การเดินทางในญี่ปุ่น

ใช้ JR Pass อย่างไรให้คุ้มค่า…ตอนที่ 1 เที่ยวโตเกียวและเมืองใกล้เคียงด้วย JR Pass 7 วัน

Japan rail pass

หลายคนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นนั้นต้องใช้เงินไม่ใช่น้อย และ JR Pass คือทางเลือกที่คุ้มค่า แต่ JR Pass เองก็มีหลายชนิดชวนให้สับสน เราจึงจัดทำบทความในชุด “ใช้ JR Pass อย่างไรให้คุ้มค่า” ขึ้นมา เพื่อนำเสนอแผนทริปที่นำไปใช้ได้จริงในแบบต่างๆให้คุณได้นำข้อมูลไปใช้ประกอบการวางแผนเที่ยวและตัดสินใจเลือกซื้อ JR Pass ได้อย่างคุ้มค่า ข้อดีอีกประการหนึ่งของการใช้ JR Pass คือคุณสามารถเลือกเมืองที่จะใช้เป็นฐานในการท่องเที่ยวและจองที่พักแห่งเดียวหลายๆวันในเมืองนั้นได้เลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเก็บกระเป๋า ลากกระเป๋าย้ายที่พักตลอดเวลา เพราะเมื่อมี JR Pass แล้ว คุณจะเดินทางไปๆมาๆกี่ครั้งก็ได้ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกลับ บทความในชุดนี้ของเราจะนำเสนอแผนทริปที่ใช้เมืองหลักๆซึ่งนักท่องเที่ยวจากไทยนิยมนั่งเครื่องไปลง เช่น โตเกียว โอซาก้า ฟุกุโอกะเป็นฐานหลักในการเดินทาง เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปและกลับจากญี่ปุ่น โดยนำมาประกอบกับ JR Pass ประเภทต่างๆที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวที่คุ้มค่าในแต่ละพื้นที่ อย่าลืมติดตามอ่านให้ครบทุกตอนนะคะ รับรองว่าทุกแผนได้เที่ยวชมไฮไลท์สำคัญๆของญี่ปุ่นอย่างจุใจ ในราคาประหยัดแน่นอน หากสนใจซื้อ  JR Pass ประเภทต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ราคาพิเศษ. สามารถรับตั๋วจริงได้ที่สนามบินหรือสถานี. JR ในพื้นที่ที่ให้บริการ.  สามารถจองได้ที่นี่เลยค่า. คุ้มค่าและประหยัดกว่าแน่นอน

ตอนที่ 1 เที่ยวโตเกียวและเมืองใกล้เคียงด้วย JR Pass 7 วัน

ใช้ JR Pass วันที่ 1 เริ่มใช้ JR Pass : สนามบินนาริตะ-ชินจูกุ

Shinjyuku การเดินทางจากสนามบินเข้าโตเกียวมีหลายวิธี แต่สำหรับผู้ที่ใช้ JR Pass เราจะเริ่มใช้ JR Pass ทันทีที่ถึงญี่ปุ่น เพื่อใช้โดยสารนาริตะเอ็กซ์เพรสเข้าสู่ใจกลางเมืองโตเกียว ถ้ามีเวลาเหลือและไม่เหนื่อยเกินไปในวันแรก สามารถออกไปเที่ยวเล่นชมตัวเมืองในละแวกชินจูกุ ชิบูยะหรือฮาราจูกุได้

ในย่านชินจูกุก็มีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำได้ตามเวลาที่คุณเดินทางไปถึง ถ้าถึงเร็วเราขอแนะนำพิพิธภัณฑ์ซามูไรซึ่งเดินไปจากทางออกทิศตะวันออกของสถานีชินจูกุเพียง 8 นาที https://www.samuraimuseum.jp/en/index.html หรือถ้าชอบแนววัดวาก็มีศาลเจ้าเมจิ ชอบแนวธรรมชาติก็มีสวนโยโยหงิ หรือถ้ามาตรงกับช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เส้นทางเดินในสวนเมจิจิงกูไกเอ็งที่มีต้นแปะก๊วยอยู่สองข้างทางจะกลายเป็นสีเหลืองอร่ามสวยงามที่สุด สำหรับคนที่เดินทางมาถึงตอนกลางคืนก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะชินจูกุมีกิจกรรมมากมายที่ทำได้ในยามกลางคืน เช่น การเดินเล่นในย่านแสงสีคาบูกิโจ หรือขึ้นไปชมแสงไฟยามค่ำคืนจากอาคารสูงต่างๆ เช่น ที่ว่าการเมืองโตเกียวซึ่งสามารถขึ้นไปชมวิวได้ฟรี การเดินทาง : ใช้ JR Pass โดยสารนาริตะเอ็กซ์เพรสจากสนามบินนาริตะถึงชินจูกุ ใช้เวลาประมาณ 85 นาที

