ความพึงพอใจในการเดินทาง
ถึงแม้จะเป็นหน้าร้อนที่แสนระอุ ผ่านพ้นลมหนาวเย็นๆของฤดูใบไม้ร่วงที่มาเยี่ยมเยือนให้เตรียมขุดเสื้อผ้าสวยๆ มาถ่ายรูปอัฟโซเชียวให้เพื่อนอิจฉากันแล้ว วันนี้เราขอย้อนเวลากลับไปหาหน้าร้อนที่ให้เราหวนนึกถึงความทรงจำดีๆกันดีกว่าค่ะ ถ้านึกถึงหน้าร้อนญี่ปุ่นถึงไม่บอกก็รู้ใช่ไหมคะว่าเราคิดถึงเทศกาลอะไร ติ๊กตอก ติ๊กตอก ปี๊ดดดดด หมดเวลา!!
ใช่แล้วค่ะงานเทศกาลดอกไม้ไฟอันยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นไม่ว่าใครก็คงอยากจะมาเก็บเกี่ยวภาพความทรงจำแสนวิเศษนี้กันสักครั้งใช่ไหมคะ งานดอกไม้ไฟในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ฮานะบิไทไกค่ะ ฮานะ(ดอกไม้) บิ(ไฟ) ไทไก(งานแสดง). แต่เอ…มาเที่ยวเองด้วย ไม่รู้จะจองที่ยังไง จะดูตารางดอกไม้ไฟยังไง สำหรับวันนี้เราจะว่าแนะนำให้ครบเครื่อง เอาเป็นว่าหายห่วงกันไปเลยดีกว่าค่ะ
สำหรับคราวนี้จะมาแนะนำ งานดอกไม้ไฟประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานนึงในภูมิภาคคันโตให้รู้จักกันนะคะ เหมาะสำหรับทริปท่องคันโตค่ะ ซึ่งนั่นก็คืองานดอกไม้ไฟเอโดะกาวะ ที่จัดขึ้นริมแม่น้ำเอโดะกาวะ เขตโอเดกาวะ จังหวัดโตเกียวค่ะ เอาละเตรียมชุดยูกาตะของคุณให้พร้อม แปลงโฉมแล้วไปกันเลยยยยยยยยย
ก่อนอื่นเอโดะกาวะมันอยู่ส่วนไหนของโตเกียวกันหนอ ดูตามแผนที่ด้านล่างได้เลยค่ะ เขตเอโดะกาวะนั้นเป็นเขตรอบนอกของโตเกียวเชื่อมต่อกับเมืองอิชิกาวะของจังหวะจิบะค่ะ เรียกว่าแค่ข้ามแม่น้ำไปก็เป็นเขตจังหวัดจิบะเลยก็ว่าได้ ที่เขตเอโดกาวะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเป็นพิเศษเป็นเขตที่อยู่อาศัยซะส่วนมากค่ะ พูดง่ายๆว่าเหมือนเขตปริมณฑลของบ้านเรานั่นเองค่ะ
งานดอกไม้ไฟแห่งเอโดะกาวะเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงกลางหน้าร้อน ซึ่งในปี 2019 นี้ก็จัดมาเป็นครั้งที่ 44 แล้วนะคะ โดยในทุกๆปีจะมีผู้คนแห่มาจองที่กันตั้งแต่เช้า เช้าขนาดไหนหน่ะหรอคะ…..เริ่มตั้งแต่ช่วง 7โมงเช้าค่ะ ที่มุมดีๆถูกจองกันไปหมดแล้ว หากไปหลังจากนั้นอาจจะต้องเดินหากันหน่อย แต่ก็ยังมีโลเคชั่นดีๆเหลืออยู่ค่ะ แต่สำหรับจะจองที่กว้างๆนั่งหลายๆคนอันนี้แนะนำว่าอย่าไปเกิน 9โมงเช้านะคะ เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่เตือน TvT
