ย่านมินาโตะมิราอิ-Minato Mirai 21 ตั้งอยู่ในเขตริมทะเลของเมืองโยโกฮาม่า มีชื่อว่า “harbor of the future” เดิมเป็นอู่ต่อเรือขนาดใหญ่จนกระทั่งปี 1980 ได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นแหล่งอาคารขนาดสูงใหญ่มากมาย รวมถึง Landmark Tower ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุด(296 เมตร)ในปี 1993-2014 นอกจากนี้ยังมี แหล่งช้อปปิ้ง โรงแรม ศูนย์ประชุม สวนสนุก บ่อน้ำพุร้อน พิพิธภัณฑ์ และสวนสาธารณะ
ริมทะเลเป็นที่ตั้งของเมือง Minato Mirai Chuo ประกอบด้วย Landmark Tower และตึก three Queen’s Tower ตั้งอยู่ติดกัน ตามด้วยโรงแรมแพนแปซิฟิก(Pan Pacific Hotel) และศูนย์ประชุม Pacifico ซึ่งเป็นศูนย์ประชุมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
ตรงข้ามศูนย์ประชุมเรียกว่า “new harbor district” เป็นเกาะแห่งอนาคต มีชิงช้าสวรรค์ Cosmo World Ferris Wheel พร้อมทั้งเป็นนาฬิกาบอกเวลาที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย
ทุกครั้งที่เดินทางมาที่นี่ก็จะรู้สึก เย็นสบายทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนก็ตามเพราะว่าเป็นเมืองที่มีแม่น้ำ ล้อมรอบจึงทำให้ เย็นสบาย ใครจะรู้ว่า ใกล้โตเกียวจะมีสถานที่เที่ยวแบบนี้อยู่ด้วย และสวนสนุกที่ฮิตในหมู่ครอบครัวคนญี่ปุ่น ก็คือ COSMOS world เป็นสวนสนุกเล็กๆ ที่มีเครื่องเล่น เหมาะสำหรับคนญี่ปุ่นที่มาพักผ่อนในวันหยุด
โดยสวนสนุกแห่งนี้ไม่ต้องเสียค่าเข้าด้วยนะคะ ถ้าอยากเข้ามาอินกับบรรยากาศสวนสนุกเฉยๆก็สามารถเดินเข้าชมได้เลยเพลินๆ เพราะจะเสียเฉพาะเครื่องเล่นที่ต้องการเล่นเท่านั้นจึงประหยัดกว่าสวนสนุกแบบเหมาที่อื่นๆ ค่าเครื่องเล่นสำหรับเด็กจะประมาณ 300-500 เยน และเครื่องเล่นที่แพงสุดอยู่ที่ 700 เยนเท่านั้น นักท่องเที่ยวจึงสามารถมาเดินเที่ยวเล่นได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย และที่นี่ยังแบ่งเป็น 3 โซนหลักๆตามกลุ่มเป้าหมายอายุของผู้เล่นตั้งแต่เด็กเล็กๆจนถึงรถไฟเหาะที่น่าหวาดเสียว เรียกได้ว่ามีเครื่องเล่นต่างๆที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยอย่างครบครัวเลยก็ว่าได้ค่ะ
เครื่องเล่นนี้ ประมาณ 700 เยน แต่สนุกมากเลยนะ มึนหัวดี 555
โซน Burano Street ที่มีจุดเด่นเป็นบ้านผีสิงที่เราจะมีเพียงเทียนในมือเล่มเดียวเป็นแสงสว่างนำทางเพื่อเดินไปให้ถึงทางออก และเครื่องเล่นวัดใจอย่างเมืองหิมะที่จะให้เราได้สัมผัสความหนาวเย็นระดับ -30 องศา โดยที่ไม่มีชุดกันหนาวให้นะเออ
ชิงช้าที่ขึ้นชื่อเมื่อขึ้นแล้วจะเห็นวิวทั้ง เมืองโยโกฮาม่าเลยทีเดียว แต่จะให้ดีต้องดูวิวตอนกลางคืนจะสวยมากๆเลย
ภาพนี้คือวิวตอนกลางคืนของ สวนสนุกนี้ ตรงชิงข้าจะมีการเล่นไฟ ทุกๆ 5 นาที
เมืองนี้ ตอนกลางคืน ช่างสวยงามมากจริงๆ เดินเล่นถ่ายรูปลืมเวลาได้เลย เพราะมันยังไม่หมดแค่นี้ ต่อไปเราจะพาไปดู พิพิธภัณฑ์ท่าเรือ โยโกฮาม่า คือเดินไปทางสวนด้านขวาของ สวนสนุกก็จะเจอ สวนสาธารณะ ให้เราได้พักผ่อน ถ่ายรูป เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอเรือ แบบนี้
สิ่งที่ทำให้น่าสนใจมากๆก็ตรงที่ได้มีการนำเอาเรือที่เคยนำมาใช้งานจริงนำมาเชื่อมต่อให้ตั้งอยู่อย่างถาวรที่ Minato Mirai ตรงข้ามเรือคือพิพิธภัณฑ์ท่าเรือโยโกฮาม่า(Yokohama Port Museum) ภายในนั้นจะมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของท่าเรือ และความสัมพันธ์ต่อวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน ในระยะเวลา 150 ปี เรียกได้ว่าเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่บ่งบอกถึงตัวตนของเมืองได้อย่างดีเยี่ยมเชียวล่ะค่ะ
เจ๋งไปเลยใช่ไหมหล่ะคะ ยังไม่หมดเเค่นี้ สถานที่ต่อไปเราจะแนะนำง่าตอนกลางคืน เหมาะสมที่สุดในการเดินชม ยิ่งถ้ามากับคู่รักละก็ จะรู้สึกถึงความโรแมนติกมากๆเลย Yokohama Red Brick Warehouse
