ ในเวลาน้ำขึ้น จะเห็นภาพของน้ำทะเลที่โอบล้อมศาลเจ้าราวกับวังของเทพเจ้ามังกร สร้างบรรยากาศลึกลับน่าค้นหา และในยามน้ำลง เราจะได้เห็นเสาโทริอิคู่นั้นเกือบทั้งต้น และสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้า

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tsushima-net.org/tourism-history/watazumi-shrine/

  • ปราสาทคาเนอิชิ (Kaneishi Castle Ruins)

ปราสาทซึ่งเคยเป็นที่พำนักของตระกูลขุนนางในยุคเอโดะ ล้อมรอบด้วยกำแพงหินซึ่งเป็นศิลปะการก่ออิฐที่มีรูปแบบเฉพาะของสึชิมะ สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการตามแบบหอสังเกตการณ์ในยุคเก่า ถูกรื้อถอนทำลายในปี ค.ศ. 1919 ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะได้รับการบูรณะขึ้นมาในปี ค.ศ. 1990 ซึ่งซากปรักหักพังของปราสาทและสวนที่ล้อมรอบภายในกำแพงหิน ได้ถูกขุดค้นและได้รับการบันทึกให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของชาติ นอกจากนั้นยังเป็นจุดที่มีทัศนียภาพสวยงามน่าประทับใจ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tsushima-net.org/tourism-history/kaneishi-castle-ruins/

  • หอดูดาวเอโบชิดาเกะ (Eboshidake Observatory)

เอโบชิดาเกะตั้งอยู่บนชายทะเลทางเหนือของอ่าวอาโสะ มีความสูงถึง 176 เมตร เป็นหอดูดาวอันโด่งดังและเป็นหนึ่งในจุดหมายหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะสึชิมะ ที่ดาดฟ้าของหอดูดาว จะมอบภาพมุมสูงแบบ 360 องศาของอ่าวอาโสะและชายฝั่งอันเว้าแหว่ง ที่ดูสลับซับซ้อนด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวนมาก และยังสามารถมองเห็นช่องแคบสึชิมะทางทิศตะวันออกและช่องแคบเกาหลีทางทิศตะวันตก

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tsushima-net.org/tourism-history/eboshidake/

  • หาดมิอุดะ (Miuda Beach)

ชายหาดมิอุดะ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะสึชิมะเหนือ เคย ได้รับการรับรองให้เป็นหนึ่งใน 100 ชายหาดที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1996 หาดมิอุดะเป็นหาดทรายขาวธรรมชาติที่เกิดจากเปลือกหอยที่ละเอียดมากทับถมกัน ซึ่งหาได้ยากมากในเกาะสึชิมะ น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกตเมื่อโดนแสงแดดตกกระทบ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้พบเห็นในรูปแบบที่แตกต่างกัน และในบริเวณใกล้ๆกันนั้นยังมี “นางิซาโนยุ” บ่อออนเซ็นที่อยู่ในโซนสำหรับตั้งแคมป์ ติดกับจุดที่มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำกันอย่างคึกคัก

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tsushima-net.org/tourism-history/miudahama/

  • หาดโคโมดะ (Komoda Beach)

ในอดีตเคยเป็นจุดที่กองกำลังติดอาวุธของทัพมองโกลได้ยกพลขึ้นมาโจมตีเกาะสึชิมะเป็นครั้งแรกโดยใช้หาดโคโมดะเป็นฐานที่มั่นในการเก็บเสบียงอาหารชั่วคราว แต่ในปัจจุบัน หากโคโมดะเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ด้วยทัศนียภาพของชายทะเลอันงดงามตัดกับหาดทรายขาวบริสุทธิ์ โดยยอดเขาริมชายหาดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองสึชิมะ และได้รับการยกย่องว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่โบราณ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.discover-nagasaki.com/static/ghost_of_tsushima/en/

  • ภูเขาชิราตาเกะ (Mount Shiratake)

ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเกาะสึชิมะ ได้รับยกย่องให้เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ประจำท้องถิ่นมาตั้งแต่โบราณ เคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่ดีที่สุดในเกาะคิวชู เขาชิราตาเกะมีป่าดึกดำบรรพ์อันล้ำค่า ภายในป่าคือการผสมผสานของพืชพันธุ์ญี่ปุ่นท้องถิ่นที่กลมกลืนไปกับพรรณไม้รกครึ้มจากยุโรป เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด จนถูกบันทึกให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น เส้นทางเดินเขาบนภูเขาชิราตาเกะ เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินป่ายอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายด้วยทัศนียภาพอันแสนยอดเยี่ยมบนยอดเขาอันคุ้มค่า แม้จะต้องเจอความหฤโหดของเส้นทางที่สูงชัน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tsushima-net.org/tourism-history/shiratake/

  • สะพานอาคาจิมะ (Akajima Bridge)

ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของใจกลางเกาะสึชิมะ อาคาจิมะเป็นสะพานโครงเหล็กสีแดงทอดข้ามระหว่างอาคาจิมะและช่องแคบโอคิโนะชิมะ โดยมีผืนน้ำสีเขียวมรกตใสบริสุทธิ์ไหลผ่านอยู่เบื้องล่าง เป็นหนึ่งในพื้นที่ทางทะเลที่มีทัศนียภาพรายล้อมงดงามตระการตาที่สุดในญี่ปุ่น

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tsushima-net.org/tourism-history/akashima-ohashi/


BY POKSAFIN

ขอบคุณข้อมูล

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B0

https://www.japan.travel/th/spot/731/

https://hmong.in.th/wiki/Tsushima_island

https://travel.trueid.net/detail/79rz0Nelq1B9

https://www.nagasaki-tabinet.com/static/ghost_of_tsushima/en/

https://www.tsushima-net.org/tourism-history/

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

RELATED POST