ออนเซนครั้งแรก ที่ยามากาตะ กับบริการระดับโลก

นี่เลยจ้าวันนี้จะมาแนะนำที่พัก ออนเซน และ การแช่ออนเซนครั้งแรกในชีวิต ^^ บอกเลยว่าเราเป็นคนไม่กล้ามากๆ และก็ไม่คิดด้วยที่จะเเช่ออนเซน แต่ว่านะก็มีแว๊บๆบ้างคือ มาญี่ปุ่นก็หลายครั้งแล้วทำไมหล่ะ แค่นี้เองกล้าๆหน่อย ไม่มีใครรู้จักเราหรอกจะอายทำหยัง???? หลังจากแพลนที่จะมายามากาตะ ก็อยากจะมาพัก ออนเซนสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ แต่ที่ที่เราดูไว้ก็เป็น กินซัง ออนเซน ซึ่งเราจองก่อนมาเพียง 3 เดือน ออนเซนทุกที่ในนั้น เต็มหมดเลย เราเลยได้แต่ไปเที่ยวแบบ เช้า-เย็นกลับแทน มาเริ่มกันเลยดีกว่า กินซังออนเซน(Ginzan Onsen) เป็นเมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่รอบเหมืองแร่เงินที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาใหม่ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซนที่สวยงามที่สุดด้วยห้องพักแบบเรียวกังที่เรียงรายตามสองข้างทางของแม่น้ำ ลักษณะก็จะเป็นประมาณนี้ ในวันที่เราไปนั้นมีหิมะตกซึ่งหนาวมากๆอะ (ขณะที่เล่าเรื่องยังหนาวเลย) 5555 เราก็เดินเข้าไปตามทาง ซ้าย-ขวา ก็จะเป็นที่พักแบบออนเซนทั้งหมด สลับกับร้านขายของฝากบ้าง ส่วนร้านอาหารในนี้ก็จะมีแค่ร้านเดียวคือ โซบะต้องเดินเข้าไปสุด ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น จากหน้าทางเข้า เป็นสถานที่ไม่ใหญ่เลย แต่จะสวยมากถ้ามากลางคืน หรือ มาแช่ออนเซน ร้านโซบะเพียงร้านเดียวที่มีในนี้ เซตโซบะ แนะนำของทางร้าน หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็เดินทะลุชั้นสองของร้านไป เจอน้ำตก ที่ตอนนี้ไม่ใช่น้ำตกแล้ว แต่เป็นนำแข็งแทน ความหิมะนี้ คือต้องระวังส่วนที่จะร่วงลงมาจากทางต้นไม้ด้วยน๊า เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่ถึง ชั่วโมงอะ เพราะหนาวมากและไม่มีที่พักด้วย เราคิดว่ากลับไปที่ออนเซนอีกทีที่เราจองดีกว่า เรามาดูดีกว่าว่าเป็นที่ไหน อ่อลืมบอกวิธีการเดินทางมาที่นี่เลย **นี่เป็นข้อมูล ของแต่ละออนเซน** เรียวกังของที่นี่เป็นสไตล์ดั้งเดิม ที่เป็นอาคารไม้ 3-4 ชั้น ผสมผสานกับผนังปูนสีขาวสะอาดทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต เว้นเพียงแต่ฟูจิยะเรียวกัง(Fujiya ryokan) ตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางของเมือง เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้โดยสถาปนิกที่มีชื่อเสียง ชื่อว่า Kuma Kengo ได้ออกแบบอาคารให้ทันสมัย เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังมีองค์ประกอบที่มีความดั้งเดิมซ่อนอยู่โดยใช้ไม้และพลาสเตอร์สีขาว ใจกลางเมืองกินซังออนเซน ถูกจัดให้เป็นเขตเดินเท้าเท่านั้น เนื่องจากถนนแคบ และไม่มีที่สำหรับจอดรถ จึงทำให้เมืองแห่งนี้เงียบสงบมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเย็น เรียวกังต่างเปิดไฟสีส้มสว่างด้วยตะเกียวก๊าซ และในฤดูหนาวทัศนียภาพก็จะดูสวยงามขึ้นด้วยหิมะตามทางเดินและหลังคา นอกจากนี้ยังมีห้องอาบน้ำสาธารณะเปิดให้บริการ 2 แห่ง (300-500 เยน) และบ่อออนเซนเท้า(ฟรี) ซึ่งตั้งอยู่รอบๆเมือง หนึ่งในห้องอาบน้ำออนเซน คือ ชิโรกาเนยุ(Shiroganeyu) ออกแบบโดยสถาปนิก Kuma Kengo และอีกแห่งหนึ่งคือ โอโมคาเกยุ(Omokageyu) เป็นห้องอาบน้ำแบบส่วนตัว(2,000 เยน/50 นาที) หรือสำหรับผู้ไม่ได้เข้าพักสามารถใช้บริการห้องอาบน้ำในเรียวกังได้ในช่วงกลางวัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 300-1,500 เยน ส่วนใหญ่จะเป็นห้องอาบน้ำในร่ม ด้านหลังของเมืองยังมีน้ำตกสูง 22 เมตร ที่ฐานของน้ำตกเคยเป็นหนึ่งในทางเข้าเหมืองเงินที่ถูกสร้างขึ้นมานานกว่า 500 ปีแล้ว ทำหน้าที่เป็นทางเข้าหลักในสมัยต้นเอโดะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าชมอุโมงค์ภายในได้ไกลประมาณ 20 เมตรเท่านั้น โดยสารรถไฟ จาก Tokyo นั่ง JR Yamagata Shinkansen ไปลงที่ Oishida Station ใช้เวลา 200 นาที ค่าใช้จ่าย 12,000 เยน จากนั้นนั่งรถบัสไปยัง Ginzan Onsen ซึ่งบัสจะออกทุกๆ 60-90 นาที ใช้เวลา 35 นาที ค่าใช้จ่าย 710 เยน ตลอดเส้นทางสามารถใช้ตั๋ว JR Pass ได้ทั้งหมด หรือ JR East Pass สำหรับรถไฟเท่านั้น

