การเดินทางในญี่ปุ่น

เติมเงิน Suica / Pasmo บัตรเดียวแล้วไปขอพรความรักกันเถอะ

ภูมิภาค
|
หัวข้อที่เกี่ยว
Untitled-1

ใครที่เคยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่ารถไฟเป็นเรื่องน่าปวดหัวที่สุดละ จะมีทำไมหลายๆสาย เดินทางวนงงและไปทางไหนดีน๊า ไหนจะต้องพบกับ ป้ายเส้นทางรถไฟที่งงไปอีก ว่าจะต้องไปทางไหน จะเดินทางไปโตเกียว จาก นาริตะ ค่าตั๋วเท่าไหร่น๊า ต้องกดยังไงน๊าทำให้เสียเวลาอยู่ที่สถานีรถไฟบางที เป็นครึ่งชั่วโมง วันนี้เราเลยมีข้อมูลดีดีมาแนะนำ คือ พกไว้บัตรเดียว เหมือน BTS บ้านเราสามารถ แตะและไปลงสถานีต่างๆได้เลยไม่ต้องมายืนงมที่แผนที่ เพราะแอพ Google Map ที่คำนวณค่าใช้จ่ายรถไฟนั้น เป๊ะอยู่แล้ว บัตรที่เราจะแนะนำ ชื่อว่า PASMO และ SUICA นั่นเอง!!!

CR.matcha-jp

และ PASMO กับ SUICA ต่างกันอย่างไรน๊า

 

CR.matcha-jp

Pasmo บัตร IC ของ บ. Tokyo Metro ใช้ขึ้นรถไฟใต้ดินได้ทุกสาย ,รถเมล์ และ JR

Suica บัตร IC ของ JR สามารถใช้ร่วมกันกับเมืองอื่น นอกจากโตเกียวได้

***แต่ความเป็นจริงแล้ว เราก็เอาบัตร PASMO ใช้เดินทางทั้งโตเกียว โอซาก้า ฮอกไกโด คิวชูมาหมดแล้ว รวมถึงการซื้อของ และรถบัสต่างๆ ก็ได้หมดนะ ไม่มีปัญหาอะไรเลย***

สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมีความสะดวกสบายในการใช้บัตรนี้ มีขั้นตอนไม่ยากแนะนำดังนี้ (อ่อ…ก่อนอื่นเราก็เลือกตู้ที่เราจะซื้อบัตรนี้ก่อนนะ แล้วแต่สะดวกเลย ทั้งสองแบบก็จะมีค่าธรรมเนียมบัตรอยู่ที่ 500 เยน ไว้คืนตอนก่อนกลับ หรือ อยากเก็บเอาไว้ใช้ครั้งหน้าก็ได้นะคะ)

สนใจซื้อบัตร Suica ล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่นี่ สะดวกโดยคุณสามารถรับบัตรได้ที่สนามบินฮาเนดะหรือนาริตะ หรือสถานที่ในโตเกียว.

เริ่มกันเลยดีกว่า

อ่านก่อนซื้อ :

  • หากซื้อบัตรกับ Tokyo Monorail หรือที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ JR EAST จะต้องไปคืนกับที่ที่ออกบัตรนั้นๆ ไม่สามารถคืนที่ศูนย์ JR EAST Travel Service Center ได้) **แนะนำเลือกซื้อที่ สนามบินได้เลยค่า**
  • ในตอนขอคืนบัตร หากในบัตรมีเงินเหลืออยู่เกิน 220 เยน จะถูกหักค่าธรรมเนียม 220 เยนจากเงินที่เหลืออยู่ ยกตัวอย่างเช่น
    • หากเหลือเงิน 1,000 เยน จะได้เงินคืน 780 + ค่ามัดจำ 500 เยน = 1,280 เยน
    • หากเหลือเงินน้อยกว่า 220 เยน ก็จะได้คืนแค่ค่ามัดจำ 500 เยน
    • หากเหลือเงิน 0 เยน ก็จะได้ค่ามัดจำ 500 เยนเต็มจำนวน
  • แนะนำว่าถ้าจะคืนบัตรให้ใช้เงินในบัตรให้หมดก่อน เพื่อไม่ให้โดนหักค่าธรรมเนี่ยม
  • บัตรมีอายุ 10 ปี สามารถเก็บไว้ใช้หากมาเที่ยวญี่ปุ่นรอบต่อๆ ไปได้อีก

*******ในนี้เราจะยกตัวอย่างของการเติมเงิน PASMO นะ เพราะเทียบแล้วตู้จะหาง่ายกว่า ที่สนามบินมีเลย********

CR.chillinjapan

* กดเลือกพาสโม่ แต่อย่าลืมเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษก่อนเด้ออ

CR.chillinjapan

*เลือกซื้อพาสโม่โลดดด

CR.chillinjapan

*แล้วจะมีให้เลือกเป็น Personal user Pasmo กับ General user Pasmo เลือกที่ General เพราะ Personal คือเราต้องกรอกชื่อนามสกุล เบอร์โทรอาจจะยุ่งยากเล็กน้อย

