สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวที่ Tateyama Kurobe Alpine Route ซึ่งเป็นสถานที่ในฝันของผมที่นึงเลยครับ อยากไปดู Snow Wall ของจริง แฟนผมขนาดเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ ยังไม่เคยได้ไปเที่ยวเลย การเดินทางไปไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ แค่หลายต่อมากๆแค่นั้น บางคนจึงตัดสินใจไปทัวร์ครับจะได้สะดวกสบายกว่า การเดินทางไปยัง Tateyama Kurobe Alpine Route นั้นสามารถเดินทางได้จาก 2 ฝั่ง คือจาก Toyama และ Nagano ครับ โดยผมเริ่มต้นเดินทางจากฝั่ง Toyama ครับ 
ขอบคุณภาพแผนที่จากเว็บไซต์ทางการของ Tateyama ครับ 
เริ่มต้นเดินทางจากสถานี Dentetsu Toyama ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Toyama ครับ รถไฟขบวนนี้เป็นรถไฟสายเอกชนครับดังนั้นจึงไม่รวมอยู่ใน Japan Rail Pass ครับ ต้องซื้อตั๋วแยกเองครับ ภายในรถไฟ เก่านิดหน่อยแต่สะอาดมากครับ เราไม่ต้องกลัวหลงครับ เพราะเรานั่งไปลงสุดสายครับที่สถานี Tateyama 
ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำครับ สูงและสวยงามมาก 
และแล้วเราก็มาถึง Tateyama Station ครับ เรามาถึงประมาณ 6 โมงเย็นพอดีครับ หน้าตาของรถไฟที่เรานั่งมาครับ 
เราได้เข้าพักที่เรียวกังชื่อว่า Tateyama Kan ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เดินประมาณ 3 นาทีถึงครับ เราไม่สามารถจองเรียวกังนี้ผ่าน Agoda หรือ Booking ได้ครับ ต้องจองผ่านเว็บไซต์ท้องถิ่นของญี่ปุ่นเท่านั้นซึ่งมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นครับ 
ที่พักของเราในคืนนี้ครับ มีออนเซนด้วยนะครับที่นี่ ถึงแม้จะดูเก่าไปหน่อย แต่ก็ได้เรื่องของความสะอาดและความสะดวกในการเดินทางครับ 
อาหารเย็นของเราในคืนนี้ครับ เป็นอาหารท้องถิ่น และหน่อไม้ที่เห็นเจ้าของเรียวกังแจ้งว่าเค้าเป็นคนเข้าไปเก็บเองในป่าบริเวณข้างๆภูเขาครับ มีให้ทานเฉพาะบางช่วงเท่านั้นนะครับ แต่รสชาติอร่อยดีครับ มีผักบางอย่างที่ผมทานไม่ได้ก็ให้แฟนกิน 5555 หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วเราก็เข้านอนครับ เนื่องจากวันรุ่งขึ้นเราต้องตื่นตี 4 ครึ่งเพื่อไปจองคิวซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปยัง Tateyama Kurobe Alpine Route กันครับ เมื่อได้ตั๋วรอบ 7.30 น. มาแล้วเราก็นอนต่อ แลพตื่นมาตอนเช้าเพื่อไปขึ้นเขากันครับ 
บรรยากาศหน้าเรียวกังตอนเช้าครับ หมอกลงจัดมาก 
บริเวณหน้าสถานี Tateyama ที่เราจะขึ้น Cable Car กันครับ 
บริเวณทางเข้าไปยัง Cable Car ครับ 
ทางขึ้นค่อนข้างชันเลยครับ ผ่านหลายอุโมงค์มาก หมอกลงตลอดทางเลยครับ หลังจากที่ลง Cable Car ที่สถานี Bijodaira แล้วเราก็ต้องต่อรถบัน Tateyama Highland Bus เพื่อขึ้นไปยังสถานี Murodo ครับ 
ถ้าได้ขึ้นรถก่อน และนำให้นั่งด้านหน้าสุดฝั่งซ้ายครับ เพราะจะได้ชมวิวของน้ำตกโชเมียวครับ 
ต้นอะไรซักอย่างจำชื่อไม่ได้ครับ แต่เค้าบอกต้นนี้อายุไม่ใช่น้อยๆครับ จำไม่ได้ครับ 