ใช้ JR Pass วันที่ 2 : โตเกียว-ซาโอะหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก จ.มิยากิ-โตเกียว

zao fox village ซาโอะหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกหรือคิทสึเนะในภาษาญี่ปุ่นเลี้ยงสุนัขจิ้งจอกไว้ถึง 6 สายพันธุ์และมากกว่า 100 ตัวในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ นอกจากสุนัขจิ้งจอกแล้วก็ยังมีสัตว์อื่นอีกด้วย เช่น กระต่าย ม้าโพนี รวมทั้งมีกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ได้อุ้มลูกสุนัจจิ้งจอก

http://zao-fox-village.com/en การเดินทาง : ใช้ JR Pass นั่งชินคังเซนจากโตเกียวไปลงที่ชิโรอิชิซาโอะ ใช้เวลาประมาณ 110 นาที จากนั้นต่อรถแท็กซีไปอีกราว 20 นาที (ค่ารถเที่ยวละประมาณ 4,000 เยน)

ใช้ JR Pass วันที่ 3 : โตเกียว-โยโกฮาม่า-โตเกียว

Yokohama โยโกฮาม่าเป็นเมืองท่าชิลๆบรรยากาศดีที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียวและมีสิ่งน่าสนใจให้เที่ยวชมมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์บะหมี่สำเร็จรูปที่คุณสามารถทำบะหมี่สำเร็จรูปถ้วยเดียวในโลกที่คุณออกแบบเองได้ การเข้าร่วมกิจกรรมควรจองล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์

https://www.cupnoodles-museum.jp/en/yokohama/ ถ้าไม่ชอบกิจกรรมแต่อยากเดินเล่นถ่ายรูปสบายๆ เราขอแนะนำ “คิชามิจิ” ถนนสายโรแมนติคที่อยู่ติดกับสถานีซากุจะกิโจ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางเดินเล่นทอดข้ามทะเลที่เก่าแก่กว่า 100 ปีจึงมีบรรยากาศที่สุดคลาสสิค ทั้งยังมองเห็นอาคารต่างๆทางมินาโตะมิไรได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ย่านไชนาทาวน์ของโยโกฮาม่าก็อุดมไปด้วยอาหารอร่อยๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบการเที่ยวไปชิมไป การเดินทาง : ใช้ JR Pass นั่งรถไฟสายไคโดจากสถานีโตเกียวไปลงที่สถานีโยโกฮาม่า ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ใช้ JR Pass วันที่ 4 : โตเกียว-นิกโก จ.โทจิกิ-โตเกียว

Nikko toushogu นิกโกเป็นเมืองเล็กบนภูเขาใน จ.โทจิกิ ทางตอนเหนือของโตเกียว ที่นี่มีที่เที่ยวมากมาย ที่รู้จักกันดีก็เช่นศาลเจ้าโทโชกูอันเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1617 ในพื้นที่อันกว้างใหญ่แวดล้อมด้วยป่าเขียวขจี นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำตกเคกง ทะเลสาบจูเซ็นจิและสะพานชินเคียว

การเดินทางรอบๆนิกโกจะใช้รถไฟ JR สายนิกโกหรือสายอุทสึโนะมิยะก็สะดวกสบายเพราะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆส่วนใหญ่อยู่รอบๆสถานี แต่ถ้าใครอยากใช้รถบัสก็สามารถใช้รถบัสของโทบุซึ่งมีบริการในหลายเส้นทาง และที่เราขอแนะนำก็คือ “รถบัสเวียนชมมรดกโลก” ซึ่งเส้นทางวิ่งจะครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดของนิกโกให้คุณได้เที่ยวอย่างสะดวกสบาย nikko-travel.jp/english/ การเดินทาง : ใช้ JR Pass นั่งชินคังเซนจากสถานีโตเกียวไปลงที่สถานีนิกโกใช้เวลาประมาณ 107 นาที และใช้รถไฟ JR สายนิกโก สายอุทสึโนะมิยะหรือรถบัสเดินทางในพื้นที่