ส่วนคนจะเยอะขนาดไหนนั้นก็ไม่มากไม่มายค่ะ แค่จำนวนคนไปชมจากฝั่งโตเกียว(ไม่รวมอีกฝากของแม่น้ำ)ก็ปาเข้าไป 900,000 คนเข้าไปแล้วค่ะ เอาเป็นว่าแค่นี้คงรับประกันได้ว่าเป็นงานที่มีค่าควรไปชมสักครั้งในชีวิตก็ดูจะไม่ได้โอเวอร์ไปเลยใช่ไหมละคะ เอาละหลังจากได้รับข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับงานดอกไม้ไฟเอโดกาวะไปแล้วไปชมภาพตั้งแต่เริ่มไปจองที่จนถึงภาพดอกไม้ไฟสวยๆกันดีกว่า เอ้า! เลื่อนลงไปโลดดด
สำหรับวันที่ดูดอกไม้ไฟเราขอแนะนำตารางดังนี้ค่ะ
เช้า >> เดินทางไปจองที่นั่งชมดอกไม้ไฟเอโดะกาวะ ควรถึงไม่เกิน 9โมงเช้าสำหรับโลเคชั่นทั่วไป และไม่ควรถึงเกิน 8 โมงสำหรับโลเคชั่นดีๆ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการวิวพรีเมี่ยมถ่ายรูปพรีเมี่ยมแนะนำให้เข้ากว่า7โมงค่ะ
กลางวัน>> เที่ยวชมภายในโตเกียว เช่นวัดอาซากุซะ โตเกียวสกายทรี เป็นต้น
ส่วนตัวที่เราแนะนำวัดอาซากุซะเพราว่าใส่ชุดยูกาตะทั้งทีก็มารัวกล้องให้เข้าบรรยากาศหน้าร้อนญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
เย็น >> เดินทางกลับไปยังเอโดกาวะ
****หลังงานจบ จินตนาการคน 9 แสนคนเดินทางกลับพร้อมกันนะคะ OMG แค่พูดก็บรรยายยากแล้วเนอะ เพราะฉะนั้นหลังจากงานเลิกแนะนำให้รอจนคนซ่าก่อนค่อยเดินทางกลับดีกว่าค่ะ ถ้ากลับก่อนจะเสียดายโชว์ฟีเนเร่นะเออ****
โปรแกรมไปดูดอกไม้ไฟกันวันนี้มีเมมเบอร์ 9 คนค่ะ เป็นกลุ่มค่อนข้างใหญ่เราเลยต้องออกเดินทางไปจองกันตั้งแต่เช้าสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Shinozaki station สาย Toei Shinjuku line (สีเขียวอ่อน) จากสถานสามารถเดินไปถึงจุดจองที่ได้ใน15นาทีค่ะ หรือจะนั่งรถบัสจากหน้าสถานีไปก็มีบริการนะคะ ลงที่ป้ายAsamajinja ประมาณ6นาทีค่ะ แต่รอบบัสมีไม่มากถ้าจะนั่งบัสก็ต้องเช็คตารางกันให้ดีนะคะ
หรือจากแผนที่ด้านบนก็สามารถเดินตรงตามเส้นทางไปได้เลยค่ะ แล้วในระหว่างทางเราก็จะเจอเพื่อนร่วมทางที่จะไปจองที่ด้วยมากมาย รับรองว่าไม่มีหลงค่ะ เย้! หลังจากนั่งรถไฟมาถึงShinozaki stationแล้วเดินทางมาถึงจุดที่เราสามรถจองที่แล้วในเวลา 8 โมง 15 นาที แล้วนี่คือสิ่งที่เราเจอค่ะ…..ทะเลแห่งผ้าปูรองนั่ง (ฮา)
จากนั่นเราก็เดินทางที่ลงหลักปักฐานแล้วก็จัดการปูจองที่นั่งของเราค่ะ ด้านหลังอาจจะเห็นว่ายังไม่ค่อยมีผ้ามาปู แต่นี้คือบริเวณที่เราเดินห่างออกมาจากจุดยิงดอกไม้ไฟมาประมาณนึงแล้วค่ะ ตรงใกล้ๆไม่มีที่ว่างเหลือเลยจริงๆToT พอเราจองเสร็จเพื่อไม่ให้ลืมว่าอันไหนของเราก็เอาเทปมาเขียนเป็นชื่อไว้เลยค่ะ ปลอดภัยหายห่วง
– ต่อสู้กับลมจนปูเสร็จเรียบร้อยแล้วจ้า แอร๊ยยยย รอจนกลางคืนไม่ไหวแล้วววว-