เห็นน้ำตกโชเมียวอยู่ไกลๆครับ วิว 2 ข้างทางสวยมาก รถบัสจะมาจอดที่สถานี Murodo ซึ่งเป็นสถานีที่มี Snow wall ครับ แต่ผมจะยังไม่ไปเที่ยวที่ Snow Wall ผมจะนั่ง Tateyama Tunnel Trolley Bus เพื่อไปยังสถานี Daikanbo ก่อนครับ Tateyama Tunnel Trolley Bus จะเป็นรถบัสไฟฟ้าวิ่งลอดอุโมงค์ที่ลอดใต้ภูเขา Tateyama ครับ ระยะทางค่อนข้างยาวเลย ถือว่าเค้าเก่งมากนะที่สร้างได้ขนาดนี้ 
หน้าตาของรถไฟฟ้าครับ 
ระหว่างทางสามารถถ่ายรูปได้แต่ห้ามใช้แฟลชเด็ดขาดครับ เพราะแสงสะท้อนจะส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ครับ 
มีทางหลบสำหรับรถที่มาฝั่งตรงข้ามครับ 
เมื่อถึงสถานี Daikanbo เราก็ต้องนั่ง Tateyama Ropeway ต่อเพื่อไปยังสถานี Kurobedaira ครับ 
คนค่อนข้างเยอะเลยครับเนื่องจากผมมาในช่วง Golden Week ของที่นี่พอดีครับ 
การเดินทางของเรายังไม่สิ้นสุดแค่นี้ครับ เมื่อถึงสถานี Kurobedaira แล้วเรายังต่องนั่ง Kurobe Cablecar เพื่อไปยังสถานี Kurobeko ครับ 
สถานี Kurobeko ครับ ถึงแล้วสำหรับที่แรกที่เราจะเที่ยวกันครับ 5555 
เขื่อนคุโรเบะมีความสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล,ความสูงตัวเขื่อน 186 เมตร เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบโค้ง(Arch dam) ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ปริมาณการระบายน้ำ : 10 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ปริมาณการเก็บกักน้ำ : 2 พันล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อปี : 1 หมื่นล้าน kWh 
สวยงามมากครับ คุ้มค่าแก่การนั่งรถหลายต่อเพื่อมาเที่ยวที่นี่มากเลยครับ 
ถ้ามาเที่ยวช่วงฤดูร้อน จะมีบริการล่องเรือชมวิวในเขื่อนด้วยครับ หลังจากที่เราเที่ยวเขื่อนกันจนเป็นที่พอใจแล้ว เราก็นั่งรถกลับไปทางเดิมเพื่อเที่ยวสถานที่อื่นครับ โดยต่อไปเราไปเที่ยวที่จุดชมวิว Daikanbo ครับ จุดนี้เราชอบมาก สวยมากครับ 
สวยงามมากครับ น้ำตาจะไหล หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยวที่กำแพงหิมะกันครับ โดยเรานั่งรถย้อนกลับไปที่สถานี Murodo ครับ 
มุมนี้คือสุดยอดมากครับ มีทะเลหมอกด้วยครับ งามมาก 
จุดที่สูงที่สุดของกำแพงหิมะครับ สุดยอดมากเลยครับ คุณจะได้เห็นกำแพงหิมะสีขาวสูงท่วมหัวทั้งทางด้านซ้ายและขาวมือ ซึ่งกำแพงหิมะนี้เกิดจากหิมะที่ตกซ้ำๆสะสมมาตั้งแต่ฤดูหนาวจนถึงฤดูใบไม้ผลิ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการละลายหิมะส่วนที่เป็นถนน จึงเกิดเป็นกำแพงที่มีความสูงหลายเมตร แต่ละปีก็ความสูงไม่เหมือนกันครับ โดยปีนี้ได้จัดงานเทศกาลกำแพงหิมะ (SNOW WALL FESTIVAL2019) ระหว่างวันที่ 15 เมษายน – 22 มิถุนายน 2562 จุดไฮไลท์ก็คือการได้ไปยืนเดินชม 2 ข้างทางขาวโพลน มีหิมะสูงกว่า 20 เมตร แบบนี้มีที่เดียวในโลกครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่อยากไปเที่ยวที่นี่กันนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ บายๆๆ
