เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่เราพลาดไม่ได้เลยคือไฟประดับตกแต่งหรือที่เรียกกันว่าอีลูมิเนชั่นตามถนน และสวนต่าง ๆ เราจะมาแนะนำจุดถ่ายรูปกับไฟประดับในโอซาก้า ที่เหมือนกับพาเราเข้าไปในโลกของอีลูมิเนชั่นขนาดใหญ่เลยค่ะ สถานที่จัดงานคือบริเวณสวนนิชิโนะมารุ โอซาก้าโจ ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ข้างล่างปราสาทโอซาก้า
ผู้จัดงานอีลูมิเนชั่นนี้ได้รับรางวัลจาก Walkerplus ให้เป็นอีลูมิเนชั่นอันดับ1 จากทั่วประเทศ และได้รางวัลจาก Yahoo! ให้เป็นอีลูมิเนชั่นอันดับหนึ่งในหมวดคริสต์มาส
นอกจากนี้บริษัทผู้จัดงานยังมากมายด้วยประสบการณ์ค่ะ ผ่านการจัดงานอีลูมิเนชั่นใหญ่ ๆ ของโอซาก้าและแถบคันไซมาหลายแห่งแล้ว เรียกได้ว่าไว้ใจฝีมือได้เลยค่ะ มีทั้งประสบการณ์และรางวัลการันตีมาแบบนี้แล้ว
ป้ายหน้างานค่ะ
รายละเอียดเกี่ยวกับงาน Osaka Castle illumina
ราคาตั๋วเข้าชมงาน
ผู้ใหญ่ (วัยมัธยมต้นขึ้นไป): ราคา 2,000 เยน
เด็กตั้งแต่อายุ 1 ขวบ: ราคา 1,000 เยน
เด็กทารก: เข้าชมฟรี
ใครที่อยากพาสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วยต้องจ่ายเพิ่มตัวละ 500 เยนค่ะ
สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์หรือจะไปซื้อที่หน้างานก็ได้คะ เว็บไซต์สำหรับซื้อตั๋วคือ https://www.asoview.com/channel/tickets/eXLrZjLnvu/
เวลาที่เปิดให้เข้าชม: 17:00-22:00 (เวลาที่เปิดไฟคือ 17:00-21:30) ส่วนระยะเวลาจัดงานวันที่ 15 พฤศจิกายน 2024 ถึง วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2025 ระหว่างเข้าชมจะมีเพลงเปิดคลอไปด้วยให้เข้ากับบรรยากาศค่ะ ช่วงที่เพลงไปก่อนวันคริสต์มาส พอไปถึงงานเขาจะเปิดเพลง คริสต์มาสซอง ของวงแบ็คนัมเบอร์ค่ะ ซึ่งเป็นเพลงที่ดังมากในประเทศญี่ปุ่น
การเดินทาง
สามารถนั่งรถไฟสาย JR มาลงที่สถานีโมริโนะมิยะ (mori no miya) หรือสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายทานิมาจิ (Tanimachi) มาลงยังสถานีทานิมาจิยงโจเมะ (Tanimachiyonchome) จากนั้นเดินมาทางสวนนิชิโนะมารุค่ะ ไม่ค่อยแนะนำเส้นทางรถไฟสาย JR มาลงที่สถานีโอซาก้าโจโคเอ็นมาเอะ (Osakajo kouen mae) เพราะว่าเดินค่อนข้างไกล ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งทำให้งงค่ะ
วันเวลาที่แนะนำ
แนะนำให้ไปในวันธรรมดาค่ะ คนจะน้อยไม่เยอะมาก ถ่ายรูปได้เต็มที่เลยค่ะ

เข้าสู่โลกอีลูมิเนชั่นของโชกุนและซามูไร
เมื่อผ่านทางเข้างานไปเราจะเจอกับซุ้มทางเข้าที่เป็นอุโมงค์ไฟสีทองอร่าม มุมนี้ถ่ายรูปสวยมากค่ะ

เมื่อผ่านอุโมงค์ไฟสีทองแล้ว เราจะเจอกับป้ายไฟ LED ที่เล่าเรื่องราวของนักรบโชกุนแห่งประเทศญี่ปุ่นและเมืองโอซาก้าค่ะ

จากมุมนี้จะมีฉากหลังเป็นปราสาทโอซาก้าด้วยค่ะ

โชกุนและนักรบที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นค่ะ นี่คือโชกุนโทคุกาวะ อิเอยาสุ หนึ่งในสามโชกุนผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น

โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ โชกุนผู้ปกครองและสร้างปราสาทโอซาก้า หนึ่งในสามโชกุนผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นค่ะ โดยบริเวณนี้จะเริ่มจากการเล่าเรื่องการสู้รบระหว่างโชกุนฮิเดโยชิและอิเอยาสุค่ะ


ป้ายไฟ LEDที่ทำเป็นรูปนักรบญี่ปุ่นโบราณกำลังขี่ม้าทำศึกกันค่ะ

หมวกนักรบ ที่เรียกกันว่า หมวกคาบุโตะ ซึ่งเป็นหมวกของนักรบค่ะ
มีรูปคลื่นน้ำที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น

