ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

วิธี Tax refund ขอคืนภาษีที่ญี่ปุ่น 2024 : ซื้อสินค้าญี่ปุ่นปลอดภาษี รู้ไว้ก่อนสบายใจ Duty Free in Japan

IMG_6258

ขอทักทายนักท่องเที่ยว สายช็อปทุกท่าน  เพราะบทความนี้เอามาฝากสายช็อปโดยเฉพาะเลยคะ   ทุกท่านคงทราบดีว่าญี่ปุ่นนี้คือสวรรค์ของการช็อปตัวยงทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรี แม้แต่เด็กเล็กและผู้สูงอายุก็ต้องสิโรราบให้กับสินค้าของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้าแบรนด์เนม เครื่องสำอางค์ ขนมของกินของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่นเด็ก ของเล่นผู้ใหญ่ และอีกมากมาย เรียกได้ว่า ขนกันมาเป็นกี่คนก็ต้องหมดตัวกันตามตามกัน  คนมาเที่ยวญี่ปุ่นนี้หลายคนมาเพื่อช็อปปิ้งเป็นหลัก เรื่องเที่ยวเป็นรองนี้ก็เยอะอยู่  แต่อย่างไรก็ตามจะช็อปทั้งทีก็เอาคุ้มกันสักหน่อยดีกว่า ภาษีมูลค่าเพิ่มถึงจะไม่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็จริงอยู่ แต่ถ้าเผลอช็อปปิ้งเพลิน ลืมขั้นตอนบางอย่าง การมาซื้อของที่ญี่ปุ่นอาจจะแพงกว่าซื้อที่บ้านเราซะงั้นไป@-@

ส่วนใหญ่ที่ทุกคนนึกถึงร้านดิวตี้ฟรีก็คงไม่พ้น สนามบิน  กันซะส่วนใหญ่ แต่จริงๆแล้วมีหลายๆบริษัทที่พยายามจะปรับรูปแบบทางธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว  ตั่งแต่ปี 2018 มีร้านค้าปลอดภาษีผุดขึ้นมารวมๆทั้งหมด กว่า 44,646 ร้าน และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีกแน่นอน และปัจจุบันมีการจ้างพนักงานต่างชาติเพิ่ม และมีการฝึกฝนพนักงานให้พูดภาษาต่างประเทศได้มากขึ้น ในปัจจุบันที่ญี่ปุ่นมีร้าน Duty Free มากมายเกิดขึ้น จนแน็ตเองก็จำไม่ได้แล้วว่าร้านที่เราเคยผ่านนี้อยู่ๆเปลี่ยนเป็นร้าน Duty Free (ร้าน Tax refund ญี่ปุ่น) ได้อย่างไร

CR:https://us.jnto.go.jp/blog/more-duty-free-items-in-japan/

★★★  สัญลักษณ์ในรูปนี้หากมีแปะไว้ที่ไหนก็สามารถรู้ได้เลยว่า สามารถขอภาษีคืน (Tax refund) ได้แน่นอน

เงื่อนไขในการขอคืนภาษี (Tax refund) ญี่ปุ่น

1)ต้องเป็นผู้ถือวีซ่านักท่องเที่ยวระยะสั้น (Temporarily Visitor) วีซ่านักเรียนเกิน6เดือน…อดไปจ้าา><”

* คนญี่ปุ่นที่ไม่ได้พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น อาจมีสิทธิได้รับการยกเว้นภาษีในบางกรณี

2) ใช้กับสินค้าอุปโภค-บริโภคส่วนบุคคลในญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อจำหน่าย

3) ต้องทำเรื่องขอคือภาษี ร้านค้าที่ซื้อ หรือ เคาเตอร์ Tax refund ภายในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้น  

ไม่สามารถดำเนินการขอคืนภาษี (Tax refund)ในภายหลัง เช่น ที่สนามบินได้ การดำเนินการนั้นจำเป็นต้องแสดงหนังสือเดินทางที่มีตราประทับเข้าประเทศที่ร้านค้าที่ซื้อสินค้า ไม่สามารถใช้สำเนาในการยื่นเรื่องขอยกเว้นภาษีได้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางเรือสำราญจำเป็นต้องมีหนังสืออนุญาตเข้าประเทศเพื่อท่องเที่ยวทางเรือ

4) สินค้าที่ของดเว้นภาษีได้ต้องมีมูลค่า 5000เยนขึ้นไป

สินค้าแต่ละประเภทมีรายละเอียดและเงื่อนไขการยกเว้นภาษีที่แตกต่างกัน กรุณาตรวจสอบรายละเอียดจากภาพอธิบายดังต่อไปนี้