ต่อมาก็เป็นที่พักที่เราจองผ่าน Booking.com นั่นเอง ชื่อว่า Hotel Koyo Hotel Koyo ตั้งอยู่ในเขต Kaminoyama Onsen ของเมือง Kaminoyama และมีห้องซาวน่าเพื่อการผ่อนคลายของผู้เข้าพัก และมีอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรี ห้องพักในที่พักมีกาต้มน้ำ และห้องพักมีห้องน้ำส่วนตัวซึ่งมีเครื่องใช้ในห้องน้ำฟรี ในขณะที่บางห้องที่นี่มีพื้นที่นั่งเล่น ห้องพักที่ Hotel Koyo ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและโทรทัศน์จอแบน ที่พักมีอาหารเช้าแบบเอเชียสำหรับทุกเช้า***** เข้ามาถึงพนักงานที่นี่ก็บริการดีมากอะ ประหนึ่งเราเป็นคุณหนูเลย เราต้องให้เค้าจริงๆเรื่องการบริการของคนญี่ปุ่นเนี่ย พอหลังจากทำเรื่องเชคอินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปเก็บของที่ห้องพัก แต่ด้วยสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถไปไหนได้ด้วยเท้า หรือ รถไฟต้องแท๊กซี่เท่านั้น จึงทำให้ต้องหมกตัวอยู่ในนี้ เราก็ลงมาดูของฝาก อันนี้เลยขึ้นชื่อสุด มันก็เหมือนโมจิ ถั่วแดงเลยง่ะ แต่แบบอื่นก็น่าจะอร่อยกว่า 555 เดินชมรอบๆ ที่พักเราเจอกิจกรรมน่าสนใจบางอย่างนั่นก็คือ การเพ้นท์จานั่นเอง เราเดินมองๆ พนักงานมาถามว่าเป็นคนไทยไหม ละก็ไปชี้จานตัวนี้ให้ดูละบอกว่านี่นะเป็นของ เจมส์ รู้จักไหมเราก็งงเจมส์ไหน พอเดินมาดู อ๋ออออออ น้องเจมส์ จิ นั่นเอง เราก้ไม่ได้ทำหรอกนะ เพราะเป็นคนไม่มีศิลปะอย่างแรง 555 พอตกดึกหน่อย เห็นออนเซนเงียบ เลยเดินๆเข้าไปส่อง จริงๆเค้าแบ่งเป็นเวลานะ แบบเช้า-เย็น ของผู้ชาย ผู้หญิง คนละฝั่งให้ดูคนละวิว พอเราเดินเข้าไปครั้งแรก บับเอ่อ... เอาไงดี แต่ก็มีแต่ป้าๆ อยู่แล้วกลัวไร เลยตัดสินใจไปเอาสิ่งของ ลงมาออนเซน พอมาถึงก็งงอีก เข้าลงกันไงหว่ะ เราลงบ่อตามการ์ตูนที่เห็นละบับคือร้อนน มากๆอะ ขึ้นเลยอะ!!! แล้วก็งงว่าเค้าทำกันอย่างไร พอเห็นคุณป้าเค้าทำ เราก็เหล่ๆว่าทำไง จริงๆเค้าไม่ให้เอามือถือ เข้าไปถ่ายเลยนะ เราเลยเซฟภาพมาจาก booking.com ที่เราจอง