ส่วนนี่คือปลาชาจิโกะ ซึ่งถ้าใครเคยขึ้นไปยังปราสาทโอซาก้าต้องเคยเห็นปลาตัวนี้อยู่ด้านบนสุดของปราสาท โดยคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าปลาชาจิโกะนี้จะช่วยป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ค่ะ

มุมนี้เป็นรูปรถลากญี่ปุ่นแบบโบราณค่ะ

ตรงนี้จะเป็นซุ้มดาบซามูไรค่ะ

นอกเหนือจากโชกุนและซามูไรแล้วยังมีสตรีสูงศักดิ์และบุคคลในประวัติศาสตร์ร่วมด้วยค่ะ
ต่อมาเมื่อเราเดินผ่านจุดยุคโชกุนและซามูไรมาแล้ว เขาจะพาเราเข้าสู่ประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศญี่ปุ่น

เรือที่เป็นสัญลักษณ์ของการเปิดประเทศญี่ปุ่นหลังจากที่ญี่ปุ่นปิดประเทศมาเกือบ 200 ปีค่ะ
เราสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปในตัวเรือได้ด้วยนะคะ

เหมาะกับการถ่ายรูปมากค่ะ

ภาพการแต่งตัวสมัยใหม่ของชาวญี่ปุ่นค่ะ

ทรงผมของผู้หญิงญี่ปุ่นแบบสมัยใหม่ค่ะ

อันนี้เป็นอีกมุมที่เพลงชอบมากเลยค่ะ ถ่ายรูปออกมาได้สวยมากค่ะ
ต่อมาจะเป็นโซนที่เล่าเรื่องราวของโอซาก้าค่ะ และนี่ค่ะ ทาโกะยากิ ของกินที่เป็นเอกลักษณ์ของนาโกย่า ทาโกะยากิลูกยักษ์ค่ะ ตัวปลาหมึกน่ารักมากๆ เลยค่ะ
ต่อมาที่ต้นไม้นี้ค่ะ ดอกไม้จะเป็นหลอดไฟทั้งหมดค่ะ เวลาถ่ายรูปออกมาสวยมากค่ะ สีชมพูฟ้าน่ารักมากๆ
ภาพแบบใกล้ ๆค่ะ และต้นไม้ได้สูงมากสามารถถ่ายรูปได้สบายเลยค่ะ

เหมือนกับได้ชมดอกซากุระแบบอีลูมิเนชั่นเลยค่ะ

ต่อมาเป็นโซนรับปีใหม่ ปีงูเล็ก 2025 ค่ะ



นี่เป็นมุมกว้างค่ะ ข้างหลังมองเห็นปราสาทโอซาก้า และตรงเลขศูนย์จะเป็นอุโมงค์ไฟสีแดงค่ะ
อีกมุมหนึ่งจะมีLEDปราสาทโอซาก้าและเมียะกุเมียะกุ มาสคอตประจำงานเอ็กโปซิตี้ซึ่งจะจัดที่โอซาก้าในปี 2025 นี้ค่ะ
มุมต่อมา นอกจากถ่ายรูปได้แล้วยังสามารถเล่นได้ด้วยค่ะ เป็นไม้กระดกที่มีแสง
ใครที่มากันเป็นครอบครัวสามารถเล่นมุมนี้กันได้เลยค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กมาก พ่อแม่ควรดูอย่างใกล้ชิดนะคะ เพราะไม้กระดกค่อนข้างสูง

ส่วนตรงนี้เป็นแผ่นกลมๆ ที่พอเราเหยียบแล้วสีจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ค่ะ เด็กๆ เล่นกันได้สนุกค่ะ

และสำหรับคนที่มากันแบบเป็นคู่รักค่ะ มีมุมสำหรับถ่ายรูปน่ารักๆ แบบคู่รักด้วยค่ะ
อย่างอันนี้จะเขียนว่า “แต่งงานกันไหม”
ส่วนตรงนี้เขียนเป็นภาษาคันไซ มีความหมายว่ารักเธอค่ะ เพลงเห็นคนที่เป็นคู่รักมาหามุมถ่ายรูปกันเยอะเลย
และโซนสุดท้ายคือรวมสถานที่สำคัญของเมืองโอซาก้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสะพานกูลิโกะหรือซูเทนคาคุค่ะ
ตรงนี้จำลองสะพานโดทงบุริที่เห็นตึกกุลิโกะค่ะ
ตุ๊กตาที่เป็นสัญลักษณ์ของซูเทนคาคุค่ะ
ป้ายตุ๊กตาดารุมะค่ะ ที่โอซาก้ามีวัดคัตสึโอจิ ซึ่งเป็นวัดดารุมะที่ชื่อดังของเมืองโอซาก้าค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับภาพบรรยากาศของงาน Osaka Castle illumina ที่เก็บมาฝากกันค่ะ กว้างขวางใหญ่โตและมีจุดให้ท่องเที่ยวหลายจุดเลยค่ะ เผื่อใครจะไปโอซาก้าในช่วงหน้าหนาวนี้ ลองแวะไปชมไปถ่ายรูปกันได้นะคะ