CR:https://tax-freeshop.jnto.go.jp

Let’s Check !!! ลองมาดูว่าให้ละเอียดกว่านี้กันคะ

CR:https://tax-freeshop.jnto.go.jp

★ ข้อควรระวัง ไม่สามารถรวม 2 ประเภทสินค้าแล้วขอคืนภาษี (Tax refund) ได้

    CR:http://www.passportchop.com

วิธีการทำ Tax refund ที่ญี่ปุ่น

ขั้นตอนการขอภาษีคืนนั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละร้านค้า แต่หลักจะมีอยู่ 2 แบบ ด้วยกัน คือ
(แบบที่1) แสดงพาสปอร์ตตอนชำระเงิน เพื่อหักภาษีออกจากราคาทันที
(แบบที่ 2 ) หลังจากที่ชำระค่าสินค้าทั้งหมดแล้ว จะต้องไปทำเรื่องขอรับเงินภาษีที่จ่ายไปคืน ณ เคาน์เตอร์
สำหรับขอภาษีคืน (Tax refund) ซึ่งเมื่อไปถึงแล้ว จะต้องมีการแสดงสินค้าที่ซื้อไปทั้งหมด ใบเสร็จ และพาสปอร์ต
โดยจะต้องขอภาษีคืนภายในวันที่มีการซื้อสินค้า

<สิ่งที่ต้องทำที่ร้านค้าเมื่อต้องการขอภาษีคืน (Tax refund)>
1) แสดงพาสปอร์ต
2) กรอกข้อมูลสินค้าที่ซื้อ
3) เซ็นลายมือชื่อผู้ซื้อ
4) การชำระค่าสินค้าและการรับสินค้า

<สิ่งที่ต้องทำที่สนามบิน>
5) แสดงใบบันทึกสินค้าปลอดภาษีอากรขาออก

6) เดินทางออกนอกประเทศ
หากผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ศุลกากรแล้ว จะถือว่าขั้นตอนการขอภาษีคืนทั้งหมดเสร็จสิ้นลง

ร้านค้าปลอดภาษี (Tax refund) ที่แนะนำ 1: LOTTE

CR:http://en.lottedfs.com/branchGuide/142/intro

ที่ร้านค้าปลอดภาษีหรือ Duty Free แห่งนี้เป็นบริษัทที่ดังมากเป็นอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะไม่ใช่บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นก็ตาม แต่ด้วยความสถานที่ใหญ่โต ถือว่าใหญ่สุดในโตเกียว สาขากินซ่าลยก็ว่าได้ มีสินค้าให้ช้อปอย่างจุใจบนพื้นที่กว่า 4,400 ตารางเมตร สินค้าแบร์นดชั้นนำกว่า200 แบรนด์ อาทิ MCM ,Casio,Tissot,Gucciเป็นต้น และ อีกสาขาที่ สนามบินคันไซ (Kansai international Airport) ร้านค้าที่สาขานี้จะมีเครื่องสำอางแบรนด์เกาหลีมากมายและแทบจะทุกคอลเลคชั่นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Sulwhasoo และ Whoo หรือแม้แต่แบรนด์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Gucci, Tom Ford, Ray-Ban และ Prada ซึ่งมีทั้งแว่นกันแดด นาฬิกาแฟชั่น และกระเป๋า ให้ช้อปกันได้อย่างสะดวกสบายและเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ช้อปก่อนที่จะเดินทางออกนอกประเทศ

ข้อดี รับสินค้าได้ที่สนามบิน

สามารถรับสินค้าที่ซื้อไว้และกระเป๋าเดินทางอื่นๆ ได้ที่สนามบิน (ฮาเนดะ/นาริตะ) ซึ่งหมายความว่าคุณไปถึงสนามบินได้โดยไม่ต้องถือสัมภาระใดๆ
นอกจากสินค้าที่คุณซื้อไว้ ร้านปลอดภาษี Lotte Duty Free Ginza ยังมีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทางฟรี 7 วันในระหว่างทริปของคุณ เพื่อให้คุณสนุกกับการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งได้มากตามต้องการ