โกดังอิฐสีแดงซึ่งเคยเป็นท่าเรือเก่า ก่อนจะถูกดัดแปลงให้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งสไตล์วินเทจที่มีร้านค้ามากมายให้ขาช้อปมาเยือน ซึ่งที่นี่จะมีถึง 2 อาคาร โดยแบ่งเป็นร้านค้าและร้านอาหารไปเต็ม ๆ หนึ่งอาคาร และเป็นพื้นที่ว่างสำหรับจัดงานอีเว้นท์และนิทรรศการต่าง ๆ ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งบรรยากาศดี ๆ ที่น่าเดินเล่นและจับจ่ายซื้อของให้เพลิดเพลิน แต่ละร้านก็งานดีมีความน่าสนใจ งานนี้ขาช้อปไม่ควรพลาด
หลังจากที่เดินเก็บบรรยากาศ ถ่ายรูปกับที่นี่เป็นที่พอใจเรียบร้อยแล้ว คือมันไม่เหมือนญี่ปุ่นเลย แสงสีอะไรแบบนี้มันสวยและอยากอยู่นานๆมาก เลย แต่เวลาก็มีอย่างจำกัดเนอะ
เดินต่อมาเรื่อยๆก็จะเจอกับ
ท่าเรือโอซังบาชิ(Osanbashi Pier) ตั้งอยู่ระหว่าง Minato Mirai และ Yamashita Park ภายในเมืองโยโกฮาม่า(Yokohama) โดยที่นี่นั้นเป็นทั้งท่าเรือผู้โดยสารระหว่างประเทศ(The Osanbashi International Passenger Teminal)แล้วยังจะเป็นสวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจแม้ไม่ได้ขึ้นเรือได้เข้าชมอีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่ามาที่เดียวทูอินวันเลยล่ะค่ะ
อย่างแรกที่เราจะสังเกตเห็นก็คือรูปลักษณ์ของท่าเรืองที่ค่อนข้างทันสมัยทั้งๆที่จริงแล้วนั้นแรกเริ่มเดิมทีเค้าได้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1894 เพียงแต่มาภายหลังได้มีการบูรณะปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อประมาณปี ค.ศ.2002 จนทำให้กลายมาเป็นอาคารผู้โดยสารที่ทันสมัย ซึ่งออกแบบพื้นที่ให้เหมือนคลื่นทะเลประกอบด้วยสนามหญ้าสีเขียว ด้านล่างมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ร้านค้า ร้านอาหาร และห้องโถงสำหรับจัดนิทรรศการหรือกิจกรรมต่างๆ ถือได้ว่าเป็นท่าเรือครบวงจรที่ได้มากกว่าแค่ได้เห็นท่าเรือจริงๆจังๆของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่มีอะไรให้เดินชมอีกเพียบเลยล่ะค่ะ
เราเดินมาตอนกลางคืน เดินมาเรื่อยๆ ถึงได้รู้ว่านี่คือท่าเรือ
สามารถเข้าไปเดินเล่น ถ่ายรูปได้เลย แสงที่นี่ดีมากจริงๆ คอนเฟิร์ม
วันนั้น ดวงจันทร์ เต็มดวงถ้ามีคู่ตอนนั้นจะรู้สึกโรแมนติกมากๆเลยทีเดียว บนดาดฟ้าแห่งนี้ เปิด 24 ชั่วโมง
การมาเที่ยวที่ สถานที่แห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตั้งแต่ บ่ายสามยัน สี่ทุ่มได้เลย
***แนะนำทริป สามารถไปเที่ยว คามาคุระ ในช่วงเช้าและเดินทางมาสถานที่แห่งนี้นตอนเย็นๆ ถุงดึกได้เลย จะสามารถเที่ยวได้ครบ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้โตเกียวได้เลย ไม่ต้องเดินทางไปไกลก็มีสถานที่สวยๆให้ชม***
สุดท้ายแล้วเราขอแนะนำร้านอาหาที่ไปทานมาในวันนี้ และรู็สึกว่าชอบมากๆ ก็คือ ฮานะมารุ
CR: https://www.hanamaruudon.com/
สัญลักษณ์หน้าร้านจะเป็นแบบนี้นะ
ส่วนเมนูที่ชอบและถูกใจก็คือ สลัดอุด้ง น้ำสลัดที่นี่อร่อยและคุ้มากๆ เมื่อเทียบกับราคา เพราะจานนี้เพียง 230 เยนเท่านั้น อิ่มมากอะ ถ้าครเดินผ่าน หรือ เห็นสัญลักษณ์นี้ก็ลองเข้าไปลองทานดูได้เลย
จบทริป มินาโตะมิไร 21 แล้วก็ลืมติดตามเราไปเรื่อยๆนะคะ อ่อลืมบอก วิธีการเดินทางมาที่นี่เลย
วิธีการเดินทาง
ถ้าไปด้วยรถไฟ JR จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ให้นั่งสายโทไกโด (Tokaido Line), สายโยโกซุกะ (Yokosuka Line), สายเคฮินโทโฮคุ (Keihin-Tohoku Line) ถ้าไปจากสถานีชิบูย่า (Shibuya Station) ให้นั่งรถไฟของโทคิว สายโทโยโกะ (Tokyu Toyoko Line) ไปที่สถานีโยโกฮาม่า ทั้งคู่ใช้เวลา 30 นาทีเท่ากัน และไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลยค่ะ