ใช้ JR Pass วันที่ 5 : โตเกียว-คามากุระ จ.คานางาวะ-โตเกียว

Kamakura คามาคุระเต็มไปด้วยวัด ศาลเจ้าเก่าแก่และธรรมชาติที่สวยงาม หลวงพ่อโตวัดโคโตคุแห่งคามาคุระเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นที่รู้จักกันดี นอกจากนี้ก็ยังมี ศาลเจ้าสึรุกาโอกะฮาจิมังกู วัดโฮโคคุจิที่มีป่าไผ่อันงดงาม ยุยกาฮามะที่เดินไปได้ไม่ไกลจากสถานีคามาคุระก็มีวิวทะเลที่สวยงามให้ชม สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศเก่าๆชิลๆ เรารับรองว่าคุณจะติดใจคามาคุระที่มีความสงบสวยงามจนเป็นโลเกชันถ่ายหนังถ่ายละครมาแล้วหลายเรื่อง

การเดินทาง : ใช้ JR Pass นั่งรถไฟ JR สายโยโกสึกะจากสถานีโตเกียวไปลงที่สถานีคามาคุระใช้เวลาประมาณ 56 นาที

ใช้ JR Pass วันที่ 6 และ 7  : โตเกียว-คานาซาวะ จ.อิชิคาวะ (ค้างคืน) -โตเกียว

Higashi Chaya District

Higashi Chaya District

คานาซาวะเป็นเมืองหลักของ จ.อิชิคาวะที่โด่งดังเรื่องย่านเมืองเก่าฮิกาชิจายะที่ยังคงบรรยากาศแบบในสมัยเอโดะเอาไว้ให้ได้สัมผัส สวนเค็นโรคุเอ็ง สวนญี่ปุ่นที่สวยงามตลอดสี่ฤดู และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยศตวรรษที่ 21 คานาซาวะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุกๆเกี่ยวกับงานหัตถกรรมพื้นบ้านให้ได้ลองสัมผัสมากมาย แค่ซุ้มประตูไม้ที่ด้านหน้าสถานีคานาซาวะก็จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจได้ตั้งแต่แรกมาถึง Nagamachi samurai street

Nagamachi samurai street

Kenrokuen Garden

Kenrokuen Garden

the 21st Century Museum of Contemporary Art

the 21st Century Museum of Contemporary Art

เราแนะนำให้คุณพักที่นี่หนึ่งคืนแล้วค่อยเดินทางกลับโตเกียวในวันรุ่งขึ้น เพื่อที่จะได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ในคานาซาวะ การเดินทาง : ใช้ JR Pass นั่งชินคังเซนจากสถานีโตเกียวไปลงที่สถานีคานาซาวะใช้เวลาประมาณ 176 นาที ------------------------------------------- ราคา JR Pass แบบ 7 วัน ที่นั่งชั้นธรรมดาสำหรับผู้ใหญ่ 50,000 เยน ค่าเดินทางตามแผนทริปนี้ในกรณีที่ไม่ใช้ JR Pass คือ

  • สนามบินนาริตะ-ชินจูกุ ไปกลับ 3,190 เยน
  • โตเกียว-หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ ไปกลับ 20,700 เยน
  • โตเกียว-โยโกฮาม่า ไปกลับ 940 เยน
  • โตเกียว-นิกโก ไปกลับ 11,160 เยน
  • โตเกียว-คามาคุระ ไปกลับ 1,840 เยน
  • โตเกียว-คานาซวะ ไปกลับ 28,240 เยน

รวม 66,070 เยน

ค้นหา JR Pass ราคาถูกใน Klook

JR Tokyo Wide Pass
เที่ยวอย่างคุ้มค่าด้วย JR Tokyo Wide Pass ทริปที่ (1) เล่นหิมะที่กาลายูซาว่า (ใช้ JR Pass อย่างไรให้คุ้มค่า...ตอนที่ 2)สำหรับคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น เชื่อว่าทุกคนย่อมอยากสัมผัสแง่...

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
kaguya
นักเขียนและนักเดินทางที่มีบ้านอยู่บนเส้นทางจักรยานชิมานามิไคโดในฮิโรชิมา
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!