สาขา TOKYU PLAZA GINZA ชั้น 8 และ 9

ที่อยู่: ห้างสรรพสินค้า TOKYU PLAZA GINZA ชั้น 8 และ 9, 5-2-1 ย่านกินซ่า เขตชูโอ โตเกียว
การเดินทาง: เดิน 1 นาทีจากสถานีกินซ่าของรถไฟโตเกียวเมโทร/เดิน 4 นาทีจากสถานียูระคุโจของรถไฟ JR
เวลาทำการ: 11:00 a.m.~9:00 p.m.
วันหยุดทำการ: ปีละสองครั้ง (ตามวันหยุดทำการของห้างสรรพสินค้า TOKYU PLAZA GINZA)
Tel :+81-3-6264-6860
E-mail :[email protected]

ส่วนลด ร้าน Lotte Duty Free สาขากินซ่า โตเกียว

สาขา Kansai Airport Store

CR:http://en.lottedfs.com/branchGuide/142/intro

ที่อยู่:Immigration 3rd Fl. Terminal No.1, Kansai Airport

เวลาทำการ: 07:00~24:00

Tel :+81-72-456-6543

ข้อควรระวังเมื่อต้องการขอภาษีคืน (Tax refund)

●ใช้ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นจากสนามบินฮาเนดะหรือสนามบินนาริตะ หรือ คันไซภายใน 30 วัน
●ต้องแสดงหนังสือเดินทางและตั๋วเครื่องบินของคุณเมื่อซื้อสินค้า (เอกสารที่สามารถยืนยันการเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่นไปยังประเทศอื่น)

ร้านค้าปลอดภาษี (Tax refund) ที่แนะนำ 2: LAOX

CR:https://www.laox.co.jp/en/stores/akihabara/

ร้าน Laox เป็นร้านขายสินค้าปลอดภาษีขนาดใหญ่ โดยมีทั้งหมด 38 สาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบริษัทดิวตี้ฟรีที่มีสาขาเยอะมากเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และในแต่ล่ะสาขาก็มีสินค้าที่เน้นแตกต่างกันไป

CR:https://www.laox.co.jp/en/stores/niigataairport/

  ร้านนี้จำหน่ายสินค้าทุกชนิดตั้งแต่เครื่องใช้ในบ้าน,เกม,ของเล่น,เครื่องสำอาง สินค้าจำพวกแฟชั่น,ของฝาก ขนมซึ่งในแต่ล่ะสาขาจะเน้นไม่เหมือนกัน แต่ที่เน้นมากที่สุดคือส่วนใหญ่จะวางสินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่น Made in Japan เป็นหลัก

Laox เป็นหนึ่งในร้านของประเทศญี่ปุ่นที่เก่าแก่  Laox ได้เริ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 1930 ซึ่งหลังสงครามจบลงได้ไม่นาน ก็ได้เปิดสาขาที่ย่าน Akihabara หลังจากนั้น ก็เป็นที่รู้จักในฐานะร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ และLaox ก็กลายมาเป็นร้านชื่อดังในปี 1976 และได้กลายเป็นรู้จักทั่วประเทศจากโฆษณาทางทีวี

ที่นี่ก็เป็นอีกร้านที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด อย่างที่กล่าวข้างต้น Laox เคยเป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า เหมือน Yodobashi Camera กับ Big Camera นั่นเอง แต่ตอนหลังเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขี้นในปัจจุบัน ทำให้ทางร้านได้เปลี่ยนจากร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเป็นร้านจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวเป็นหลัก ร้านนี้นอกจากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนไทยสามารถไปซื้อหิ้วกลับบ้านได้ เพราะมีสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า 220V  ซึ่งถ้าเทียบกับร้าน โยโตบาชิคาเมร่า ร้านบิ๊กคาเมร่า ก็อาจจะเรียกได้ว่าสะดวกในการหาของที่ต้องการมากกว่า ที่นี่มีการรวบรวมเอาไว้ให้เราได้ช็อปกันสะดวกากขึ้น ทั้งนี้ที่ร้านนี้เองก็มีการจัดจ้างพนักงานต่างชาติเยอะพอๆกับคนญี่ปุ่น  ทุกสาขาจะมีพนักงานที่พูดภาษาจีน อังกฤษ ฝรั่งเศษ หรืออาจมีภาษาไทยบ้างในบางร้าน

CR:https://www.sankei.com/economy/photos/150605/ecn1506050031-p1.html

  นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการร้านนี้ 60-70% เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ไตหวัน อีก 10% เป็นชาวเวียดนาม ที่เหลือเป็น คนไทย, คนฟิลิปปินส์, คนอินโดนีเซีย, คนอเมริกันและฝรั่งเศส

