เมืองโกเบ นอกจากเนื้อวัวอันแสนอร่อยแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแบบใหม่ นั่นคือ อะโทะอะ (ATOA)อควาเรียมรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานกับศิลปะเพื่อเปิดประสบการณ์แบบใหม่ให้กับผู้มาเยือน อควาเรียมแห่งนี้มีขนาดกลางไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถสัมผัสสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด และสามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้เยอะทีเดียวค่ะ

การเดินทาง
สามารถนั่งรถไฟสาย JR หรือ Hankyu หรือ Hanshin มาลงที่สถานีซันโนะมิยะ (Sannomiya) เดินจากสถานีซันโนะมิยะ ประมาณ 20 นาที
ถ้าหากใครที่อยากจะขึ้นรถบัส ให้ขึ้นรถบัสสาย port loop โดยขึ้นที่ป้าย ซันโนะมิยะเอคิมะเอะ ที่อยู่หน้าห้างฮันคิวทางทิศเหนือ ให้ขึ้นรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Shinkou-chou ราคา 230 เยน
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://atoa-kobe.jp/access/
ส่วนตัวรู้สึกว่าเดินไปสะดวกกว่าค่ะ ได้เดินชมบรรยากาศของเมืองโกเบระหว่างทางด้วย
และเมื่อเราเดินทางมาถึงตึกอาโทอะ จะเป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นที่ 1 จะเป็นฟู้ดคอร์ทที่ชื่อว่า Tooth Mart Food Hall and Nightfes ซึ่งรวมร้านอาหารและของหวานชื่อดังของเมืองโกเบไว้ เราสามารถแวะรับประทานอาหารหรือนั่งพักที่นี่ก่อนหรือหลังจากชมอควาเรียมแล้วก็ได้ค่ะ
เข้าสู่โลกแห่งศิลปะและสัตว์น้ำ
ให้เราเดินขึ้นมายังชั้น 2 ของอาคารซึ่งจะเป็นทางเข้าของอควาเรียมค่ะ บริเวณแรกจะมีขื่อว่า CAVE จะมีการประดับไฟหลากสีที่สะท้อนกับพื้น เหมือนกับเราได้เข้าไปในถ้ำที่มีแสงไฟหลากสี ไฟจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ ถ่ายรูปได้สวยเลยค่ะ


นี่ค่ะไฟที่สะท้อนกับพื้น สวยเลยทีเดียว


เวลาไฟเป็นสีชมพูค่ะ สวยหวาน

ต่อมาเราจะเดินไปยังโซนที่มีขื่อว่า MARINE NOTE บริเวณนี้จะเป็นบรรยากาศของโลกใต้ทะเล มีแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ที่มีปลากระเบนและปลาสายพันธุ์ต่าง ๆ อยู่ร่วมกัน และยังมีแท็งค์น้ำเล็ก ๆ ที่มีปลาหลากหลายชนิดเช่นเดียวกัน บริเวณผนังโดยรอบมีภาพศิลปะเกี่ยวกับท้องทะเลประดับอยู่ค่ะ

แท็งค์น้ำที่มีปลาหลากหลายชนิด มีปลากะเบนว่ายน้ำมาทักทายค่ะ

ภาพศิลปะที่ติดผนังค่ะ
โซนต่อมามีชื่อว่า ELEMENTS จะพาเราเข้าไปสู่โลกแห่งป่าไม้ บรรยากาศเหมือนกับเราอยู่ในป่าดิบชื้น มีการจัดแสดงโชว์พวกสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ อย่างเช่น กบหรืองู ตัวเด่นที่สุดคือเต่ายักษ์อัลดาบรา ที่เราสามารถมองเห็นได้แบบใกล้ ๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีจิงโจ้แคระอีกด้วย

เต่ายักษ์อัลดาบราที่กำลังกินอาหารค่ะ

จิงโจ้แคระค่ะ
ตู้ที่มีกบค่ะ

จิงโจ้แคระอีกมุมค่ะ
เมื่อเราเดินชมบริเวณชั้นสองเรียบร้อยให้เราขึ้นไปยังชั้น 3 จะพบกับโซนที่มีชื่อว่า FOYER ซึ่งบรรยากาศเหมือนกับห้องสมุดค่ะ มีหนังสือเกี่ยวกับทะเลให้อ่านมากมายและมีโซนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับขยะในทะเล เหมาะกับคนที่พาเด็ก ๆ มาเที่ยวค่ะ ละด้านบนเราสามารถมองเห็นแท็งค์น้ำที่เป็นปลาในแถบทวีปแอฟริกาว่ายอยู่ด้านบน ละมีแท็งค์น้ำที่มีปลากระเบนอาศัยอยู่พร้อมกับนั่งอ่านหนังสือไปด้วยได้เช่นกันค่ะ

มองขึ้นไปจะเห็นแท็งค์เป็นแบบนี้ค่ะ
มุมให้ความรู้เกี่ยวกับขยะในท้องทะเลและศิลปะจากขยะในท้องทะเลค่ะ