นอกจากเขียนชื่อแล้วอย่าลืมถ่ายรูปจุดสังเกตุกันเอาไว้ด้วยนะคะ ไว้เวลาเรากลับมาตอนเย็นๆบรรยากาศเปลี่ยน คนจำนวนมหาศาลจะได้ไม่หลงค่ะ คราวนี้ที่นั่งเราอยู่ตรงบันไดหมายเลข 13 แหม เลขสวยซะด้วย ;D
จองที่เสร็จเรียบร้อยในตอนเช้า ดอกไม้ไฟจะเริ่มตั้งแต่ 1ทุ่ม15นาทียาวไปถึง 2 ทุ่มครึ่ง จุใจเต็มอิ่มไปเลยกัน 75 นาทีแห่งความอลังการยามค่ำคืนค่ะ เรื่องควรระวังเรื่องเวลาอันนี้คือต้องกะให้ดีนะคะ เพราะช่วงก่อนเริ่มงามคนจะเยอะมาก ทั้งมีร้านยะไต(ร้านอาหารงานวัดแบบแบบเรา)ขายตามทางมากมาย การจราจรในการเดินจะใช้เวลาค่อนข้างนานค่ะ (คนมันเยอะมากจริงๆ) เราขอแนะนำให้กะเวลาถึงShinozaki stationภายใน 5โมงครึ่งแล้วมาเดินหาอะไรทานชิวๆ ซื้ออาหารเครื่องดื่มเอากลับไปยังที่นั่งจองจะเซฟที่สุดค่ะ เพราะใกล้ยิ่งเวลามากๆก่อนเริ่มงานระยะทางที่เราสามารถเดินได้ภายใน 15 นาทีอาจจะใช้เวลา 40นาที-1ชั่วโมงได้เลยค่ะ
หลังจากที่เราไปจองที่กันเสร็จ ออกกันไปทั้งหน้าสดๆเลยจ้า มาที่นี้ก็กลับที่พักมาเตรียมแปลงโฉมเป็นสาวญี่ปุ่นเตรียมไปอาซากุสะกันแล้ว ยูกาตะ เครื่องสำอาง ดอกไม้ติดผม รอยยิ้ม ครบ!!! แปลงร่างงงงง
ฝ่ามวลมนุษย์ให้ได้รูปสวยๆ
เพิ่มพร็อปถ่ายรูปด้วยน้ำแข็งใส
เนื่องจากหัวข้อแนะนำของเราในวันนี้ไม่ได้เที่ยวที่วัดอาซาคุสะเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงไม่ขอลงรายระเอียดเกี่ยวกับวัดนะคะ
แต่สิ่งที่อยากแนะนำของที่นี่เลยนอกจากร้านของฝากที่อยู่ในลานวัดแล้ว อย่าลืมลิ่มรสขนมปังเมล่อนกับไอศกรีมร้านประจำของอาซาคุซะกันด้วยนะ!! อากาศร้อนๆ ไอศกรีมเย็นๆ เมล่อนปังรสเลิศ โอ๊ย ฟินเฟร้อค่า และด้วยเวลาที่ไม่มีมากนัก บวกกับกลัวคนจะเยอะ พวกเราเลยรีบเดินทางกลับไปที่เอโดกาวะค่ะ เอาจริงๆเลยคือถ่ายรูปจนเหนื่อย
เรามาถึงShinozaki station ตอนประมาณ 5 โมงครึ่งค่ะ กำลังเดินได้สบายๆ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่โอเคมากค่ะฟ้ากำลังเริ่มครื้มๆ พวกเรา 3 หน่อเดินทางมาถึงก่อนแล้วเดี๋ยวเพื่อนคนญี่ปุ่นที่เหลือจะเดินทางมาสมทบค่ะ
แม้นยังไม่มีวิวสวยๆ พวกเราก็ยังคงหาเรื่องถ่ายรูปกันต่อได้ ความบ้ากล้องมันรักษาไม่หายค่ะ(ฮา)
ดูค่ะ ข้างหลังนั่น!! กองทัพมดเจแปนกำลังทยอยมาแล้วค่ะ !! เยอะจริงๆ
จากจำนวนผู้มาร่วมงานเกือบล้าน เพื่อนๆคนญี่ปุ่นของเราที่กะเวลาพลาดเดินทางมาถึงร่วม1ทุ่มค่ะ ก่อนเวลาจุดดอกไม้ไฟแปปเดียวเท่านั้น นางบอกว่ามาถึงสถานที่ตั้งแต่6โมงนิดๆแล้วแต่คนเยอะมากกว่าจะกระดืบๆมาถึงใช้เวลาไปนานมากๆค่ะ(ประมาณ45นาที) เพราะงั้นย้ำอีกครั้งนะคะ กะเวลาดีๆค่ะ