การขอคืนภาษี (Tax refund) ของที่นี่จะเป็นแบบชำระเงินแล้วหักภาษีออกไปให้เลย

เมื่อชำระเงินจะมีการเรียกขอพาสปอร์ตเพื่อทำการหักภาษีให้ ณ ที่เราจ่ายไปเลยไม่ต้องยุ่งยากอะไร จะมีเอกสารการซื้อและการหักภาษีติดมาที่ในหนังสือเดินทางของเรา โดยหลักการหักภาษีนั้นก็เหมือนร้านDuty free ทั่วๆไป เงื่อนไขคือ ต้องซื้อ

สินค้าประเภทบริโภค (หรือใช้แล้วหมดไป เช่น เครื่องสำอางค์ ขนม ยาเป็นต้น)  5,001 เยนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 500,000 เยน (คำนวณจากราคาสินค้าแต่ละชิ้นที่รวมภาษีแล้ว)

อีกประเภทก็คือ สินค้าอุปโภค(เครื่องใช้ไปฟ้า มีด แก้วน้ำ ของตกแต่งบ้าน กระเป๋า นาฬิกา เป็นต้น)จะต้องซื้อสินค้าภายในร้านเดียวกันรวมมูลค่าตั้งแต่ 10,001 เยนขึ้นไปแต่ไม่เกิน 500,000 เยน (คำนวณจากราคาสินค้าแต่ละชิ้นที่รวมภาษีแล้ว)

☆ ข้อควรระวังเมื่อต้องการขอภาษีคืน (Tax refund) 

● ก่อนชำระเงินควร คำนวณดูก่อนว่ามูลค่าของสินค้ารวมกันแล้วอยู่ในประเภทไหน ลดภาษีได้ไหม เพราะถ้าเราชำระเงินไปแล้วอาจไม่สามารถกลับไปคืนได้สินค้าแล้วขอคิดเงินใหม่ได้คะ

● อย่าลืมเอาPassport ไปด้วยนะคะ

☆ ข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ : https://www.laox.co.jp/

ร้านค้าปลอดภาษี (Tax refund) ที่แนะนำ 3: ดองกิโฮเต้(Don Quijote)

CR:https://planetyze.com/ja/japan/tokyo/don-quijote-akihabara

   เป็นอีกร้านที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ร้านนี้ถือว่าเป็นอีกร้านที่โด่งดังมาก และมีจำนวนลูกค้าใช้บริการทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติ เนื่องจากราคาสินค้าที่ถูก เรียกว่าราคาดีงาม สินค้าหลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าทุกเพศทุกวัย มีทั้งขนม อาหารสด เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแบร์นด นาฬิกา สินค้าแบร์นดเนมมือสอง ของเล่นเด็ก ของเล่นผู้ใหญ่ เกมส์ต่างๆ และเครื่องสำอางค์มากมาย สัญลักษณ์รูปนกเพนกวิน แสนน่ารักของร้านนี้ก็มีส่วนดึงดูดลูกค้าวัยรุ่นญี่ปุ่นมากเช่นกัน  ที่สำคัญร้านดองกี้มีหลายสาขาเปิด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะร้านที่อยู่ในที่ ร้านดองกี้มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็น100กว่าสาขา ทั้งแบบเป็นร้านของดองกี้เอง หรืออยู่ใน Outlet หรือ ใน AEON  หรือในห้างต่างๆ

ภายในร้านมีคำอธิบายด้วยภาษาต่างชาติอยู่ รวมทั้งภาษาไทยด้วย สินค้ายอดนิยมก็จะมีเขียนภาษาไทยติดไว้ด้วยนะคะ ในร้านดองกี้เองจะมีพนักงานพาสทามชาวต่างชาติ หรือพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ จีน หรือภาษาไทยได้

การขอคืนภาษี (Tax refund) ของที่นี่จะเป็นแบบชำระเงินก่อนแล้วแล้วค่อยขอคืนภาษี (Tax refund)

ร้านดองกี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านใหญ่  ซึ่งมีสินค้าจำนวนมากและหลากหลายทำให้เราสามารถช้อปปิ้งได้จบภายในที่เดียวเลยนั่นเอง เมื่อชำระเงินที่แคชเชียร์เรียบร้อยแล้วก็เดินไปต่อที่เคาน์เตอร์ขอคืนภาษี (Tax refund) ได้เลยค่ะ

☆ ข้อควรระวัง และข้อแนะนำ เมื่อต้องการขอภาษีคืน (Tax refund)

● ลองมองหาบัตรส่วนลดจากพนักงานที่ยืนแจกคูปองอยู่

● บางสาขามีหลายชั้น อาจไม่สามารถชำระสินค้ารวมกันได้ ต้องชำระเป็นชั้นๆไป หรือเป็นแผนกๆไปนะคะ