CR.chillinjapan

*เติมเงินแต่อย่าลืมว่ามันจะหักออกจาก 500 เยนนะ เพราะงั้น 2000 เยนไปเลย เหลือๆไว้ช้อปที่มินิมาทได้อีก ชิวๆเลย

CR.chillinjapan

*ใส่เงินเข้าไปในช่องใส่เงินเด้ออ

CR.chillinjapan

*รับบัตรและไปแตะเข้าสถานีได้เลยย ง่ายเฟร่ออ

ทำตามครบสเตปแบบนี้ ไม่ยากเลยช่ะม่ะ เสดละก็ลุยยตามแพลนเที่ยวโลดดด

เสร็จแล้วพร้อมลุยวันนี้จะมีแพลนเที่ยวคร่าวๆมาฝากในโตเกียวด้วยจ้า…(ตะลุยขอพรความรัก)

จากวัดอาซากุสะ > โตเกียวไดจินกุ > ศาลเจ้าเมจิ

วัดที่ใครๆที่มาโตเกียวต้องไม่พลาด วัดศักดิ์สิทธิ์ วัดขึ้นชื่อเปรียบเสมือนวัดพระแก้วบ้านเรา ตามตำนานเริ่มจากการที่ชาวประมงสองพี่น้องซึ่งจะออกหาปลาทุกวันที่แม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งของวัด แต่แล้ววันหนึ่งทั้งสองพี่น้องก็จับปลาไม่ได้สักตัว จึงได้อธิษฐานขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้จับปลาได้ พอลองทอดแหดู กลับได้มาเป็นพระโพธิสัตว์กวนอิมทองคำสูงประมาณ 5 นิ้วแทน ทั้งสองจึงได้นำกลับมาที่หมู่บ้าน เมื่อหัวหน้าของหมู่บ้านได้ทราบเรื่อง ก็ได้ปรับปรุงบ้านของตนแล้วสร้างเป็นวัดเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมเพื่อให้คนได้มาสักการะบูชา เนื่องจากสิ่งที่ขอพรมักจะเป็นจริงอยู่เสมอ จึงมีผู้คนจากทั่วสาระทิศเดินทางมาเพื่อสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมนี้

วิธีการเดินทางมายังวัดอาซากุสะ

・ นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza มาลงที่สถานี Asakusa 
・ นั่งรถไฟใต้ดิน Toei สาย Asakusa มาลงที่สถานี Asakusa 
・ นั่งรถไฟสาย Tobu SKYTREE มาลงที่สถานี Tobu Asakusa

ต่อมาเป็นซาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความรักสุดๆ เพราะคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่มาแต่งงาน หรือ ขอคู่จะมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้  ศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุ  ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่มีความขลังและมีชื่อเสียงเรื่องการให้พรเรื่องความรักค่ะ เดิมทีหนุ่มสาววัยรุ่นญี่ปุ่นนิยมไปขอพรกันเป็นจำนวนมากค่ะ และมีผู้ไปขอพรแล้วสมหวังในความรักหลายคนค่ะ ศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุตั้งอยู่ที่ย่านชิโยดะกรุงโตเกียวเดินจากสถานีรถไฟIidabashi เพียง 5 นาที เท่านั้นเองค่ะ ศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุ เป็นศาลเจ้าสาขาของศาลเจ้าอิเซะจินกุ ได้รับฉายาเป็นศาลเจ้าอิเซะจินกุในกรุงโตเกียวค่ะ เชื่อกันว่าหากกราบไหว้ที่ศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุ ก็เท่ากับไปกราบไหว้ถึงศาลเจ้าอิเซะจินกุ(ศาลเจ้าอิเซะจินกุเป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงตั้งอยู่ที่จังหวัดมิเอะ)จึงเชื่อกันว่าศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุนี้มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ให้พรเรื่องความรักค่ะ เหมาะสำหรับใครที่อยากเสริมดวงความรัก และใครที่ต้องการให้ความรักกลับมาเหมือนเดิม หรือใครที่คบกันมานานและยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งสักที ลองเข้าไปขอพรกันดูนะคะ ไปแล้วได้ผลยังไงอย่าลืมมาบอกต่อกันนะคะ

CR.japan555

สุดท้ายเป็นศาลเจ้าเมจิ

ศาลเจ้าเมจิแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีคศ.1920 เพื่อเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิครับ และด้วยความร่วมมือของประชาชนที่บริจาคต้นไม้กว่า 100,000 ต้น ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง และด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้ระยะทางในการเดินเข้าไปจนถึงตัวศาลเจ้าไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าใช้ระยะทางเพื่อพิสูจน์ความรักเลยก็ว่าได้

วิธีการเดินทาง

ถ้ามาจากทางฮาราจูกุ สามารถเดินทางมาได้ 2 วิธีคือ

・ นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote
ลงที่สถานี Harajuku Station
・ นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Chiyoda หรือ Fukutoshin
ลงที่สถานี Meiji-Jingumae ‘Harajuku’ Station

จบแล้วขอพรแล้วเป็นอย่างไรอย่าลืมมาบอกต่อน๊า

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
kimbellz
เป็นคนชอบเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และ ตั้งใจว่าจะไปให้ได้ทุกปี
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!