และแล้วเวลาที่เรารอคอยก็มาถึงฟ้าพลบค่ำ…..อากาศเริ่มเย็นสบาย ลมอ่อนๆบรรยายกาศดีมากค่ะ ดอกไม้ไฟชุดแรกมาแล้ว
สีแดงสดตัดกับสีท้องฟ้ามากๆ
รูปแบบและสีสันหลากหลาย
ฟ้าเริ่มมืดสนิทแล้ว ยิ่งเสริมให้ดอกไม้ไฟสวยเด่นกลางท้องฟ้ามากๆเลย
สวยขนาดนี้ ยิ่งอยากให้ทุกคนมาเห็นด้วยตาตัวเอง แค่ภาพถ่ายบรรยายความงามออกมาไม่พอจริงๆ
ลูกนี้ใหญ่มากๆ สว่างท้องฟ้าสวยงามมากๆ
ใครว่าดอกไม้ไฟจะต้องสีร้อนแรงตลอดเวลา. ส่วนตัวชอบสีโทนเย็นแบบนี้ สีน่ารักๆแบบนี้ก็มีน้า
เหมือนฉากในมังงะ หลุดออกมาให้เห็นเลยค่า >////<
ดอกไม้ไฟก็จะจุดลูกเดี่ยวๆสวยๆแบบนี้สลับกับจุดแบบเป็นชุดใหญ่ไปตลอด1ชั่วโมง 15นาที
อลังการอ้าปากค้าง ยิ่งจองที่นั่งได้ดี ความฟินยิ่งทวีคูณ
แถมอีก 1 ภาพ ให้ได้ชมกัน
เป็นยังไงกันบ้างคะ สวยถูกใจจนอยากมาชมด้วยตาตัวเองเลยใช่หรือเปล่า รูปภาพต่างๆที่นำมาให้ชมกันนี้ยังไม่รวมชุดฟิเนเร่นะคะ ชุดฟิเนเร่ตระการตาตรึงใจยิ่งกว่ารูปที่นำมาฝากเป็นเท่าตัวเลยละค่ะ โดยชุดการจุดรูปแบบชนิดของดอกไม้ไฟจะเปลี่ยนไปในทุกๆปี ไม่มีเบื่อเลย. และแล้วก็ถึงเวลากลับกันค่ะ เนื่องจากจำนวนคนมหาศาลแม้ว่าดอกไม้ไฟจะจบลงไปแล้วตั้งแต่ 2 ทุ่มครึ่ง แต่เราก็นั่งคุยรอกันไปเรื่อยๆจนคนซาแล้วถึงเดินทางกลับที่พักพร้อมความประทับใจแบบหน้าร้อนญี่ปุ่นแท้ๆ มาญี่ปุ่นทั้งทีไม่ลองมาสัมผัสบรรยากาศงานดอกไม้ไฟกันหน่อยหรอคะ?<3.
คำแนะนำในการวางแผนท่องเที่ยวงานดอกไม้ไฟญี่ปุ่น
English website: https://livejapan.com
Japanese website: https://hanabi.walkerplus.com
สิ่งที่ต้องเตรียมในการจองที่
1: ผ้าปูรองนั่ง สามารถหาซื้อได้ตามร้านร้อยเยนแนะนำว่าหากมาจองแต่เช้าให้ซื้อเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าค่ะ. ที่สถานีShinozaki station ก็มีร้านร้อยเยนอยู่ใกล้กับสถานีหลายร้านค่ะ แต่ว่ากว่าจะเปิดทำการก็ประมาณ9โมงครึ่งหรือ10โมง
2: หมุดตรึงผ้าปูรองนั่ง. อันนี้ก็ซื้อได้จากร้านร้อยเยนค่ะ
3: เทป. เทปใช้ติดระหว่างผ้าปูรองนั่งกับใช้แปะชื่อ
รายละเอียดของงานดอกไม้ไฟเอโดกาวะ
จำนวนดอกไม้ไฟ : ประมาณ 14,000 ลูก
ระยะเวลา : ประมาณ 75 นาที (เริ่มจุด 1ทุ่ม 15นาที ถึง 2ทุ่ม 30 นาที)
กำหนดการ : ต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี
สถานีใกล้เคียง : Shinozaki station
จำนวนคนมาร่วมงาน : ประมาณ 9 แสนคนในฝั่งโตเกียว (หากรวมฝั่งจิบะด้วยมากกว่า 1ล้านคน)
HP Edogawa city. https://www.city.edogawa.tokyo.jp