มุมอ่านหนังสือค่ะ


แท็งค์ที่มีปลากะเบนสีดำลายจุดค่ะ
โซนต่อมาจะเป็นโซนที่มีชื่อว่า MIYABI เป็นโซนที่มีบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่น มีการจัดไฟและฉายภาพโปรเจคเตอร์คู่กัน ตื่นตาตื่นใจมากค่ะ และยังมีโซนให้อาหารปลาคาร์ฟอีกด้วย

ชุดเกราะนักรบที่ตั้งอยู่ตรงกลาง

โปรเจคเตอร์และแสงสีให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นค่ะ

ปลาคาร์ฟในบ่อค่ะ สามารถซื้ออาหารและให้อาหารบริเวณดังกล่าวได้

มีอ่างปลาทองให้เราชมด้วยค่ะ
ต่อมาเป็นจุดไฮไลท์ของอควาเรียมแห่งนี้ นั่นคือ PLANETS จะเป็นแท็งค์น้ำทรงกลมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีการฉายแสงเลเซอร์และไฟ สามารถถ่ายรูปและชมความงามของปะการังและสัตว์น้ำที่อยู่ข้างในได้ 360 องศา


ภาพแท็งค์น้ำทรงกลมค่ะ สามารถเก็บภาพสวยๆ บริเวณนี้ได้เลยค่ะ
และเมื่อเราชมความงามของแท็งค์น้ำทรงกลมที่เป็นจุดไฮไลท์ไปแล้วระหว่างทางที่ขึ้นไปชั้น 4 จะมีโซนที่ชื่อว่า Gallery ซึ่งเราสามารถเล่นสนุกในรูปแบบดิจิตอล หรือให้เทคนิคแสงและเงา รวมถึงสามารถลองดมกลิ่นของสัตว์ต่าง ๆ ได้ด้วย

อันนี้ให้เราลองวางวัตถุบนแท่น มันฉายเงาเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ

อันนี้ให้ลองดมกลิ่นสัตว์ต่างๆ ค่ะ มีนกเพนกวินด้วย
บริเวณชั้น 4 มีชื่อว่า Skyshore เป็นขั้นดาดฟ้า ถ้ามาตอนกลางคืนเราจะสามารถชมวิวยามค่ำคืนของท่าเรือโกเบได้ มีคาเฟ่จำหน่ายอาหารหน้าตาน่ารัก คาเฟ่นี้ชื่อว่า atoa Cafe มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มจำหน่าย สามารถนั่งรับประทานไปด้วย ชมสัตว์ไปด้วยได้ สัตว์ที่อยู่บริเวณนี้คือ นากแม่น้ำ คาปิบาล่า นกเพนกวิน และปลาในแถบแอฟริกา เช่นปลาช่อนอะเมซอน

ร้าน atoa Cafe ค่ะ

นี่เป็นซาลาเปารูปน้องนากค่ะ หน้าตาน่ารักมาก เป็นซาลาเปาไส้ช็อคโกแลตค่ะ
คาปิบาร่า หน้าตาน่ารักมาก


นกเพนกวินโพสท่าให้ถ่ายน่ารักมากค่ะ

ปลาช่อนอะเมซอน ตัวใหญ่มากค่ะ
ถ้าหากเราไปช่วงดึกเราสามารถเก็บภาพยามค่ำคืนสวย ๆ ได้ด้วยค่ะ
ขากลับเราต้องย้อนกลับไปยังชั้น 1 ค่ะ ขากลับจะมีAIที่เป็นน้องนากทะเล ถ้าหากเราถ่ายรูปหรือโบกมือ ภาพบนจอจะกล่าวทักทายพูดคุยกับเราแล้วโพสท่าให้เราถ่ายด้วยค่ะ เมื่อออกไปแล้วเราสามารถเลือกหาซื้อของฝากได้ที่ Museum Shop ส่วนใหญ่จะเป็นตุ๊กตาและขนมค่ะ


ตุ๊กตาเต่าน่ารักมากค่ะ

AI รูปน้องนากที่ทักทายก่อนเราจะกลับค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Kobe port museum 2-7 shinkou-chou, Chuou-ku, Kobe-shi, Hyougo
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 2600 เยน เด็กระดับชั้นประถม 1500 เยน เด็กที่อายุสามขวบขึ้นไป 500 เยน และเด็กที่อายุต่ำกว่าสามขวบ สามารถเข้าชมฟรี
เวลาเปิดให้บริการ 10:00-19:00 ปกติแล้วจะเปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด แต่ว่าในปีนี้จะมีวันหยุดวันที่ 3-5 ธันวาคม ดังนั้นสามารถเช็ควันที่เปิดบริการได้ที่ https://atoa-kobe.jp/information/
สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ที่ https://reserve.smart-theater.com/#/purchase/event/date