CR:booking.com

อันนี้จะเป็นออนเซนชั้นบน

CR:booking.com

อันนี้จะเป็นออนเซนชั้นบน หลังจากแช่ออนเซนเสร็จเราก็ขึ้นมานอน คือเข้าใจเลย แบบหลับสบายมากจริงๆ ติดใจมากอะ เราพักที่นี่ 2 คืน พอตอนเช้าเราก็ไปกินอาหารเช้าที่รวมอยู่ในค่าที่พักแล้ว อาหารดีมากนะ ซึ่งเป็นอาหาร ญี่ปุ่นหมดเลย หลังจากทานอาหารเสร็จเราก็เตรียมตัวจะไป เล่น บอร์ดที่ ภูเขาซาโอะ การเดินทางไปที่นั่น ต้องแท๊กซี่เท่านั้น คือ พนักงานก็ดีมากๆอะ มีการโทรเรียกต่อราคาให้ด้วยง่ะ ***คือทั้งหมดทั้งมวลนี้อยากจะบอกว่าพนักงานดีมากจริงๆอะ อยากมาอีกเลย ไว้มีโอกาสยังไงก็จะมาอีกนะ ไม่พลาดแน่นอน ชั้นรักที่นี่ รักพนักงาน และก็กล้าแช่ออนเซนละด้วย*** วิธีการเดินทางมาโรงแรมนี้คือ เปลี่ยนสายจาก สถานี ยามากาตะ แล้วมาลงที่ Kaminoyama-Onsen Station หลังจากนั้น เรียกแท๊กซี่ประมาณ 800 เยนเท่านั้น

  หากใครต้องการมาเที่ยวยัง Yamagata แบบสบายๆ 3 วัน  2 คืน. เราขอแนะนำทัวร์พิเศษที่จะทำให้คุณรู้จัก Yamagata มากยิ่งขึ้น โดยในทริปนี้คุณจะได้ทำกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น เยี่ยมชมวัด Yamadera  บนยอดเขา  เข้าพักที่ Ginzan Onsen อันเก่าแก่ของที่นี่ เยี่ยมชมภูเขา Mt. Gassan ที่มีความสูงกว่า 2,000 เมตร เยี่ยมชมการทำชาแบบญี่ปุ่นพร้อมสวมชุกิโมโน และเรียนรู้การทำเส้นโซบะ. อย่าลืมติดตาม SNOW MONSTER ของเราต่อด้วยนะ https://ohhotrip.com/3195/

ABOUT ME

kimbellz

เป็นคนชอบเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และ ตั้งใจว่าจะไปให้ได้ทุกปี

ดูบทความทั้งหมดโดย kimbellz