ส่วนลด 5% เมื่อซื้อสินค้าจำนวน 10,000 เยนขึ้นไป ร้านดองกิโฮเต้(Don Quijote)

ร้านค้าปลอดภาษี (Tax refund) ที่แนะนำ 4: It’s Demo

ร้านนี้เป็นร้านขายเครื่องสำอางและของจุ๊กจิ๊กลายลิขสิทธิ์ต่างๆ ค่ะ บอกเลยว่า สายดิสนีย์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!! มีทั้ง Princess Disney , Sailormoon , Care Bear , My Little Pony  เพียบ!!! แถมราคาก็เป็นมิตรด้วยนะ ร้านนี้มีหลายสาขามากมายในเจแปน เว็บ

CR:tokyostory.net

ร้านค้าปลอดภาษี (Tax refund) ที่แนะนำ 5: Matsumoto Kiyoshi

เป็นร้าน Drugstore หรือร้านขายยาซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เรียกได้ว่าถ้าไปเที่ยวตามย่านดังๆ จะต้องเจอเจ้าร้านเหลืองๆ น้ำเงินๆ อย่างแน่นอน และตอนนี้ที่เมืองไทยก็มีให้ได้เข้าไปช็อปกันได้เลย แต่แน่นอนอาจจะไม่ซะใจเท่าที่ญี่ปุ่นด้วยสินค้าที่หลากหลาย โปรโมชั่นต่างๆที่จัดกันเป็นระยะๆ

นอกจากจะเป็นร้าน Tax Free Shop (Tax Refund Shop) สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว บางครั้งสินค้าแต่ละชิ้นก็ยังลดราคาถูกกว่าเดิมอีกด้วย! อย่างนี้จะอดใจไม่ให้แวะได้ยังไงเนอะ (บางสาขาก็ขายราคาไม่เท่ากันด้วยนะ อาจจะต้องเช็คดีๆ)

CR:https://www.momo-t.jp/shop

ส่วนลด ร้าน Matsumoto Kiyoshi

สรุป

เป็นอย่างไรบ้างคะ พอจะได้ที่ช็อป และเทคนิคกันแล้วหรือยังคะ ยังไงก็ อย่าลืมหันซ้ายหันขวา ตรวจหาคูปองส่วนลดที่จะมีพนักงานออกมาแจกกันเป็นระยะ ระยะ โดยเฉพาะเหล่าบรรดาร้านดรักสโตร์ที่อยู่บริเวณติดๆกันจะแข่งขันกันสูง นี้ถือว่าเป็นโชคดีของผู้บริโภคอย่างเราแย่างแท้จริงคะ ^^

นอกจากร้านค้าที่เอามาแนะนำกันแล้ว ยังมีร้านที่เข้าร่วมรายการนี้อีกจำนวนมาก สามารถเข้าไปเช็คได้จาก เว็บไซต์

お土産
ขนม ของขบเคี้ยว ของฝากยอดฮิต 12 อันดับ ราคาไม่แพง หาซื้อได้ที่ดองกิโฮเต้สวัสดีค่ะ หลังจากแนะนำร้านอาหารกันไปบ้างแล้ว คราวนี้ขอแนะนำ 12 อันดั...
s-0002
[อัปเดตปี2567] แนะนำเหล้าบ๊วยซื้อที่ญี่ปุ่น 5 อันดับ - แฟนเหล้าบ๊วยต้องลิ้มรสสักครั้ง!สวัสดีค่ะทุกคน ถ้าพูดถึงเหล้าของญี่ปุ่นทุกคนนึกถึงอะไรกันบ้างคะ เบี...
IMG_2750
รวมแหล่งที่ช็อปยอดฮิตในฮอกไกโด สายช็อปเตรียมฟินสวัสดีสายช็อปคะ วันนี้เราจะมาส่งพิกัดห้างร้านที่ช็อปที่ไม่ควรพลาดให้...
ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
nattyrakuraku
แน็ตมาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ฮอกไกโดมาตั่งแต่ปี2014 แบบไม่มีความรู้เรื่องญี่ปุ่นเลย มาทำงานที่นี่และพัฒนาภาษาตนเอง ได้ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวมีบัตรนำเที่ยวที่ญี่ปุ่นถูกต้องตามกฎหมาย ยิ่งได้ทำงานนี้ก็ยิ่งชอบฮอกไกโมากขึ้น อากาศดี ผู้คนใจดี อาหารอร่อยเงียบสงบ ยิ่งอยู่ยิ่งหลงรักฮอกไกโด และอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆกันคะ
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!